บทที่ 2 2
“ลาริมาร์...”
นั่นเป็นชื่อที่พัลเลเดียมเรียกลูกสาวของเพื่อนรุ่นพี่ซึ่งมีหุ้นส่วนทางธุรกิจร่วมกันจนติดปาก มีบางอย่างวาบไหวในดวงตาประกายน้ำตาลเทาหม่นก่อนที่มันจะหายไปดังเช่นทุกครั้งที่เขาได้พบหญิงสาวแสนสวยในวัยสิบแปด เธองดงามดั่งดอกไม้บานสะพรั่งและเปล่งประกายราวกับ ลาริมาร์ ศิลาแห่งรักจนทำให้เขาชอบเรียกเธอเช่นนั้นเสมอ ความรำลึกบางอย่างแม้ผุดพรายขึ้นในความทรงจำแต่แล้วราวกับมันถูกความรู้สึกอีกด้านในมุมมืดกระชากกลับสู่หุบเหวลึกที่มิอาจหยั่งถึง
“คุณอา...คุณพ่อล่ะคะ”
ลลิลก้าวเข้ามาหาและหยุดตรงหน้าบุรุษใบหน้าคมเข้มขณะเขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเกือบร้อยแปดสิบเซนติเมตรที่ข่มให้ร่างบอบบางดูเล็กไปถนัดตา หญิงสาวยิ้มกับเขาในฐานะเพื่อนสนิทและหุ้นส่วนการค้าทางธุรกิจของบิดาแม้ในส่วนลึกจะมีอีกความรู้สึกลึกเร้นมากกว่าสิ่งที่เธอพยายามแสดงออก
“คุณพ่อบอกให้ลิลกลับบ้านด่วนทั้งที่พึ่งไปเริ่มคลาสเรียนได้แค่วันเดียว เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือคะ เมื่อกี๊ลิลถามคนขับรถเขาบอกว่าตอนนี้คุณพ่ออยู่ไมแอมี่”
“พ่อของเธออยู่ที่นั่น”
“แต่ท่านให้ลิลกลับมา แล้วทำไม...”
“นี่เป็นข้อตกลงระหว่างอากับพ่อของเธอ”
ลลิลเอียงคอมองร่างสูงตรงหน้าเหมือนไม่เข้าใจ “ข้อตกลงอย่างนั้นหรือคะ...คุณอาหมายความว่ายังไง คุณอาจะบอกลิลเหรอคะว่าคุณอาให้พ่อไปไมแอมี่ ท่านคงไปประชุมเรื่องงานของบริษัทสินะคะ”
“ไม่มีการประชุมอะไรทั้งสิ้น มีแต่ข้อตกลงที่พ่อของเธอจะต้องปฏิบัติตามกฎของอาอย่างเคร่งครัด”
เสียงเขาหน่วงกว่าเดิมและลลิลสัมผัสได้ถึงความผิดปกติที่เจืออยู่ในน้ำหนักคำพูดจนทำให้เธอก้าวถอยไปหนึ่งก้าว
“คุณอาช่วยอธิบายให้ชัดเจนได้ไหมคะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมคุณพ่อต้องให้ลิลรีบกลับจากเนเธอแลนด์ แล้วทำไมท่านต้องไปอยู่ที่ไมแอมี่”
“ถ้าเธออยากรู้เรื่องทั้งหมด อาจะไม่เป็นคนอธิบายแต่จะให้ฟังจากปากของพ่อเธอเอง”
พัลเลเดียมหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาแล้วกดหมายเลขสักครู่ก่อนยื่นให้ลลิล หญิงสาวมองอย่างลังเลแต่ก็ตัดสินใจรับมันและแนบไว้ที่หู ร่างบางได้ยินเสียงปลายสายซึ่งจริง ๆ เธอเฝ้ารอเสียงนี้มาตลอด
“พีท...”
“พ่อคะ นี่ลิลนะคะ ไม่ใช่อาพีท”
“ลิลเหรอลูก...เอ้อ...ลิลกลับมาถึงบ้านแล้วสินะ”
“ค่ะ...ลิลพึ่งมาถึง แต่...ทำไมคุณพ่อถึงได้ไปอยู่ที่ไมแอมี่ล่ะคะ ลิลนึกว่ากลับบ้านแล้วจะได้เจอคุณพ่อเสียอีก เจอก็แต่...” ลลิลเหลือบมองใบหน้าคมคร้ามที่ก็จ้องมองเธอตลอดเวลาเช่นกัน
“เจอแต่อาพีท...บอกลิลได้ไหมคะว่ามีอะไร”
“เอ้อ...ลิล...คืออย่างนี้...” เสียงนั้นขาดหายไปชั่วขณะราวกับคนอีกฟากกำลังชั่งใจก่อนตอบกลับมาด้วยเสียงเนิบเบา
“ที่พ่อให้ลิลกลับมาด่วนก็เพราะว่า...ลิลต้องกลับมาแต่งงานกับพัลเลเดียม”
“ว่ายังนะคะ!” คราวนี้ลลิลหน้าเปลี่ยน สีหน้าและแววตาของหญิงสาวที่ออกอาการตระหนกตื่นนั้นสะท้อนในดวงตาสีน้ำตาลเทาที่ไม่ยอมละไปทางอื่นแม้เสี้ยววินาที ลลิลมือเย็นเฉียบ เธอรีบหันหลังให้ชายหนุ่มและเดินห่างจากเขาไปสองสามก้าวก่อนกรอกเสียงลงในโทรศัพท์
“คุณพ่อคะ...คุณพ่อพูดอะไรออกมา นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะคะ อย่าล้อลิลเล่นแบบนี้”
“พ่อไม่ได้ล้อเล่น...ลิลต้องแต่งงานกับเขา ต้องเป็นภรรยาของพัลเลเดียม ล็อค หุ้นส่วนทางธุรกิจของพ่ออย่างไม่มีเงื่อนไขเพราะไม่อย่างนั้นแล้ว...”
“ทำไมคะคุณพ่อ ไม่อย่างนั้นแล้วจะทำไมคะ”
“ไม่อย่างนั้นแล้วพ่อจะไม่ได้เห็นหน้าลูกอีกเลย ลลิลของพ่อ”
หญิงสาวกุมโทรศัพท์ด้วยสองมือแน่นขณะที่มันยังแนบสนิทบนหู ลลิลรู้สึกได้ถึงอำนาจบางอย่างรุนแรงที่แผ่ออกมาจากบุรุษผู้ยยืนตระหง่านเบื้องหลัง เธอทำใจแข็งและถามกลับไปด้วยเสียงที่เริ่มสั่น
“ทำไมคะ...ทำไม”
“พ่อมีเรื่องจะสารภาพ ว่าพ่อทำผิดอย่างร้ายแรงต่อพัลเลเดียม พ่อผิดเองที่ไม่ยับยั้งชั่งใจ มันเกิดจากความโลภ อยากได้ และ...ความมักง่ายที่พ่อไม่คิดเลยว่ามันจะสร้างปัญหาใหญ่ให้พ่อได้ขนาดนี้”
“บอกลิลมาสิคะว่ามันเรื่องอะไรกัน บอกลิลให้หมด ลิล พร้อมจะฟังอยู่แล้วค่ะ”
“ลิลจำพี่สาวของพัลเลเดียมได้หรือเปล่า”
ลลิลมีสีหน้ารำลึก “แพตน่ะหรือคะ”
“ใช่...และนี่เป็นเรื่องที่พ่อไม่เคยเปิดเผยให้หนูได้รู้ว่าพ่อกับพี่สาวของพีท...เรามีความสัมพันธ์กันอย่างลับ ๆ และพ่อใช้เธอเป็นเครื่องมือสูบเงินจาก ล็อก ซายส์ แฟคซิทรอนเป็นระยะเวลากว่าสองปีที่ผ่านมา แต่เมื่อไม่นานมานี้พ่อเกิดขัดใจกับพี่สาวของพีทเพราะพ่อ...แอบไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนใหม่ เธอเป็นดาราสาวสวย ยังเด็กและมีเสน่ห์จนพ่อคิดจะตีตัวออกห่างจากเธอ...คืนนั้นก่อนที่ลูกจะเดินทางไปเนเธอแลนด์เราทะเลาะกันรุนแรงมากและพ่อพลั้งมือทำร้ายเธอจนได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและตอนนี้แพตอยู่ในห้องไอซียูยังไม่รู้สึกตัว พ่อคิดว่าจะเดินทางออกนอกประเทศด้วยซ้ำแต่ถูกคนของพีทจับตัวได้เพราะวันเกิดเหตุพ่อทะเลาะกับแพตที่เพนท์เฮ้าส์ของเธอและภาพในกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ตอนพ่อทำร้ายพี่สาวของพีทเอาไว้ได้ มันเลยทำให้เขารู้เรื่องทุกอย่าง”
“คุณพ่อ...”
