บทที่ 1 1

เสียงอึกทึกและเสียงโห่ร้องภายในบริเวณสระว่ายน้ำของมหาวิทยาลัยดึงดูดให้หญิงสาวทั้งสองในชุดนักศึกษาที่หอบหิ้วทั้งกระเป๋าและหนังสือพลางเดินพลางวิ่งเข้าไปที่ขอบสระซึ่งตอนนี้แม้จะเป็นเวลาเย็นมากแล้วแต่ก็มีนักศึกษาที่บ้างก็ยังอยู่ในชุดฟอร์มและชุดลำลองทั้งนั่งและยืนอยู่แน่นขนัดบนอัฒจรรย์รอบสระว่ายน้ำ

“โอ๊ย!....ยัยลิน...เร็วๆ เข้าซิยะ เดินเป็นคุณนายอยู่นั่นแหละ....เขาจะแข่งแล้วนะ”

หนูนาหันมาเอ็ดเพื่อนสาวที่วิ่งตามหลังมาจนถึงขอบอัฒจรรย์ที่มองไปยังพอมีที่ว่างให้นั่งอยู่บ้างอย่างขัดใจ

“จ้ะ...จ้ะ...ฉันก็รีบแล้วนะ หนูนาน่ะเดินเร็วรู้มั้ย”

หญิงสาวร่างบอบบางในชุดนักศึกษาบ่นเสียงปนหอบขณะแทรกตัวลงนั่งตามเพื่อนร่างอวบตรงมุมหนึ่งของที่นั่งริมสระซึ่งมองเห็นผู้เข้าแข่งขันกำลังเตรียมตัวอยู่ที่จุดสตาร์ทชัดเจน หนูนาหันไปมองใบหน้าเนียนภายใต้กรอบผมสีน้ำตาลเข้มยาวเคลียไหล่ที่เป็นสีชมพูเรื่อและมีเม็ดเหงื่อผุดพราวบนหน้าผากพลางอมยิ้มขณะจัดกระเป๋าและหนังสือวางบนตักจนเรียบร้อย วันนี้มีการแข่งขันคัดเลือกตัวนักกีฬาว่ายน้ำชายของมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นตัวแทนแข่งขันระดับประเทศ บรรยากาศรอบสนามแข่งขันดูคึกคักเป็นพิเศษเพราะเต็มไปด้วยผู้ที่ให้ความสนใจกีฬาประเภทนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เข้าแข่งขันที่ยิ่งดึงดูดความสนใจของสาวๆ ที่มารุมล้อมส่งเสียงเชียร์อยู่รอบบริเวณสระว่ายน้ำ

“หนูนา.......ดูเค้าแข่งเสร็จแล้วลินจะกลับเลยนะ คืนนี้ต้องไปกับคุณแม่ ท่านมีนัดทานข้าวกับเพื่อน”

“ได้ค่ะ....มุจลินทร์ขา เดี๋ยวหนูนาขอดูพี่อนาคินลงแข่งก่อนนะจ๊ะ ตื่นเต้นจังเลย คนอะไรไม่รู้ หล่อ รวย และเก่ง ที่หนูนามาเชียร์ก็คือมาเชียร์รุ่นพี่คนนี้คนเดียวจ้ะ”

มุจลินทร์ส่ายหัวไปมา ที่เธอต้องตามติดหนูนามาที่นี่เพราะเพื่อนสนิทของเธอเป็นโรคใจละลายกับชายหนุ่มหล่อล่ำอยู่เป็นนิจ หากแต่หญิงสาวก็คุ้นชินเสียแล้วกับอาการเป็นๆ หายๆ ของเพื่อนหุ่นอวบที่สนิทกันมาตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่งจนกระทั่งตอนนี้อยู่ปีสามแล้วหนูนาเป็นเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษาได้ทุกเรื่องและคอยช่วยเหลืออย่างเพื่อนที่แสนดีจนหลายครั้งมุจลินทร์ก็รู้สึกโกรธไม่ลงและให้อภัยกับนิสัยบางอย่างที่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนของคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

“ว้าย!....นั่นๆ .....มาแล้ว มาแล้ว รุ่นพี่ปีสี่ พี่อนาคิน ตัวเต็งการแข่งครั้งนี้เลยนะเพื่อน”

หนูนากรีดเสียงแข่งกับเสียงโห่ร้องรอบสระเมื่อร่างสูงใหญ่ที่สวมเพียงกางเกงว่ายน้ำตัวเดียวเผยให้เห็นมัดกล้ามบนแผงอกกว้างก้าวออกมายืนที่จุดปล่อยตัวขอบสระน้ำ มุจลินทร์มองเพื่อนสนิทก่อนจะหันไปมองผู้เข้าแข่งขันคนสุดท้ายที่เพิ่งเดินออกมา หากก็ต้องหยุดสายตาอยู่ที่ใบหน้าเรียวซึ่งมีเครื่องหน้าราวรูปปั้นอันสลักเสลา จมูกโด่ง ริมฝีปากหนาได้รูป และดวงตายาวรีที่ดูเยือกเย็นขณะจ้องตรงมายังหญิงสาวพอดีในวินาทีนั้น มุจลินทร์ราวถูกสะกดและรู้สึกเหมือนมีพลังดึงดูดบางอย่างจากชายหนุ่มที่ก็ยืนนิ่งและมองมาในจุดที่เห็นได้ชัดเสมือนห้วงเวลาหยุดเดินไปชั่วขณะ แต่พลันที่เสียงนกหวีดส่งสัญญาณให้ผู้เข้าแข่งขันเตรียมตัวดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มและหญิงสาวที่ต่างอยู่ห่างในระยะที่มองเห็นต้องละสายตาออกจากกันในทันที

“ลินไม่เคยเห็นล่ะซิ นี่น่ะรุ่นพี่อนาคิน เรียนวิศวะปีสี่ หล่อมาก.....เป็นนักกีฬาว่ายน้ำตัวเต็งของมหาลัยเลยนะ พ่อเขาเป็นเจ้าของบริษัทส่งออกสินค้ารายใหญ่ของเมืองไทย ผู้ชายอะไร ยิ่งดูยิ่งมีเสน่ห์ เย็นเหมือนน้ำแข็ง แต่น่าเข้าใกล้จังเลย”

หนูนาพร่ำบ่นกับเพื่อนสาวพลางกะพริบตาราวกำลังฝันหวาน มุจลินทร์เก็บความรู้สึกบางอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นเอาไว้แล้วหันไปยิ้มน้อยๆ กับสาวร่างอวบ

“หล่อๆ แบบนี้คงจะมีแฟนแล้ว หนูนาอาจจะฝันสลาย”

“เชอะ!.....ยัยพราวพิลาศ ดาวมหาลัยที่อยู่รุ่นเดียวกับเราน่ะเหรอ....ก็แค่นั่งรถไปด้วยกัน ยังไม่รู้ว่าจะเรียกแฟนดีรึเปล่า”

พราวพิลาศ เพื่อนสาวแสนสวยรุ่นเดียวกัน มีดีกรีความงามระดับเป็นดาวของมหาวิทยาลัย กิตติศัพท์ความสวยและความเปรี้ยวนั้นใครต่างก็รู้และยอมรับ หญิงสาวหันกลับไปมองชายหนุ่มใบหน้าเยียบเย็นที่ริมสระน้ำอีกครั้ง ผู้ชายหน้าตาดีขนาดนี้ย่อมต้องมีผู้หญิงให้ความชื่นชมรายล้อม หากแต่ผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นคือ พราวพิลาศ ผู้ซึ่งความงามย่อมควรคู่กันกับชายหนุ่มที่เธอเพิ่งสบตากับเขาไปเมื่อครู่ ผู้ที่ส่งเสียงเชียร์ในสนามเริ่มเงียบลง ทุกอย่างดูเหมือนสงบเมื่อกรรมการที่ยืนริมสระอีกด้านยกแขนขึ้นพร้อมปืนในมือ ผู้แข่งขันต่างเข้าประจำลู่ว่ายของตนในท่าเตรียมพร้อม และเมื่อเสียงปืนดังขึ้นร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในแต่ละลู่ต่างพุ่งตัวลงน้ำพร้อมกันด้วยความรวดเร็วในขณะที่บรรยากาศการส่งเสียงเชียร์ของผู้อยู่ริมสระพลันก็ดังขึ้นอีกหน มุจลินทร์บอกตัวเองว่าเธอไม่เคยชื่นชอบดูการแข่งขันกีฬาประเภทใด เธอเป็นสาวช่างฝันที่ชอบการอ่านหนังสือมากกว่าการมานั่งส่งเสียงโห่ร้องตื่นเต้นเวลาเห็นใครกำลังจะกุมชัยชนะด้วยการพาตัวเองเข้าสู่เส้นชัย หากแต่วันนี้เธอกลับรู้สึกว่าเกมกีฬาที่อยู่ตรงหน้าช่างน่าดึงดูดใจยิ่ง หญิงสาวมิอาจละสายตาไปจากลู่ว่ายยามเรือนร่างอันแข็งแกร่งกำยำของผู้ที่เธอมองเห็นเมื่อครู่แหวกฝ่าละอองน้ำพุ่งเข้าสู่ผนังสระที่อยู่อีกด้านหนึ่งก่อนใครเพื่อน มุจลินทร์ก้มลงเก็บกระเป๋าและหนังสือที่วางบนหน้าตักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาและพบว่าผู้ที่เข้าเส้นชัยอันดับหนึ่งลอยนิ่งอยู่ในน้ำในขณะที่ร่างบางระหงของใครคนหนึ่งในชุดนักศึกษากระโปรงสั้นอวดขาเรียวยาวยืนถือผ้าขนหนูผืนใหญ่รออยู่ด้านบนขอบสระ

บทถัดไป