บทที่ 2 2

“เราจะทำการบ้านวิชาอะไรกันก่อนครับ” เขื่อนเอ่ยถามเด็กๆ

“ทำการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ก่อนค่ะ” มาหยาเป็นคนตอบ เด็กๆ ทั้งสามนั่งล้อมหน้าล้อมหลังเขื่อนอยู่

“เปิดสมุดการบ้านเลยครับ” การบ้านวิชาคณิตศาสตร์คือการบวกลบตัวเลข ซึ่งจะมีรูปภาพต่างๆ ทั้งผลไม้บ้าง ผักบ้าง สัตว์บ้างอยู่ด้านหนึ่ง มีเครื่องหมายเท่ากับอยู่ตรงกลางให้แปลงรูปภาพเป็นตัวเลขแล้วนำมาบวกลบกัน จะได้ผลลัพธ์ในช่องสุดท้าย

“ข้อที่หนึ่งนี่ลูกอะไรครับ” เขื่อนชี้ไปที่สมุดการบ้านเด็กๆ พลางเอ่ยถาม

“หนูตอบค่ะ หนูตอบ ผมตอบ”

“ตอบทีละคนครับ เขตต์ตอบก่อนแล้วกัน”

“ชมพู่ครับ”

“เก่งมาก” เขื่อนหอมแก้มหลานชายฟอดใหญ่ เขตต์      อมยิ้มแก้มพองที่ได้รับคำชม

“นี่เครื่องหมายอะไรครับ”

“มาหยาหรือดารินตอบดี”

“รินตอบได้ไหมคะ” ดารินเอ่ยถามเหมือนไม่แน่ใจ

“ได้ครับ” เขื่อนพูดอย่างใจดีโยกศีรษะเล็กๆ อย่างเอ็นดู

“เครื่องหมายบวกค่ะ”

“เก่งมากครับ” เขื่อนเอ่ยชม

“แล้วนี่ผลไม้อะไรครับ” เขาชี้รูปผลไม้สองภาพหลังเครื่องหมายบวก

“แอปเปิ้ลค่ะอาหมอก็จะได้สามบวกสองค่ะ” มาหยาตอบเสียงดังฟังชัดเขียนเลขสามบวกเลขสองลงในช่องถัดไป มาหยาติดเรียกเขื่อนว่าอาหมอเพราะบิดามารดาบอกว่าเขื่อนเป็นหมอ

“เก่งมากครับ” เขื่อนเอ่ยชม

“หอมแก้มหยาด้วย” มาหยาเอ่ยขอเพราะเห็นว่าเขตต์ตอบถูกเขื่อนก็หอมแก้ม

“เค้าไม่ให้อาของเค้าหอมแก้มตัวหรอก” เขตต์ขึ้นไปนั่งตักอย่างหวงๆ

ตอนนั่งมาในรถมารดาสอนมาหยาว่าให้เห็นใจเขตต์เพราะเขตต์ไม่มีพ่อแม่ พ่อแม่ตายหมดก็เลยเกเร มาหยาเลยขยับไปหอมแก้มเขื่อนแทน เขื่อนหน้าแดงเล็กน้อยที่โดนเด็กหอมแก้ม

“ตัวมาหอมแก้มอาเขื่อนของเค้าได้ยังไง”

“ทำไมล่ะ เค้าจะหอมแก้มอาของตัว” มาหยายิ้มยิงฟันให้เพื่อน

“งั้นรินก็หอมแก้มอาหมอได้ใช่ไหมคะ รินไม่เคยหอมแก้มคุณพ่อเลย อยากหอมจะแย่” ดารินมองแก้มใสๆ ของเขื่อนไม่วาง

“เค้าไม่ให้ใครหอมแก้มอาเขื่อนของเขานะ” เด็กชายอ้วนตุ๊บขี้หวงพูดขึ้น

“ขี้หวงจริง ถ้านายให้รินหอมแก้มอาหมอ พรุ่งนี้เราจะแบ่งหมูปิ้งให้ก็ได้ แม่เราจะทำหมูปิ้งด้วยแหละ” มาหยาสงสารดารินเพราะอยากหอมแก้มเขื่อนบ้าง เลยเอาของกินมาหลอกล่อเขตต์

“ก็ได้ๆ แต่ให้หอมทีเดียวนะ” คนขี้หวงยังไม่ยอมง่ายๆ แต่นึกถึงหมูปิ้งก็เลยยอมใจอ่อน มาหยาแอบขำเพราะรู้จุดอ่อนของเพื่อนตัวอ้วนเห็นแก่กิน

ดารินหอมแก้มเขื่อนฟอดใหญ่แล้วเริ่มทำการบ้านต่ออย่างมีความสุข

“สามบวกกับห้าได้เท่าไหร่ครับ” เขื่อนเอ่ยถามเด็กทั้งสาม

“สามบวกกับห้า” มาหยายกนิ้วขึ้นนับ

“แปดค่ะ”

“เก่งครับ” เขื่อนขยับเข้าไปหอมแก้มเด็กน้อยยิ้มๆ มาหยาคุ้นชินกับโดนอาหมอหอมแก้มในขณะที่นั่งก้มหน้าก้มตาเขียนเลขแปดลงไปในเส้นประสุดท้ายซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการบวกเลข

“ข้อต่อไปเป็นอะไร”

“เป็นลบค่ะ” ดารินเอ่ยตอบ เขื่อนนึกชมอยู่ในใจว่าเด็กทั้งสามนั้นหัวดี

“ม้าห้าตัวลบไก่สองตัวเหลือสามตัวครับอาเขื่อน” เขตต์รีบเอ่ยตอบ

“เก่งมากครับ” เขตต์ก้มลงไปหอมแก้มป่องๆ ของหลานชาย ตอนนี้เขตต์ยอมให้ผู้เป็นอาหอมแก้มเพื่อนทั้งสองเพราะเห็นแก่หมูปิ้งแสนอร่อยในวันพรุ่ง

หลังจากจบวิชาคณิตศาสตร์ก็ทำการบ้านวิชาภาษาไทยต่อ โดยให้โยงเส้นจับคู่ภาพ นิ้วเล็กๆ ป้อมๆ ของเด็กๆ รีบชี้ไปยังรูปภาพ

“อันนี้กาค่ะ ถูกไหมคะอาหมอ” มาหยาจิ้มนิ้วเล็กๆ จับคู่ภาพในสมุดการบ้าน

“ถูกครับ เก่งมากเลยครับ” แก้มใสๆ ของเด็กน้อยโดนหอมอีกฟอดใหญ่

“อันนี้ม้าครับ” เขตต์เบียดเข้าไปหาผู้เป็นอาอยากให้ผู้เป็นอาหมอแก้มบ้าง

“ใช่ครับ” เขื่อนใจดีแจกการหอมแก้มให้เด็กน้อยทั้งสามไม่อั้น

“อันนี้ตาค่ะ”

“ใช่ครับ ตออาตา” เขื่อนให้เด็กๆ หัดสะกดคำด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นพยัญชนะและสระง่ายๆ

“เหลือการบ้านวิชาศิลปะเป็นวิชาสุดท้ายใช่ไหมครับ” เขื่อนเอ่ยถามหลังจากทำการบ้านวิชาภาษาไทยเสร็จแล้ว

“ใช่ค่ะอาหมอ คุณครูให้วาดภาพระบายสีค่ะ”

“ใช้สีอะไรครับ” เขื่อนเอ่ยถาม

“สีไม้ค่ะ”

“งั้นจัดเลยครับ หยาจะวาดภาพอะไร” เขื่อนเอ่ยถามเด็กน้อย

“ภาพบ้านค่ะ แล้วก็มีภูเขา มีต้นไม้ มีไก่ตัวเล็กๆ ด้วยค่ะ” มาหยาอยากวาดภาพธรรมชาติ จัดการวาดรูปภูเขาที่มีน้ำตกไหลลงมา มีที่นาเป็นสี่เหลี่ยมผืนเล็กๆ มีต้นไม้ มีไก่ และต้นมะพร้าวที่มีลิงปีนขึ้นไปเก็บลูกมะพร้าวอย่างสนุกสนาน

“รินวาดรูปอะไรครับ” เขื่อนเอ่ยถามดารินบ้าง

“รูปพ่อแม่ลูกค่ะ มีเพื่อนใหม่ด้วย หยากับเขตต์” สำหรับดารินแล้วการมีเพื่อนใหม่ มีครอบครัวที่อบอุ่นเป็นความปรารถนาสูงสุดของเธอ เธอวาดรูปพ่อแม่จับมือกัน เธออยู่ตรงกลาง มีเขื่อน มาหยาและเขตต์อยู่ในภาพด้วย

“นี่อาหมอค่ะ นี่หยาแล้วก็เขตต์” ดารินชี้ให้เขื่อนดู เขื่อนโยกศีรษะเล็กๆ ของดารินอย่างเอ็นดู เด็กน้อยมีแววเศร้าในดวงตาอย่างเห็นได้ชัด

มาหยาใส่ใจเพื่อนในทุกๆ เรื่อง แม้จะเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ แต่กลับมีน้ำใจต่อเพื่อนเสมอ เขานึกนิยมชมชอบพงศ์อินทร์กับรติรสที่เลี้ยงลูกได้น่ารักเช่นนี้ สอนให้ลูกมีน้ำใจเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น สอนให้กล้าแสดงออกและมีความเป็นผู้นำ

“นายเขตต์วาดรูปอะไร” มาหยาชะโงกหน้าไปดูก่อนจะร้องว้าว

บทก่อนหน้า
บทถัดไป