บทที่ 6 6

ไปเพราะวันนั้นเป็นวันที่ย่าป่วยหนักจนรัญชน์ไปรับมารักษาตัวที่เมืองหลวง แล้วก็ให้ย่าอยู่ที่นี่เลย เพื่อเขาจะได้ดูแลสะดวก”

“คุณย่า...” หญิงสาวครางลึกในลำคอ หยาดน้ำปริ่มคลอหน่วยตา อ่อนแรงจนต้องทรุดคุกเข่าลงบนพื้นข้างเตียงอีกครั้ง “ขวัญโดนรถชนเมื่อสามปีก่อนค่ะ ความจำบางส่วนหายไป ขวัญจำคุณย่าไม่ได้จริงๆ รู้เพียงมีคนส่งเสีย ถามพี่เลี้ยงในสถานกำพร้า เขาก็บอกแค่ว่าไม่เจอคนที่ส่งขวัญเรียนมานานแล้ว”

“รถชน ความจำเสื่อม จำผู้มีพระคุณไม่ได้? ยังกับละครน้ำเน่าไม่มีผิด” เสียงทุ้มแว่วมากวนประสาทเธอ

“ขวัญขอบคุณคุณย่ามากเลยนะคะที่เอ็นดูขวัญ ขวัญจะตอบแทนคุณย่าเอง”

“คงเห็นว่าคุณย่ารวยละสิ จู่ๆ ก็กลับตาลปัตร” ชายหนุ่มยังคงส่งเสียงยียวน

“เงียบๆ เถอะรัญชน์ อย่าว่าน้อง” เรไรเอ็ด ทำเอาเขาหน้าม่อย เงียบไปในทันที

“หนูขวัญ...” เรไรจับมือเรียวมากุมไว้ แววตาเปี่ยมด้วยความหวัง “หนูจำได้ไหมว่าตอนที่หนูอายุสิบเจ็ดเคยให้สัญญาอะไรกับย่า”

“สัญญา?” คิ้วโก่งเลิกสูง ก่อนส่ายหน้า ยิ้มเจื่อน “ขอโทษค่ะคุณย่า ขวัญจำอะไรไม่ได้เลย”

“ย่าเคยถามว่าถ้าหนูยังไม่มีแฟน จะมาเป็นหลานสะใภ้ของย่าได้ไหม หนูก็ตอบตกลงแล้ว มาวันนี้ย่าขออนุญาตทวงสัญญานะจ๊ะ”

“ฮะ!” หญิงสาวอ้าปากค้าง “ขวัญเคยสัญญาอะไรแบบนั้นด้วยหรือคะ”

“ใช่ หนูอาจคิดว่าแค่พูดเล่นๆ แต่สำหรับย่าน่ะจริงจังมากนะ ย่าเอ็นดูหนู เห็นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยก็เหมือนหลานคนหนึ่ง หนูเป็นเด็กดี ย่าก็อยากให้มาเป็นแฟนกับพ่อหลานชายตัวดี ย่าไม่ได้เจอหนูนานมากแล้ว แต่ก็นึกถึงตลอด จนตอนนี้ย่าเริ่มรู้สึกว่าตัวเองแก่ขึ้นเรื่อยๆ แปดสิบเจ็ดปีแล้วจ้ะ ไม่รู้จะอยู่ได้นานอีกเท่าไหร่ ย่าเลยให้รัญชน์ตามหาหนูจนได้ความว่าหนูมาเป็นครูที่กรุงเทพ ย่าขอโทษนะที่จะรวบรัดให้หนูเป็นหลานสะใภ้เลย จัดเตรียมงานไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยไม่ถามความเห็นก่อน ก็เท่าที่สืบดู หนูก็ยังโสดนี่นา ส่วนหลานของย่าก็โสด ฐานะก็ดี หนูคงไม่ปฏิเสธใช่ไหมจ๊ะ”

แม้น้ำเสียงจะเนิบนาบอ่อนโยน แต่หญิงสาวกลับรู้สึกว่ากำลังโดนบังคับอยู่ในที เรไรเอาแต่ใจไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงจะใจดีแต่ก็ไม่ควรเตรียมงานแต่งแล้วให้หลานชายไปพาตัวเธอมาอย่างกะทันหันแบบนี้

วูบหนึ่งที่ปลอบขวัญรู้สึกไม่พอใจ แม้หญิงชราจะมีบุญคุณต่อเธอก็ตาม “คุณย่าจะว่าอะไรไหมถ้าขวัญปฏิเสธ”

“ทำไมละจ๊ะ” เรไรชักสีหน้า คิ้วขมวด

“ขวัญไม่อยากแต่งงานกับอีตาโรคจิตคนนี้ค่ะ” เธอชี้มือไปทางเบื้องหลังซึ่งมีร่างสูงตระหง่านยืนอยู่

“นี่คุณ พูดดีๆ หน่อย” ชายหนุ่มออกอาการร้อนรนทนไม่ได้ จนต้องรีบขัด “คิดว่าผมอยากแต่งงานกับคุณนักหรือไง คุณย่าครับ ผมไม่อยากแต่งงานกับผู้หญิงที่มีขนตาหนาเหมือนกันสาดครับ ขอบตาดำปื้ดยังกับหมีแพนด้า ปากก็น่ากลัวยังกับผีดูดเลือด ใครจะกล้าจูบ ถ้าผมแต่งงานกับปลอบขวัญ คุณย่าคงไม่มีโอกาสได้อุ้มหลานหรอก เพราะแค่เห็นหน้าเมีย ผมก็เซ็กซ์เสื่อมแล้ว”

“ว้าย!” ปลอบขวัญตบอกผาง ไม่คิดจะเจอคำพูดแสนร้ายกาจเช่นนี้ เธอยืนขึ้น โวยลั่นไม่ยอมแพ้ “แล้วคิดว่าฉันอยากแต่งกับคุณนักเหรอ คุณน่ะมีดีแค่หน้าตากับฐานะ แต่อย่างอื่นห่วยมาก”

“อะไรที่ว่าห่วย”

“ปากคุณไง”

ชายหนุ่มบดกราม ขยับมายืนชิดใกล้เธอแล้วกระซิบบอกแบบให้ได้ยินกันเพียงสองคนเท่านั้น “กล่าวหาว่าปากผมห่วย แต่ตอนผมจูบคุณ เห็นตัวอ่อนปวกเปียก นึกว่าชอบปากผมซะอีก”

ปลอบขวัญหน้าแดงระเรื่อ เม้มปากแน่น ก่อนชี้หน้าเขา “ถ้าให้แต่งงานกับคุณ ฉันยอมเป็นโสดทั้งชาติ”

“ถ้าต้องมีคุณเป็นเมีย ผมคงโชคร้ายไปทั้งชีวิต”

หนุ่มสาวจ้องหน้ากันเอาเรื่อง หากมีประกายไฟแล่นออกมาได้ ป่านนี้ทั้งคู่คงต่างมอดไหม้เป็นผงธุลีไปแล้ว เรไรฟังการโต้คารมแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า

“ทะเลาะกันอย่างกับเด็กๆ รัญชน์ แกก็รู้นิสัยแม่ของแกดีนะ วันๆ ขยันหาแต่ผู้หญิงจี๊ดจ๊าดมาให้เป็นเมียแก แกไม่รำคาญบ้างหรือไง แต่งกับหนูขวัญนี่ละ ย่าคิดว่าหนูขวัญดีกว่าสาวๆ พวกนั้นตั้งเยอะ”

“คุณย่าคะ คือขวัญไม่...” พูดไม่ทันจบ เสียงไอค้อกแค้กก็ดังขึ้น เรไรไอโขลกจนตัวโยน เอ่ยเสียงแหบแห้ง

“ถือว่าเห็นแก่คนใกล้ตายเถอะ ช่วยให้ย่าสมหวังจะได้ไหม”

“ได้ครับคุณย่า ผมจะแต่งงานกับขวัญ ในเมื่อเป็นความต้องการของคุณย่า” ชายหนุ่มรับคำ เขารักย่ามาก และรำคาญที่แม่ชอบหาสาวๆ มาใส่พานถวายเขาแทบไม่เว้นแต่ละวัน

บางทีการแต่งงานกับใครสักคน ถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว หนึ่งคือทำให้คุณย่ามีความสุข สองคือตัดปัญหาเรื่องสาวๆ ที่แม่หามา และถ้าวันไหนที่รู้สึกจะไปกับปลอบขวัญไม่รอด ทางออกก็ยังพอมี... นั่นคือใบหย่า!

“เอ๊ะ คุณ... ถามความเห็นฉันก่อนสิ” หญิงสาวแหว

“คุณไม่คิดจะทำเพื่อคนที่ส่งเสียให้การศึกษาจนคุณได้เป็นครูจนทุกวันนี้บ้างหรือไง คนอะไรใจดำ”

“เอ๊ะ!” ปลอบขวัญตาเขียว แต่สักพักแววตาก็เริ่มเป็นประกายระยิบระยับเมื่อนึกแผนการบางอย่างออก เธอจึงพยักหน้ายอมรับ “ค่ะ ตามนั้น ตอนนี้ขวัญง่วงแล้วค่ะคุณย่าขา ขอตัวไปนอนก่อนได้ไหม”

“ไปสิจ๊ะ ย่าให้คนจัดห้องไว้ให้หนูแล้ว”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป