บทที่ 21 21

“แค่เห็นเพื่อนมีความสุขเราก็มีความสุขแล้วจ้ะ” ดารินรับของฝากมาจากเพื่อนด้วยรอยยิ้ม

“กำลังศึกษาท่ากามสูตรร้อยกว่าท่า” มาหยาพูดขำๆ     ดารินหัวเราะกับสีหน้าฟินๆ ปนทะลึ่งของเพื่อนนัก มาหยาคือความสุขและเสียงหัวเราะในชีวิตของเธอ ดารินคิดเช่นนั้นเสมอ

“อาหมอน่ารักและรักหยามากด้วย ห่วงใยหยาตั้งแต่เด็ก หยาโชคดีแล้วจ้ะที่มีอาหมอ”

“หยาก็รักรินนะ” มาหยารู้ว่าเพื่อนเหงาเพียงใด บิดาไม่ค่อยใส่ใจ เวลาเพื่อนเหงาๆ เธอก็ชวนไปนอนด้วยกันที่บ้านเป็นประจำ

“เราก็ดีใจนะที่มีหยาเป็นเพื่อน เพราะเราก็รักหยามากเช่นกัน” ดารินยิ้มอ่อนโยนให้เพื่อน จับมือเพื่อนมากุมเอาไว้

“ขอนอนพักอีกสักหน่อย มานอนเล่นกันเถอะ จะได้คุยกัน” มาหยาชวนเพื่อนไปนอนเล่นกันที่โซฟา คุยกันพักใหญ่ ก่อนที่คนชวนจะเผลอหลับไป ดารินนำผ้ามาห่มให้เพื่อน       ปรับแอร์ไม่ให้อากาศเย็นมากนัก ทิ้งตัวนอนลงอีกด้านตรงข้ามกันแล้วนอนมองเพื่อนอย่างนั้นด้วยรอยยิ้ม

ดารินคิดว่าอย่างน้อยก็มีมาหยามานอนเป็นเพื่อนกันในวันที่เธอต้องอยู่คนเดียว

บ้านของเธอไม่มีสาวใช้แต่เคยรับสาวใช้มาทำงานหลายคนแล้ว บิดาเข้าหาจนตั้งท้อง ต้องรับผิดชอบกันไป เธอจึงมีน้องชายและน้องสาวต่างสายเลือดอีกหลายคน แต่ไม่ได้สนิมสนมกันเลย พวกเขาจะมาหาเพื่อมาขอเงินเท่านั้น นั่นคือความโดดเดี่ยวของเธอที่ได้รับจากครอบครัวและบิดาเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่

หลังจากตื่นนอน มาหยาเห็นเพื่อนมีสีหน้าเศร้าๆ คงเหงาก็เลยชวนไปนอนค้างด้วยกันที่บ้านเสียเลย

“ไปกินข้าวบ้านหยา นอนกับหยาจะได้หายเหงา”

“ไปจ้ะ” ดารินรับคำ เธอยิ้มดีใจในคำชวนนั้น

บิดามารดาของเธอก็เอ็นดูเพื่อนค่อนข้างมาก ดังนั้น     ดารินจึงสามารถเข้านอกออกในบ้านของเธอได้ทุกเมื่อ

ดารินปิดบ้านอันแสนเงียบเหงาของตัวเอง เดินทางไปยังบ้านของเพื่อนรักแทน พอไปถึงบิดามารดาของมาหยาก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นเด็กๆ กลับมาแล้ว

“ไปเที่ยวกันเป็นยังไงบ้างลูก สนุกไหม” รติรสเอ่ยถามสองสาว

“สนุกค่ะคุณแม่ หนูซื้อของฝากมาให้คุณพ่อกับคุณแม่ด้วยนะคะ” มาหยาหยิบของฝากมาส่งให้บิดามารดา             ส่วนใหญ่เป็นของกินซึ่งเป็นสินค้าในท้องถิ่นที่ชาวบ้านทำขายกันในชุมชนเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว

“กลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนเถอะจ้ะ เดี๋ยวแม่จะทำของโปรดเอาไว้ให้เราสองคน” รติรสบอกเด็กๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“ค่ะคุณแม่” สองสาวตอบรับประสานเสียงกันด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพากันขึ้นห้องนอน

“อาบน้ำกันดีกว่า จะได้สดชื่น” มาหยาลากดารินเข้าไปอาบน้ำด้วยกัน เพราะชอบอาบน้ำด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ

“นี่รอยที่อาหมอทำเอาไว้เหรอ แดงเป็นจ้ำเชียว”

“อืม... ต้องใส่เสื้อผ้ามิดชิดหน่อย เดี๋ยวคุณพ่อกับคุณแม่เห็นเข้าจะสงสัย อาหมอเผลอดูดแรงไปหน่อย”

“ตอนดูดสยิวไหม” ดารินเอ่ยถามแล้วหน้าแดง แต่ก็อยากรู้อยากเห็นพอสมควร

“ต้องลองมีแฟนเอง” คนพูดยิ้มหวาน หัวเราะคิกคักแสนซน

“ไม่มีหรอก ไม่เห็นมีใครมาจีบเราเลยสักคน” ดารินพูดขำๆ

“ที่ไหนกัน อย่ามาๆ มีคนมาจีบเยอะแยะไปหมด เพื่อนหยาสวยขนาดนี้”

“แม่คนปากหวาน”

“รินไม่ชอบเองต่างหาก เดี๋ยวลงหวายเสียเลย ผู้ร้ายปากแข็ง” มาหยากุมแก้มเพื่อนรักก่อนจะตบเบาๆ ด้วยความเอ็นดูเพื่อน

“ไม่เอาดีกว่า กลัวเจอเหมือนพ่อ” คนไม่เคยเปิดใจให้ใครพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ถ้าเจอผู้ชายแบบบิดาเธอคงไม่แต่งงานอีกตลอดชีวิต มันเป็นความฝังใจที่มิอาจลืมเลือนได้

“ผู้ชายดีๆ มีเยอะแยะไป อาบน้ำกันดีกว่า คืนนี้จะได้นอนคุยกันด้วย มีเรื่องจะเมาท์มอยให้ฟังเยอะแยะเลย” มาหยาหมุนร่างเพื่อนให้หันหลังมาหาก่อนจะถูหลังให้ ดารินหัวเราะคิกคักมีความสุขเสมอที่ได้อยู่กับเพื่อนรัก

“มาจ้ะ หันหลังมาเดี๋ยวรินถูหลังให้หยาบ้าง”

มาหยาหันหลังให้ดารินถูหลังให้บ้าง ทั้งสองอาบน้ำกันอย่างสนุกสนานก่อนจะออกมาช่วยกันแต่งตัว

“ชุดชั้นในคอลเลกชั่นใหม่ นี่เลยเราซื้อมาเผื่อ เราใส่ไซซ์เดียวกันเลย” มาหยารีบหยิบชุดชั้นในสีหวานลายน่ารักออกมาให้เพื่อน

“น่ารักจัง ขอบใจจ้ะ” ดารินทาบไปกับลำตัว ก่อนลองสวมดู

“เราซื้อชุดนอนมาเผื่อด้วย คืนนี้ใส่ชุดนอนเหมือนกันนะ” ชุดนอนสีหวานลายลูกเป็ดถูกส่งยื่นให้ ดารินหัวเราะขำเพื่อนเบาๆ ก่อนรับมาทาบกับลำตัว ก่อนจะแต่งตัวลงไปรับประทานอาหารเย็นกับบิดามารดา

“สองแฝดมาแล้ว ดูสิแต่งตัวเหมือนกันยังกับแกะ” รติรสพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม มาหยายิ้มกว้างมองสบตากับแขกของบิดามารดาที่นั่งอยู่ตรงโซฟาในห้องรับแขกแล้วแก้มแดงปลั่ง        ส่วนแขกอีกคนที่ไม่คาดคิดว่าจะเจอก็เดินมาหาสองสาวก่อนจะกอดรัดแนบอก

“เฮ้ย! ไอ้หมูตอน” มาหยากับดารินมีท่าทีดีอกดีใจ

“หมูตอนอะไร ดูพูดเข้า ตาเขตต์น่ะไม่อ้วนแล้วนะลูก”     รติรสหันไปหัวเราะกับสามี

“มาได้ไงนี่” มาหยากับดารินเอ่ยถาม เขตต์ยิ้มกว้างให้เพื่อนรักทั้งสอง

“นั่งเครื่องบินมาไง”

“โอ๊ย! มีเรื่องจะเมาท์มอยกับนายเยอะแยะเลย ไม่เจอกันหลายปีโคตรคิดถึงเลย”

“คิดถึงเหมือนกัน เธอสองคนโตขึ้นขี้เหร่กว่าเดิมอีกนะ”

“นี่ปากเหรอ” มาหยาตีเพื่อนอย่างหมั่นไส้

“นี่ดารินเหรอ” เขตต์เอ่ยถาม เขามองเพื่อนสาวที่เคยแกล้งตอนเด็กๆ ด้วยสายตาหวานหยด

“โอ๊ย! หยิกเราทำไม” เขตต์ร้องเสียงหลงเมื่อโดนหยิกเข้าให้

“มองรินแบบนี้ทำไม จะจีบรินเหรอ”

“จีบได้ไหม มีแฟนหรือยัง” เขตต์พูดทีเล่นทีจริง

“จีบไม่ได้ เราหวง ใครจะจีบรินต้องข้ามศพเราไปก่อน     ถ้าเราสแกนไม่ผ่านก็อย่าหวังแอ้มเพื่อนเรา”

“ยายหน้าซาลาเปา เธอเป็นแม่รินตั้งแต่ตอนไหนถึงได้หวงนัก ทำเป็นจงอางหวงไข่ไปได้ หรือว่าๆ...” เขตต์ชี้นิ้วทำตาโต

“หรือว่าอะไร” มาหยาเอ่ยถามอย่างสงสัยกับท่าทีของเพื่อน

“เธอสองคนกินกันเองเหรอ ผู้หญิงหน้าตาขี้เหร่แบบพวกเธอยิ่งเหลือน้อยๆ อยู่ด้วย ดันกินกันเองเสียอีก”

“หน้าตาไม่ดีแล้วยังจะปากเสียอีก” มาหยาผลักร่างของเขตต์ออกห่าง จนทุกคนหัวเราะเบาๆ

“อาหมอมาทำไมเหรอหยา” ดารินกระซิบถามเพื่อน      มองสายตาหวานเชื่อมของคุณหมอหนุ่มกับเพื่อนรักแล้วรู้สึกจั๊กจี้หัวใจไม่น้อย

“อาหมอเอาของมาฝากน่ะจ้ะ ไปต่างจังหวัดมาเหมือนกัน รอบนี้แม่กับพ่อเลยได้ของฝากเยอะเลย กินกันเป็นเดือนๆ ยังไม่หมด”

“ค่ะคุณแม่” มาหยารับคำเมื่อมารดาพูดขึ้น

“แม่เลยชวนอาหมอกับตาเขตต์รับประทานอาหารเย็นด้วยกัน เราสองคนเองก็ไม่ได้เจอเขตต์นานแล้วนี่นา น่าจะมีเรื่องคุยกันเยอะแยะ”

“ค่ะคุณแม่” มาหยาตอบแล้วยิ้มหวานหยดไปทางคุณหมอหนุ่ม ก่อนที่ดารินจะกระทุ้งข้อศอกใส่เพื่อนเป็นการสัพยอก

“ตาหยามเยิ้มขนาดนี้ มันหวานจนมดกัดไปหมดแล้วรู้ไหม” ดารินแอบกระซิบกระซาบด้วยน้ำเสียงล้อเลียน

“ก็คนมันคิดถึงนี่นา พอได้เจอหน้าแล้วมันฟิน” มาหยาหันไปกระซิบที่ริมหูของเพื่อนรัก ก่อนจะกดโทรศัพท์ส่งข้อความไปหาเขื่อน เขาสะดุ้งเล็กน้อยที่เสียงข้อความดังขึ้น ดีที่ไม่มีใครสงสัย พอกดอ่านก็ทำเอาหน้าร้อนผ่าว เธอจะปลุกปล้ำเขาในบ้านเลยหรือไง แต่เห็นสายตาวาวๆ นั้นแล้ว ถ้าเขาไม่ไป อาจจะโดนโกรธเอาได้ รักเด็กก็ต้องตามใจเด็ก เอาไงเอากันเขื่อนคิดในใจ

“ผมขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะครับ” คุณหมอหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ ในขณะที่เขตต์ชวนดารินคุยไม่หยุดปาก

“ตามสบายเลยนะเขื่อน” พงศ์อินทร์กล่าวอนุญาต เขื่อนจึงรีบเดินไปเข้าห้องน้ำในบ้านที่แสนคุ้นเคย

“รินไปชวนคุณพ่อคุยหน่อยสิ” มาหยากระซิบกับเพื่อน โดยมีเขตต์ตามต้อยๆ ไปคุยด้วย

“เจ้าค่ะ” ดารินรับคำ เธอเคารพรักพงศ์อินทร์เป็นอันมาก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะชวนท่านคุยและท่านก็หันมาสนใจกับสิ่งที่เพื่อนลูกสาวชวนคุยได้อย่างรวดเร็วเพราะสนิทกันมานานหลายปี

“หยาไปดูคุณแม่ก่อนนะคะว่าทำอะไรกิน” มาหยาเดินเข้าครัวไปดูมารดาที่กำลังวุ่นอยู่กับอาหารการกิน โดยมีสาวใช้คอยช่วยอยู่ไม่ห่าง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป