บทที่ 7 แค่เห็นหน้าคุณ ก็กินข้าวไม่ลงแล้ว
“ฉันไปหาที่พักข้างนอกดีกว่าค่ะ”
“อุ้ยได้ไงคะ ในสัญญาเรามีอยู่ค่ะ ว่าถ้าหากทางเอสพี อินทีเรียมาทำงาน ทางบริษัทเราจะเป็นคนจัดหาที่พักให้ จะให้คุณรินไปเสียเงินทำไมค่ะ มาค่ะ” เธอรีบสอดคล้องแขนของตัวเองเข้ากับแขนของรินดาทันที และมียามเข้ามาช่วยหยิบจับฉวยข้าวของของเธอเดินตามหลังผู้หญิงทั้งสองคน
ป้องณวัฒน์มองตามแล้วถอนหายใจออกมาดังๆ
‘กูทำอะไรลงไป’ เขาถามตัวเอง รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตที่เขาได้สร้างรอยบาดแผลให้กับรินดา
“คุณยายฮับ เมื่อไหร่แม่จะกลับมาอีก” เด็กชายริณพงศ์ถามผู้เป็นยาย คุณยาใจยกมือขึ้นลูบหัวเด็กน้อย
“อะไรกันครับอินดี้ แม่เพิ่งไปเมื่อวานนี้เองนะ”
“คุณยายฮับ ก็อินดี้คิดถึงแม่”
“จ้ะ เดี๋ยวแม่คงโทรมาเล่านิทานก่อนนอนให้อินดี้ฟังนั่นแหละ”
“ยายฮับ วันนี้เพื่อนๆ ที่โรงเรียนล้ออินดี้อีกแล้วครับ ว่าอินดี้ไม่มีพ่อกับแม่” คุณยายได้ยินถึงกลับตกใจ รีบกอดหลานชายตัวน้อยเข้าหาตัวในทันที
“ใครว่านะ ช่างปากไม่ดีนัก พรุ่งนี้ยายต้องไปคุยกับคุณครูแล้ว อินดี้มีแม่ ก็แม่รินไงครับ แล้วก็มียาย มีลุงนินท์ ป้านุช แล้วก็พี่ตัวโน้ต น้องนุงนิ้ง” คุณยายเอ่ยถึงครอบครัวของคุณลุง
“แล้วคุณพ่อละฮับ” เด็กน้อยถามคำถามที่จี้ใจดำคุณยายอีกครั้ง
“คุณพ่ออยู่บนสวรรค์ คุณพ่อมองอินดี้จากบนฟ้าโน้น” คุณยายทำปากจู๋ ชี้ขึ้นไปบนเพดาน เด็กชายหัวเราะลั่น
“นั่นมันเพดานนะฮับ ฮาๆ” คุณยายพลอยยิ้มไปกับหลาน แต่หัวใจสงสารเด็กน้อยจับใจ
“อินดี้ครับ ฟังยายนะ อินดี้ห้ามถามถึงคุณพ่อ เวลาอยู่กับแม่รินนะครับ”
“ฮับผม คุณยายพูดแบบนี้เป็นครั้งที่ร้อยแล้ว” เด็กชายต่อคำ
จุ๊บ... คุณยายหอมที่หน้าผาก
“ไปอาบน้ำดีกว่า เดี๋ยวจะได้ทำการบ้าน แล้วยายจะให้กินข้าว”
“คุณยายฮับ อินดี้หิวอะ กินก่อนอาบน้ำได้ไหมครับ”
“ไม่ได้จ้ะ อินดี้ต้องไปอาบน้ำก่อน แล้วยายจะให้กินข้าว แล้วค่อยทำการบ้าน”
“ต่อจากนั้น อินดี้โทรหาแม่ได้นะฮับ”
“จ้ะ”
เด็กชายวิ่งฉิวเข้าห้องน้ำไปในทันที คุณยาใจมองตามหลานชายรอยยิ้มที่มีสลดลงในทันที
“อินดี้เอ๊ย...”
“ซวยจริงๆ อะไรกันนักหนา” เธอสบถออกมาเมื่อตอนอยู่คนเดียว
รินดาเดินไปที่ระเบียง ก่อนจะสไลด์ประตูบานใหญ่ใสๆ นั้นให้เปิดออก ลมยามเย็นพัดเอื่อยๆ เธอยืนกอดอกมองไปยังพื้นทะเลเบื้องล่างที่สะท้อนแสงสีทองของพระอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าอีกฟากหนึ่งของท้องฟ้า
กริ๊ง... เสียงโทรศัพท์ในห้องพักของเธอดังขึ้น
“สวัสดีค่ะ”
“คุณเปิดประตูห้องให้ผมหน่อย ผมยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องของคุณแล้ว” เสียงที่คุ้นหูดังขึ้น
“มีธุระอะไร นี่ก็เลยเวลาทำงาน ฉันเลิกงานแล้ว” เธอทำเสียงแข็งไม่เต็มใจที่จะพูดกับเขา
“ผมเอาอาหารเย็นมาให้” เขาพูดเสียงอ่อนอย่างใจเย็น
“ฉันไม่กิน และฉันก็ไม่หิว” พูดจบเธอทำท่าจะวางหูโทรศัพท์ลง
“เดี๋ยวๆๆ คุณรินอย่าเพิ่งวางสาย ผมก็แค่ทำตามหน้าที่ คุณเปิดประตูออกมาเอาอาหารเถอะน่า หรือว่า คุณกลัวผม”
“ย่ะ ฉันไม่ได้กลัวคุณหรอกนะ แต่ฉันเกลียดคุณ” เธอประกาศเสียงดังลั่น จนป้องณวัฒน์ต้องเอามือถือออกห่างจากหู
“คุณอย่าทำเสียงดังนะครับ โครงการของผมมีคนพักอยู่เต็ม ไอ้ที่จะรีโนเวตนะเดือนสิงหาคมนู้น ว่าแต่ว่าคุณ... เฮ้อ... ผมเอาวางไว้ที่หน้าประตูนะ” เขาทำเป็นพูดแบบระอา ก่อนจะวางสายไป
รินดาเดินไปที่ประตูห้อง ก่อนจะเอาตาแนบไปกับตาแมวที่บานประตู แต่ก็ไม่เห็นมีใครอยู่ เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก อารมณ์ในใจยังขุ่นๆ
โครกคราก... กระเพาะอาหารกำลังส่งเสียงออกมาบอกเจ้าของร่าง
“เห็นแก่กิน” เธอก้มไปว่าให้กับท้องของตัวเอง แต่มือก็ขยับกลอนดึงสลักที่คล้องเอาไว้ออก และหมุนลูกบิดเพื่อเปิดประตูเข้ามา
พอประตูเปิดออกร่างใหญ่ของป้องณวัฒน์ก็ใช้ฝ่ามือดันบานประตูนั้นและแทรกตัวเข้ามาในทันที
“นี่... คุณ...” เธอเอ็ดตะโรขึ้นมาทันที แต่ป้องณวัฒน์ก็ไม่สนใจ เดินถือถุงอาหาร
“นายป้อง...” เธอเรียกเข้าอย่างไม่เป็นมิตร สายตาเกรี้ยวกราด
“ผมรู้ว่าคุณหิว ระหว่างทางคุณขับรถมาคุณไม่ได้กินอะไรแน่ๆ ด้วยความที่คุณรีบ คุณมาสายไปเกือบครึ่งชั่วโมง เลยเวลาอาหารเที่ยง อย่าบอกนะว่าไม่จริง” เขาพูดดักคอ
เดินไปหยิบเอาถ้วยจาน และข้าวของต่างๆ ที่ถูกจัดวางไว้อยู่ในที่ของมันออกมาอย่างคล่องแคล่ว เพราะเขาเป็นคนเซตอัปทุกอย่างที่นี่
“เอามาให้กิน เสร็จแล้วก็ออกไปสิ” เธอเอ่ยปากไล่เขาอีกครั้ง เดินกะเผลกๆ ตามหลังของเขาทั้งๆ ที่ยังเจ็บหัวเข่า
“คุณรินดาครับ ผมซื้อมาตั้งเยอะแยะ ผมตั้งใจจะมากินด้วยกับคุณ”
“ฉันกินไม่ลงหรอก ถ้าเห็นหน้าคุณแบบนี้ แค่หายใจใช้อากาศร่วมกับคุณแล้ว ฉันเหมือนอยากจะกลั้นใจตาย” เธอพูดจริงๆ เดินไปเดินมา ก่อนจะสะบัดตัวหมุนไปยังระเบียงสูดอากาศบริสุทธิ์ เพราะโกรธเกลียดเขาจนหายใจไม่ออกจริงๆ
ป้องณวัฒน์ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง มันก็สมควรหรอกที่รินดาต้องเกลียดชังเขา
เขาจัดการอาหารที่ซื้อมาแล้ว ใส่ถ้วยจาน ก็ออกมาตามเธอถึงข้างนอก
“คุณ... เราต้องทำงานด้วยกันอีกหลายวันนะ ยังไงญาติดีกับผมสักนิดไม่ได้เหรอ”
รินดาพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้ง หลับตาสนิทก่อนจะกะพริบติดๆ กันหลายครั้ง
“คุณป้องณวัฒน์” เธอเรียกชื่อเขาเสียเต็มยศ แล้วหันมาเผชิญหน้า
“ที่จริง งานนี้เป็นงานของพี่ต่อ แต่ถ้าคุณทำให้ฉันอึดอัด ฉันจะถอนตัว” เธอว่าใส่หน้าของเขาแบบไม่เกรงใจ สายตาเหมือนจะฟาดฟันให้ป้องณวัฒน์ตายไปให้ได้ตรงนั้น
“ริน...” เขาทำเสียงอ่อย ฉวยข้อมือของเธอทันที ก่อนจะรวบร่างที่เซๆ เข้ามาหา
