บทที่ 1 บทนำ
ท่ามกลางความมืดมิดรายรอบ เด็กชายตัวน้อยนั่งหลบมุมสั่นเทาราวเด็กจับไข้ มีเพียงแสงสว่างที่ส่องลอดช่องหลังคาที่เด่นชัด ดูเหมือนเด็กน้อยหวาดกลัวอะไรที่อยู่เบื้องหน้า
ร่างชายคนหนึ่งนอนจมเลือดอยู่กลางห้อง ดวงตาถลนออกมานอกเบ้าชวนสยอง ลิ้นแลบจุกปากตัวเอง กลางขมับมีรอยลูกเพลิงเจาะเข้าไปเป็นรูกลวง ร่างนั้นซีดเผือดแต่ดวงตายังเบิกโพลง เด็กน้อยนั่งร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวและเสียใจ
ภาพเลือนรางค่อยๆ ชัดเจนขึ้นในขณะที่สองมือชายหนุ่มขยุ้มผ้าห่ม สองเท้ายันเตียงที่หุ้มด้วยผ้าปูที่นอนกำมะหยี่สีแดงจนยับยู่ยี่ ใบหน้าคมสันและมัดกล้ามเนื้อแน่นไร้การปกปิดเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่พรั่งพรูราวกับหยาดเพชรเกาะวาวอยู่ตามตัว
“ไม่ !!! ”
เสียงตะโกนห้าวดังลั่นเรือนไม้หลังใหญ่ ร่างกายก็พลันเด้งผงกขึ้นมาแทบในทันที ชายหนุ่มกวาดสายตามองรอบๆ เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองได้ตื่นจากฝันร้ายนั้นแล้ว เสียงหายใจเหนื่อยหอบราวกับว่ากำลังจะขาดอากาศหายใจ
“เป็นอะไรไปนาย! ”
เสียงชายสูงวัยที่แทรกร่างบางผ่านช่องประตูที่เปิดเพียงนิดเดียวเข้ามายืนอยู่ที่ปลายเตียง คนถูกถามส่ายหัวก่อนตอบว่า
“เรื่องเดิมนั่นแหละ” ชายหนุ่มไม่อยากจะพูดถึงมันสักเท่าไหร่ และคิดว่าชายสูงวัยน่าจะดูออก
“จะรับอาหารเช้าเลยหรือเปล่า ผมจะได้ให้แม่บ้านตั้งโต๊ะเลย”
ระยะหลังศิลาฝันร้ายเกือบทุกคืน พ่อบ้านทองจึงเลี่ยงไปคุยเรื่องอื่นที่อาจทำให้เจ้านายสบายใจขึ้นมากกว่านี้ สายตาทอแววห่วงใยระคนสงสัยอยู่ไม่น้อย
“อืม” คนเป็นเจ้านายพยักหน้าบอกช้าๆ นายทองเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวในตู้เสื้อผ้าออกมาวางไว้ที่ปลายเตียง เขาคว้ามันและจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่กลับต้องชะงักเพราะถูกนายทองเรียกไว้
“นายครับ เอ่อ...” คนเป็นพ่อบ้านอึกอัก มองเจ้านายด้วยสายตาแปลกๆ ทำให้ฝ่ายนั้นหันกลับมาถาม
“มีอะไรอีก” ชายหนุ่มถามเสียงห้วยด้วยความไม่เข้าใจ
“หมู่นี้นายฝันร้ายถี่ขึ้นนะครับ” นายทองเอ่ย ใจจริงแล้วอยากให้เจ้านายไปพบจิตแพทย์ดูสักครั้ง
“มันคงเป็นลาง...หรืออาจเป็นจุดสิ้นสุดการวิ่งหนี ใครจะรู้”
“วิ่งหนีอะไรหรือครับ” พ่อบ้านทองลองถามหยั่งเชิง
“ไม่มีอะไรหรอก”
รอยยิ้มบางของศิลาค่อยๆ หายไป เหลือไว้แต่เพียงแววตาที่ปวดร้าว
“ผมว่าเจ้านายควรไปหาหมอนะครับ” นายทองแนะนำ เขารู้ดีว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเจ้านายหนีอะไร
“นายทองคิดว่าฉันบ้าหรือ” ศิลาถามเสียงห้าวแต่ดวงตาไม่มีแววโกรธเคือง
ข้อสงสัยพวกนี้เขามักจะได้ยินจากคนรอบตัวอยู่เป็นประจำ แรกๆ ก็โมโห ต่อมาก็มีโกรธบ้าง จนตอนนี้เริ่มชินจนคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกไปแล้ว
“ฉันว่านายทองไปได้แล้ว” ชายหนุ่มรุนหลังพ่อบ้านให้ออกไปจากประตู นายทองรู้ใจเจ้านายดีว่าเขาไม่ต้องการคำซักไซ้ใดๆ ทั้งสิ้น จึงรีบออกไปทำหน้าที่ตัวเองทันที
ศิลาเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าต่าง ทอดสายตามองออกไปยังไร่องุ่นกว้างสุดลูกหูลูกตาเบื้องหน้าด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า...เขาไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี เพราะสิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่ที่เขาต้องการ !
“มันเป็นสัญญาณบอกว่าถึงเวลาเริ่มเกมแล้วต่างหาก”
น้ำเสียงเย็นยะเยือกเปล่งออกมาพร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคอก่อนที่เขาจะเดินกลับเข้ามาในห้อง คว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป
