บทที่ 7 ก็น่ารักนะครับ แต่ไม่ใช่สเปก
“อะ...เอ่อ คนนั้นเป็นแค่คนรู้จักครับ ไม่ได้สนิทอะไรเลยครับ”
“นี่ขนาดไม่สนิทนะ แหม...กอดกันแน่นซะนัวขนาดนั้น ยังไม่ใช่ว่าที่เจ้าสาวอีกเหรอเนี่ย ตายๆ แล้วใครกันจ๊ะพ่อต้อม ว่าที่เจ้าสาวของเราน่ะ” นวลจันทร์เอ่ยแซวด้วยประโยคที่ทำให้เสกสรรอยากจะชักปืนมายิงคนพูดทิ้งซะให้รู้แล้วรู้รอด
แพรลานนาปัดมือหนาออกจากหน้าขา ก่อนจะลุกขึ้นยืนท่ามกลางสายตาของทุกคนที่หันมามองอย่างงงๆ
“เอ่อ...ขอโทษนะคะ คือน้องแพรเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีออร์เดอร์ด่วนแต่ยังไม่ได้บอกคนงาน ขอตัวไปทำธุระก่อนนะคะ” เธอจำต้องโกหก เพราะไม่สามารถทนฟังคำตอบของอีกฝ่ายได้
“งั้นผมขอตัวตามน้องแพรเข้าไปดูในไร่เลยนะครับ” น่านนาวาลุกยืนเตรียมพร้อมจะไปกับสาวเจ้า
“น้องแพรจ๊ะ ยายฝากพี่นาวาด้วยนะลูก” นวลจันทร์ส่งยิ้มให้ หญิงสาว
“ได้ค่ะคุณนวล ไปค่ะพี่นาวา” แพรลานนาพยักหน้าชวนอีกฝ่ายยิ้มๆ
“เดี๋ยวน้องแพร ” เสกสรรลุกขึ้นดึงแขนบางเอาไว้ทันใด
“ตาต้อมนั่งลง ” เพียงดาวเอ่ยเสียงเย็น พร้อมกับจ้องมองหลานชายตัวดีด้วยสายตาที่เอาเรื่อง
เสกสรรตัดใจยอมปล่อยมือของสาวเจ้าแต่โดยดี แต่ก็ไม่วายต่อว่าในใจ
‘หึ ระริกระรี้เชียวนะ’
“ขอตัวก่อนนะคะ” แพรลานนายิ้มยั่วคนที่โดนใบสั่งอย่างชอบใจ
‘พระเจ้า สาบานเลยว่าเขาจะต้องต่อยไอ้หน้าจืดนี่ให้ได้ คอยดู’ เสกสรรมองตามร่างบางที่เดินไปกับอีกฝ่าย ด้วยความรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
“ว่าไงจ๊ะพ่อต้อม ตกลงว่าที่เจ้าสาวของเราน่ะเป็นใคร เอ๊ะ! ใช่สาวไทยหรือเปล่า” นวลจันทร์ถามต่ออย่างสนใจ
“สาวไทยครับ” เสกสรรตอบด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ
“อุ๊ย สาวไทยจริงๆ ด้วย” นวลจันทร์ยิ้มกว้างอย่างดีใจที่ทายถูก
“ได้กำหนดวันแต่งเมื่อไหร่ค่อยเปิดตัวแล้วกันนะนวล ตอนนี้อะไรๆ ก็ยังไม่ค่อยแน่นอนเท่าไหร่จ้ะ” เพียงดาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ก่อนจะปรายตามองคนที่นั่งอยู่อย่างสื่อความนัยบางอย่าง เสกสรรรีบหลบสายตาของผู้เป็นยาย พลางรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“เอ่อ...กับข้าวอร่อยมากเลยนะครับ ต้อมไม่ได้ทานอาหารไทยนานแล้ว ไปทานที่ไหนก็ไม่อร่อยเหมือนทานที่ไร่ของยาย” เสกสรรรีบเปลี่ยน เรื่องคุย
“ไม่น่าเชื่อนะว่าพ่อต้อมจะชอบอาหารไทย ”
“แหม ต่อให้หน้าตาไม่เหมือนคนไทยเท่าไหร่ แต่ต้อมก็หลงใหลในความเป็นไทยทุกอย่างครับ” เสกสรรรีบเอ่ยเอาใจบุคคลที่กุมชะตาความรักของตนกับ สาวเจ้าทันใด
“น่าภูมิใจแทนเธอจริงๆ นะเพียงที่มีหลานชายน่ารักแบบนี้”
“แหม พ่อนาวาก็ใช่ย่อยซะที่ไหน ได้ข่าวว่าฮ็อตจนดารานางแบบไทยยื้อแย่งกันอยู่ไม่ใช่เหรอ ” เพียงดาวหันไปส่งยิ้มให้คนที่หลงใหลในความเป็นไทยอย่างขำๆ ‘หึ นี่ขนาดหลงใหลนะ ปีหนึ่งมาไม่ถึงเจ็ดวัน’
“ฉันน่ะกลัวมากๆ เลยนะตอนแรก แต่พอนาวาบอกว่ายังไม่เจอคนที่ใช่ ฉันละแทบจะจุดพลุฉลอง”
“ทำไมล่ะ ?”
“ก็กลัวว่าจะได้ผู้หญิงพวกนั้นเป็นหลานสะใภ้สิเธอ”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ ?”
“แต่ละนางนี่สุดๆ ทั้งนั้นเลย”
“เอ...แบบนี้จะได้หลานสะใภ้หรือเปล่าจ๊ะนวล” เพียงดาวอดแซวเพื่อนเก่าไม่ได้
“ไม่แน่ วันก่อนพ่อนาวาเขามาไม่ได้เพราะติดประชุม เจ้าตัวก็บ่นแล้วบ่นอีกว่าเสียดาย พอวันนี้รู้ว่าฉันจะมาที่ไร่ก็โทร. ไปสั่งยกเลิกประชุมกะทันหันแน่ะเพียง”
“อ้าว จริงเหรอเนี่ย” เพียงดาวตกใจนิดๆ กับคำบอกเล่าของเพื่อน
“อืม สงสัยว่าจะเจอคนที่ใช่เข้าแล้วน่ะ คิกๆๆ” นวลจันทร์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เมื่อนึกไปถึงอาการของหลานชาย
ครืดดดด
ร่างสูงที่อยู่ๆ ก็ลุกขึ้นยืนอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาเพียงดาวกับนวลจันทร์ตกใจไปตามๆ กัน
“พ่อต้อมเป็นอะไรหรือจ๊ะ” นวลจันทร์ถามอย่างสงสัย
“เอ่อ...พอดีต้อมเพิ่งนึกได้ว่าสั่งงานคนสนิทเอาไว้น่ะครับ ไม่รู้ว่าเป็นยังไงมั่ง ขอตัวไปดูก่อนนะครับ” คนที่นั่งไม่ติดเอ่ยกลบเกลื่อนอาการร้อนรุ่มในใจ หลังจากที่รู้แน่ว่าอีกฝ่ายมาเพื่ออะไร
เพียงดาวมองดูหลานชายด้วยความรู้สึกสะใจนิดๆ ที่เห็นอีกฝ่ายมีอาการขึ้นมา
สองปีก่อน...
‘ต้อมว่า...น้องแพรน่ารักไหม ?’ เพียงดาวลองหยั่งเชิง หลังจากที่แอบสังเกตสายตาของหลานชาย เวลาที่จ้องมองเด็กสาวในอุปการะมาได้สักพัก
‘ก็น่ารักนะครับ แต่ไม่ใช่สเปกต้อม’
คำตอบนั้นทำให้เพียงดาวไม่กล้าเอ่ยถามอะไรต่อ เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะคิดว่าตนจะจับคู่ให้ แล้วพานไม่อยากมาหาตนที่ไร่อีก
แต่อยู่ๆ เมื่อคืนกลับโผล่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แถมมีเรื่องที่ทำให้ตนแทบช็อกจนเกือบจะเป็นลมที่เห็นทั้งสองนอนอยู่บนเตียง ในสภาพที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในค่ำคืนที่ผ่านมา เพราะร่องรอยทุกอย่างชัดเจนจนไม่ต้องคาดเดาเหตุการณ์ใดๆ
เธอยอมรับว่าออกจะมึนงงไปสักนิด แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่หวังอยู่ในใจมาตลอด ที่จะให้ทั้งสองแต่งงานกัน ซึ่งผิดกับเมื่อสองปีก่อนลิบลับ
แต่จากคำพูดเมื่อครู่ของนวลจันทร์ เกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงที่เยอะแยะมากมายของอีกฝ่าย ก็ทำให้เธอกังวล...บางทีถ้าเสกสรรยังไม่พร้อมจะหยุดที่การแต่งงาน เธอคงจะรู้สึกผิดที่ไปเห็นดีเห็นงามด้วย แล้วเด็กสาวที่เธอรับอุปการะเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กและรักดั่งลูกดั่งหลานแท้ๆ จะต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงกับชายหนุ่มที่มีข่าวฉาวเรื่องผู้หญิงจนนับไม่ถ้วน ก็ดูจะไม่ยุติธรรมกับแพรลานนาเอาซะเลย คืนนี้คงต้องเรียกทั้งสองเข้าไปเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
“รีบไปเถอะจ้ะ” คุณนวลจันทร์ยิ้มอย่างเข้าใจ
“ผมขอตัวก่อนนะครับ” เสกสรรเอ่ยเสร็จก็เดินออกห้องไปอย่างไม่รอช้า เพียงดาวมองตามหลานชายคนโตที่เดินออกไปด้วยสายตานิ่งๆ
“แล้วหลานชายอีกคนของเธอล่ะ คารอส เพชรดนัย ใช่ไหม ?”
“ใช่จ้ะ”
“ฉันคงจะมีโอกาสได้เจอนะ แต่ที่แน่ๆ ลูกสาวของเธอน่ะ หนูพราวดาราจะกลับมาเที่ยวที่ไทยเมื่อไหร่กันจ๊ะ” นวลจันทร์ถามอย่างสนใจ
“ไม่ต้องห่วงหรอกนวล เดี๋ยวเธอได้เจอครบแน่ๆ เพราะทุกคนจะเดินทางมาในงานแต่งของตาต้อมที่นี่จ้ะ” เพียงดาวตอบอย่างมั่นใจ
“เยี่ยมเลย ฉันจะได้นัดลูกชายกับลูกสะใภ้ให้มาเจอหน้าพร้อมๆ กัน คงจะสนุกดีเนอะ เธอว่าไหมเพียง” นวลจันทร์เสนอความคิดด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“ได้สินวล เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกทีนะ”
เพียงดาวยิ้ม ก่อนจะชวนเพื่อนย้ายขึ้นไปห้องนั่งเล่นที่ชั้นสาม เพราะมีกล้องส่องทางไกลที่สามารถส่องดูส่วนต่างๆ ของไร่ได้อย่างชัดเจน โดยที่ไม่ต้องออกไปเดินดูเหมือนกับคนหนุ่มคนสาว













