บทที่ 6 บทที่ 6

“มาอยู่กับเรา!” สาวใหญ่เผลออุทานเสียงสูงแหลมอย่างลืมตัว

“ใช่” ไวแอตพยักหน้าน้อยๆ “มีอะไรหรือเปล่าที่รักทำไมทำเสียงแบบนั้น”

“เอ่อ...เปล่าค่ะ เพียงแต่แพรวไม่ทันได้ตั้งตัวเท่านั้น คุณน่าจะบอกก่อนแพรวจะได้ดูแลเรื่องห้องหับไว้ให้” แพรวดาวปรับน้ำเสียงและสีหน้าให้เป็นยิ้มแย้ม ทั้งๆ ที่ในใจตอนนี้ร้อนรุ่มดุจไฟผลาญเต็มที เพราะไม่ชอบหน้าสองสาวพี่น้องนั่นเท่าไหร่นัก แม้จะเป็นญาติห่างๆ ของผู้เป็นสามีก็ตาม

“ผมไม่อยากให้คุณเหนื่อย...” คนเป็นสามีบอกอย่างยิ้มแย้ม“...เรื่องนั้นให้แม่บ้านจัดการดีกว่า”

“แล้วสองคนนั่นจะมาอยู่ที่นี่นานมั้ยคะ”

“คงจะอยู่จนกว่าเทเรซ่าจะแต่งงานกับเมสันนั่นแหละ ส่วนธัญญ่าก็จะมาช่วยดูแลผม ผมว่าดีเสียอีกคุณจะได้ไม่เหนื่อยเกินไป”ไวแอตหันมาสบตากับแพรวดาวทำให้เธอต้องจำใจฉีกยิ้มกว้างๆ และแสร้งทำหน้าระรื่น

“ความจริงแพรวก็ไม่ได้เหนื่อยอะไรหรอกนะคะ แต่คิดๆ ไปก็ดีเหมือนกัน เพราะธัญญ่าเป็นพยาบาลน่าจะช่วยแพรวได้เยอะเชียวค่ะ” อดีตนางแบบสาวพูดในสิ่งที่ตรงข้ามกับความรู้สึกของตัวเองอย่างสิ้นเชิง

ละอองฝนยืนฟังเงียบๆ เช่นเดิม เธอไม่ได้สนใจว่าใครจะไปใครจะมา แต่สิ่งที่เธอสนใจก็คือเรื่องที่ม้าในฟาร์มตกลูก และมันเป็นลูกของเจ้าเฮดีสซึ่งเป็นม้าตัวโปรดของเมสัน เธอใคร่อยากเห็นนักว่าม้าตัวน้อยที่เพิ่งจะคลอดออกมาใหม่นั้นจะมีรูปร่างหน้าตาแบบไหน จะเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย และจะสง่างามเหมือนเจ้าเฮดีสหรือเปล่า

หลังจากเก็บโต๊ะเรียบร้อย สาวน้อยก็จัดการกับอาหารเช้าของตัวเอง จากนั้นก็หยิบเอาหนังสือออกไปนั่งอ่านใต้ต้นแอปเปิลข้างๆ คฤหาสน์ที่กำลังออกลูกแดงสะพรั่งเต็มต้น หนังสือที่ละอองฝนอ่านเป็นวรรณกรรมภาษาอังกฤษซึ่งเป็นหนังสือประเภทที่เธอโปรดปรานมากที่สุดมาตั้งแต่เด็ก ผลจากการอ่านอยู่บ่อยๆ ทำให้เธอเป็นคนที่มีทักษะทางด้านภาษาอังกฤษดีเยี่ยม ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยเธอก็เลือกเรียนในสาขาที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ และก็อดเสียใจไม่ได้ที่ต้องลาออกทั้งๆ ที่เพิ่งจะเริ่มเรียนได้แค่เทอมเดียว สาวน้อยหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะมีโอกาสได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแห่งใดแห่งหนึ่งที่นี่ แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้ชีวิตของเธอขึ้นอยู่กับผู้เป็นมารดาเพียงคนเดียวเท่านั้น

สายลมเย็นๆ ซึ่งพัดโชยมาท่ามกลางบรรยากาศที่รายล้อมด้วยเนินหญ้าและต้นไม้สีเขียวขจีอันแสนสงบทำให้ละอองฝนเพลิดเพลินกับการอ่านหนังสือจนเหมือนได้หลุดเข้าไปในโลกจินตนาการของตนรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีรถแล่นเข้ามาจอดยังหน้าคฤหาสน์ ซึ่งคนที่ก้าวลงจากรถเป็นคนแรกก็คือเอเดรียนคนสนิทของเมสัน และอีกสองคนเป็นสองสาวชาวอเมริกัน รูปร่างหน้าตาดีทั้งคู่ซึ่งสาวน้อยคาดว่าคงจะเป็นเทเรซ่ากับธัญญ่าที่ไวแอตกับเมสันพูดถึงเมื่อเช้านี้ เธอไม่เคยเห็นทั้งสองคนมาก่อน แต่คนเป็นแม่น่าจะเคยเห็นเพราะไปงานเลี้ยงข้างนอกกับไวแอตบ่อยๆ คงมีโอกาสเจอกันบ้าง

เอเดรียนมองมายังละอองฝน หลังจากที่เขาหิ้วกระเป๋าเข้าไปส่งเทเรซ่ากับธัญญ่าในคฤหาสน์แล้ว ชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดก็เดินตรงมาหาทันที

“พี่เอเดรียน...”

ละอองฝนยิ้มทักทาย ในไร่แห่งนี้เอเดรียนคือคนที่เธอสนิทสนมด้วยมากที่สุด เพราะตอนที่แอบเข้าไปเที่ยวในฟาร์มเขาจะเป็นคนคอยพาเธอดูม้าและยังสอนให้เธอขี่ม้าด้วย

“ทำอะไรอยู่เหรอออม”

“กำลังอ่านหนังสือค่ะ” สาวน้อยคลี่ยิ้มหวาน “พี่เอเดรียนกำลังจะเข้าฟาร์มใช่ไหม เมื่อเช้าออมได้ยินคุณเมสันพูดว่าพรีมโรสตกลูก”

“ใช่...เป็นม้าเพศผู้ด้วยนะออม ลักษณะสง่างามและท่าทางจะพยศแรงเหมือนเจ้าเฮดีสไม่มีผิด พี่อยากให้ออมเห็น ออมคงชอบมัน”

คำบอกเล่าของเอเดรียนทำให้ดวงตาคู่สวยไหวระริกด้วยความอยากรู้อยากเห็นทันที แต่ก็ต้องควบคุมความรู้สึกนั้นเอาไว้อย่างเต็มที่ ด้วยเพราะรู้ว่าเจ้าของฟาร์มไม่ชอบให้เธอไปยุ่มย่ามในอาณาจักรและของของเขา

“ออมคงไปตอนนี้ไม่ได้หรอกค่ะพี่เอเดรียน พี่ก็รู้ว่าเพราะอะไร...”

“ถ้างั้นว่างๆ ออมแวะไปนะ เอาไว้ไปวันที่คุณเมสันไม่อยู่ก็ได้”

“ค่ะ” ละอองฝนพยักน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยถามในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ “แล้วเจ้าม้าน้อยมีชื่อหรือยังคะพี่เอเดรียน”

“ตอนนี้น่าจะมีแล้ว เมื่อเช้าคุณเมสันเข้าไปดูคงจะจัดการตั้งชื่อให้มันเรียบร้อยแล้วล่ะ”

“อยากรู้จังนะคะว่ามันจะชื่อว่าอะไร...” เสียงหวานเอ่ยเหมือนกับรำพึง

“ตอนเย็นลองถามคุณเมสันดูสิ”

ถามเมสันอย่างนั้นหรือ! แค่ต้องยืนเผชิญหน้ากับเขาเพียงไม่กี่วินาทีก็ทำเอาเธอหายใจแทบไม่ออกแล้ว นับประสาอะไรกับจะให้ไปละลาบละล้วงถามเขาแบบนั้น มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย สาวน้อยบอกตัวเองในใจ ก่อนจะยิ้มละไมให้เอเดรียนเช่นเดิม

“พี่เอเดรียนกลับฟาร์มเถอะค่ะ เดี๋ยวออมก็จะเข้าบ้านแล้ว มีแขกมาเผื่อคุณลุงอยากจะไหว้วานให้ออมทำอะไร”

“ถ้าอย่างนั้นพี่ไปก่อนนะ เอาไว้เจอกัน” เอเดรียนยกมือขึ้นเป็นเชิงเอ่ยลา ใจจริงอยากจะยกมือขึ้นขยี้ผมนุ่มสลวยของเธอด้วยความเอ็นดู แต่ก็รู้ว่าสาวน้อยมีฐานะเป็นหลานสาวของภรรยาเจ้านายจึงหักห้ามใจเอาไว้แค่นั้น

บทก่อนหน้า
บทถัดไป