บทที่ 8 8

นับดาวเองพอจะรู้ตัวว่าเธอพลาดเสียแล้ว แต่ทางที่จะแก้ได้คือการอ้อนออเซาะชายหนุ่มตรงหน้าเข้าไว้ก่อน

“พี่ภูขา” ลำแขนยาวเรียวยกขึ้นโอบกอดรอบตัวชายหนุ่มอย่างออดอ้อนโดยไม่แคร์สายตาของเด็กรับใช้ที่กำลังเก็บกวาดแอบมองกันเป็นระยะๆ

ภูตะวันเห็นสายตาของคนเหล่านั้น เกิดความรู้สึกอึดอัดจนต้องปลดอ้อมกอดของหญิงสาวออกจากตัว

“ ปล่อยพี่เถอะดาว อายคนอื่นบ้าง”

“ อายทำไมคะ ในเมื่อเราไม่ใช่คนอื่น”

“ ใช่ เราไม่ใช่คนอื่น” ชายหนุ่มหยุดพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะสบตาสาวสวยที่อยู่ตรงหน้าอย่างจริงจัง

“ แต่เราเป็นญาติกัน เป็นพี่น้องกัน เธอควรจะสำรวมกว่านี้ เพราะพี่มีคู่หมั้นที่จะต้องแต่งงานกัน ถึงยังไม่แต่งตอนนี้แต่ก็เหมือนพี่มีเจ้าของไปครึ่งหนึ่งแล้ว และอีกอย่างที่พี่อยากจะบอกดาว อย่าทำกิริยาและนิสัยแบบเมื่อกี้กับคู่หมั้นพี่อีก”

คำพูดที่ยาวเหยียดของชายหนุ่มเรียกเสียงกรี๊ดจากนับดาว

เธอบอกตัวเองว่า เขาเปลี่ยนไป เขาเปลี่ยนจากผู้ชายปากจัดที่เคยดูถูกและหมิ่นแคลนผู้หญิงหลายคนที่มาข้องเกี่ยวด้วย

แต่สำหรับเธอเขาเป็นพี่ที่แสนดีสำหรับนับดาวมาตลอด เขาเปลี่ยนไปเพียงเพราะเขาเจอนางแม่มดคนนั้นไม่ทันข้ามวัน

เขาเปลี่ยนไป เขาตำหนิเธอทั้งน้ำเสียงและสายตา เขาห้ามไม่ให้เธอทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้นอีก เพราะเธอคือคู่หมั้นของเขา  เขายอมรับทั้งที่นางแม่มดคนนั้นไม่ได้มีดีอะไรเลย  แถมยังเคยส่งคนมาขอถอนหมั้นด้วยซ้ำแต่คุณวรรณวลีไม่ยอม จึงเกิดการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทิ่มแทงหัวอกของนับดาวอยู่เช่นวันนี้

ภูตะวันจ้องมองสบตาที่มองเขาอย่างตัดพ้อเพียงชั่วครู่ ก่อนจะขยับตัวถอยห่างออกมา ถึงเขาจะรู้ว่านับดาวคิดกับเขาอย่างไร แต่เขาก็ไม่อาจสนองตามความต้องการของหญิงสาวไปได้ ไม่ใช่เพราะเธอไม่สวย แต่เธอคือคนที่ไม่ใช่สำหรับเขาต่างหาก และคนที่ใช่สำหรับเขาล่ะคือใคร คือผู้หญิงที่ปฏิเสธการแต่งงานกับเขาคนนั้นใช่ไหม

“ พี่ภูคะ” นับดาวจะขยับมาแนบชิดอีกครั้ง แต่กลับเหมือนถูกชายหนุ่มปฏิเสธดื้อๆด้วยการถอยหลังห่างออกไปถึงสองก้าว

“ พี่ภูรังเกียจดาวเหรอคะ” หญิงสาวตัดพ้อ ก่อนจะซ้อนสายตาที่มีน้ำตาเอ่อคลอเล็กน้อยขึ้นมาให้ชายหนุ่มเห็น

ภูตะวันถอนหายใจพรืดออกมาก่อนจะเดินออกจากห้องไปเงียบๆ ไร้ซึ่งการปลอบใจอย่างที่นับดาวคาดหวัง  หญิงสาวทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนกระทืบเท้าอย่างคับแค้นใจ

ภายในสวนหลังบ้าน เอมวิกาเข็นรถของคุณวรรณวลีมาหยุดดูต้นไม้ดอกไม้ในยามค่ำคืนอย่างสบายใจ หญิงสูงวัยเองก็มีท่าที  ผ่อนคลายลง

“คุณป้าคะ เอมต้องกราบขอโทษคุณป้านะคะที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น” หญิงสาวคุกเข่ากราบลงไปบนตักของคุณวรรณวลี เหมือนอย่างคนทำผิดแล้วสำนึกผิด แต่จริงแล้วตอนที่หน้าก้มลงไปกราบ หญิงสาวแอบยิ้มไปด้วย

“ โถ แม่คุณของป้า ไม่เป็นไรหรอก มันไม่ใช่ความผิดของหนูเอม” มือที่ผอมบางยกมาลูบบนศีรษะของหญิงสาวอย่างรักใคร่

“ แต่เอมทำให้นับดาวไม่พอใจ” หญิงสาวเงยหน้าที่มีน้ำตาคลอขึ้นมอง

“ ช่างนับดาวสิ อย่าไปสนใจผู้หญิงคนนั้นเลยหนูเอม เขาไม่ได้มามีความสำคัญกับครอบครัวเรา”

“ แต่คุณภูตะวัน”

“ ภูเขาก็ไม่ได้มีอะไรกับนับดาว นอกจากความเป็นญาติห่างๆแค่นั้นเอง”

“ แต่”

“ ไม่มีแต่จ้ะ เชื่อป้านะลูกทำใจให้สบาย และอยู่ที่นี่ให้เหมือนบ้านของตัวเอง”

“ ค่ะคุณป้า”

กว่าภูตะวันจะเดินหามารดาพบ ก็เป็นเวลาที่หญิงต่างวัยชวนกันเข้าบ้านแล้ว ชายหนุ่มเห็นการกระทำของหญิงสาวแล้วให้นึกสงสัยว่าอย่างไหนคือตัวตนของเอมวิกากันแน่

“ เข้าบ้านแล้วเหรอครับคุณแม่ ผมว่าจะมาคุยด้วย” ภูตะวันเอ่ยทักมารดาเมื่อเอมวิกากำลังจะเข็นรถผ่านไป

“ จ้ะภู ดึกแล้ว แม่อยากให้หนูเอมพักผ่อนเพราะวันนี้เดินทางมาไกล”

ภูตะวันเดินตามทั้งสองมาจนถึงหน้าห้องนอนของมารดา  ชายหนุ่มรีบเปิดประตูให้หญิงสาวเข็นรถมารดาเข้าไป จากนั้นเขาจึงตามมาซ้อนร่างของคุณวรรณวลีอุ้มขึ้นนอนบนเตียง

เอมวิกามองภาพที่ชายหนุ่มทำให้มารดาอย่างประทับใจ ผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าจะดูส่วนไหนทั้งรูปร่างหน้าตาดูดีไปหมดทุกอย่าง และนอกจากเขาจะสมาร์ทรูปงามแล้ว บุคลิกของเขา ไม่ว่าจะนั่งหรือยืน แม้แต่ยามพูดคุยดูดี เขาเป็นผู้ชายที่มองดูอบอุ่น  แถมกิริยาวาจาที่เขาใช้กับมารดาของเขาก็ดูนิ่มนวลอ่อนหวาน มองแล้วเขาคงจะเป็นคนที่รักแม่มาก

หากใครได้เขาเป็นพ่อของลูก และเป็นหัวหน้าครอบครัว  คนๆนั้นคงจะมีความสุขมาก

แล้วเธอล่ะ เธอมีโอกาสที่จะได้เขามาครอบครอง ทำไมเธอยังคิดที่จะผลักไสเขาอีก

“ หนูเอมไปผักผ่อนเถอะ”

เสียงของคุณวรรณวลีปลุกให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์ เธอหันไปมองคนทั้งคู่ก็เห็นว่าสองแม่ลูกกำลังมองเธออยู่ โดยเฉพาะดวงตา  คมกริบที่มองสบมาสะกิดหัวใจเอมวิกาอยู่ลึกๆ

“ เอ่อ ค่ะ” หญิงสาวหน้าร้อนผ่าวในความมืด

“ คุณป้าหิวไหมคะ ทานข้าวไปได้นิดเดียวเอง เอานมสักแก้วไหมคะ เดี๋ยวเอมไปเอาให้”

“ จ้ะ ดีเหมือนกัน ท้องว่างๆอยู่พอดี”

ภูตะวันมองหญิงสาวที่เดินออกไปเอานมให้มารดาจนลับสายตา

“ ชอบละสิใช่ไหมภู”

ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มให้มารดาอย่างรักใคร่

“ ก็ชอบครับคุณแม่ เขาดูน่ารักดี แต่ผมยังไม่แน่ใจกับนิสัยของเขา”

“ ของแบบนี้มันก็ต้องใช้เวลากันบ้าง”

ชายหนุ่มเห็นด้วยกับมารดา ถึงแม้ว่าเอมวิกาจะเคยปฏิเสธการแต่งงานกับเขามาแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอมีคนที่รักอยู่แล้ว

บทก่อนหน้า
บทถัดไป