เห็นเขาอีกครั้ง
เกรย์
ฉันกำลังยืนอยู่ในโถงต้อนรับของบริษัทสเติร์นพอยต์กับพ่อ เพราะฉันมีนัดสัมภาษณ์เพื่อเข้าฝึกงานกับมาร์ค สเติร์น มาร์คเป็นเพื่อนสนิทของพ่อและเป็นคนที่ฉันแอบชอบสมัยเด็ก แต่ก็หลายปีแล้วที่ฉันไม่ได้เจอเขา หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย พ่อก็แนะนำให้ฉันมาฝึกงานที่สเติร์นพอยต์ เพราะฉันชอบการออกแบบเว็บไซต์ และที่นี่ก็มีแผนกสำหรับทุกอย่าง
ตอนฉันสี่ขวบ มาร์คจะแวะมาที่บ้าน แล้วฉันก็จะขอให้เขาอ่านนิทานก่อนนอนให้ฟัง เขาดีใจที่ได้ห่มผ้าให้ฉัน เขาเป็นเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง พอฉันอายุสิบสอง ความรู้สึกแอบชอบเขาก็เริ่มก่อตัวขึ้น แต่ปีนั้นก็มีบางอย่างเกิดขึ้น แล้วเขาก็เลิกมาที่บ้าน ฉันไม่ได้เจอเขาอีกเลยตั้งแต่นั้น แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจจะถามพ่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในที่สุด ความรู้สึกหลงใหลที่ฉันมีต่อเขาก็เลือนหายไป และฉันก็ลืมเขาไปโดยสิ้นเชิง
พ่อของฉันสวมสูทสีกรมท่าชุดเก่ง กำลังคุยอย่างออกรสกับพนักงานต้อนรับและหัวเราะกับมุกตลกของเธอ พ่อของฉันทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และรักงานนี้มาก ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ หวังว่าจะช่วยให้ใจเย็นลงได้ พร้อมกับขยับสายกระเป๋าบนไหล่ วันนี้ฉันตัดสินใจสวมเสื้อเบลาส์สีขาวทับในกระโปรงทรงดินสอสีดำ กับรองเท้าส้นสูงสีดำเตี้ยๆ เพราะฉันเดินบนส้นสูงๆ ไม่เก่งนัก ไม่อย่างนั้นคงได้สะดุดล้มคอหักพอดี ฉันปล่อยผมลอนคลายๆ สยายอยู่กลางหลัง แต่งหน้าแบบเป็นธรรมชาติแต่ทาปากสีแดง พ่อกับพนักงานต้อนรับหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง ฉันกรอกตาขณะเดินไปเดินมาอยู่แถวโถงต้อนรับ
ฉันมองเห็นเงาสะท้อนของตัวเองบนพื้นกระเบื้องสีขาวมันวาว ฉันเงยหน้ามองจอเหนือเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ซึ่งมีชื่อสเติร์นพอยต์ปรากฏอยู่ พร้อมกับรายชื่อบริการทั้งหมดที่บริษัทนำเสนอ น่าทึ่งมากที่บริษัทนี้ทำอะไรหลายอย่างขนาดนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฉันไม่ได้เจอมาร์คมานานมากแล้ว ฉันสงสัยว่าเขายังดูดีเหมือนเมื่อก่อนหรือเปล่า ฉันพรูลมหายใจออกมา ทำไมนานอย่างนี้นะ
“ลูกรัก มาร์คพร้อมแล้วล่ะ” พ่อพูดขึ้น ดึงฉันออกจากภวังค์ความคิด เขายืนอยู่ตรงหน้าฉัน ผมของเขาเสยเรียบไปด้านหลัง และดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขาก็อ่อนโยนลง เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเขาภูมิใจในตัวฉัน เขาส่งยิ้มให้กำลังใจ “พ่อจะเดินไปส่งที่ห้องทำงานเขา แล้วจะกลับมารอลูกตรงนี้นะ” เขาพูดพร้อมกับวางมือบนแขนฉัน นำทางไปยังประตูแก้วที่กั้นส่วนสำนักงานอื่นๆ ออกจากโถงต้อนรับ
ห้องทำงานทั้งหมดเป็นกระจกทั้งแบบทึบและแบบใส ทุกย่างก้าวที่เดินไป ฉันมองเห็นเงาสะท้อนของตัวเอง พ่อของฉันหยุดอยู่หน้าห้องทำงานห้องหนึ่ง ก่อนที่ฉันจะหยุดตาม ฉันมองเข้าไปในห้องทำงานนั้นผ่านกระจก และแล้วความตกใจก็พรากลมหายใจของฉันไป เมื่อได้สบตากับเขา...คนที่ฉันแอบชอบในวัยเด็ก มาร์ค สเติร์น
“โอ๊ะโอ เจ้าหนู หยุดตรงนั้นแหละ” พ่อพูดแล้วใช้มือทั้งสองข้างจับไหล่ฉันไว้ ฉันหันกลับไปมองพ่อ “นี่ห้องทำงานเขา พ่อไม่แน่ใจว่าลูกยังจำมาร์คได้ไหม แต่ลูกจะได้รับการดูแลอย่างดี” เขายิ้มให้ฉัน แล้วจึงหันไปสนใจมาร์ค ประตูกระจกห้องทำงานเปิดอยู่แล้ว และเขาก็เดินเข้าไปข้างใน ฉันเดินตามหลังเขาไป ให้ตายสิ นี่มันแย่กว่าที่คิดไว้เสียอีก ฉันพยายามจะไม่มองเขา เลยได้แต่ก้มหน้ามองพื้นกระเบื้องสีขาวมันวาว กัดริมฝีปากล่าง และกุมมือไว้ด้านหน้า
“มาร์ค เป็นไงบ้าง นี่เกรย์-ลินน์นะ” พ่อพูดขึ้น
“ผมสบายดีครับ ขอบคุณ คุณเวสตัน” ฉันเงยหน้าขึ้นทันทีที่เขาพูด เขาไม่ได้นั่งอยู่ที่เก้าอี้แล้ว แต่กำลังยื่นมือข้ามโต๊ะทำงานมาจับมือกับพ่อของฉัน เสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาแนบสนิทไปกับกล้ามเนื้ออย่างพอดิบพอดี หนวดเคราที่ไม่เกลี้ยงเกลาของเขาทำให้ดูเหมือนไม่ได้โกนมาเป็นสัปดาห์ ผมสีเข้มของเขาถูกเสยไปด้านหลังอย่างเรียบกริบ เขานั่งลงบนเก้าอี้ ดวงตาสีเขียวของเขาไม่ละไปจากฉันเลย ท้องไส้ของฉันปั่นป่วนไปหมด และฉันก็เผลอกัดริมฝีปากล่างของตัวเอง
“พ่อจะรออยู่ตรงโซนต้อนรับนะ” พ่อพูดแล้วก็เดินจากไปพร้อมกับปิดประตู
“เชิญนั่งก่อนสิ” มาร์คพูดพร้อมกับกดปากกาไปมา ฉันนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของเขา วางกระเป๋าไว้บนตัก ฉันสบตากับเขาอีกครั้ง เขากำลังมองฉันอยู่แล้ว และยังคงกดปากกาเล่นอยู่ ฉันไม่ได้สังเกตสภาพแวดล้อมในห้องทำงานของเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะสายตาของฉันเหมือนถูกตรึงไว้ที่เขา ราวกับแม่เหล็ก ด้านหลังของเขามีหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน “เกรย์-ลินน์ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เขายิ้มบางๆ อย่างอ่อนโยนขณะพินิจมองใบหน้าของฉัน ก่อนที่สายตาจะกลับมาหยุดอยู่ที่ดวงตาของฉันอีกครั้ง ฉันกลืนน้ำลาย ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย แย่แล้ว “เธอโตขึ้นเยอะเลยนะ” เขาพูด
“คุณก็เหมือนกันค่ะ” ฉันกระแอมในลำคอแล้วเลียริมฝีปาก หลบสายตาเขา “ฉันหมายถึง... ใช่ค่ะ ไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว” ฉันรู้สึกว่าแก้มร้อนผ่าวด้วยความอับอาย และเมื่อเงยหน้าขึ้นมองเขา เขาก็ทำสีหน้าขบขัน ก่อนจะละสายตาไปมองเอกสารบนโต๊ะ
“พ่อของเธอบอกฉันว่าเธออยากจะมาฝึกงานด้านออกแบบเว็บไซต์ อะไรทำให้เธอคิดว่างานออกแบบเว็บไซต์เหมาะกับเธอล่ะ” เขาถามพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาสบตาฉัน
“เอ่อ... ฉันชอบค่ะ ฉันรักการออกแบบเว็บไซต์ทุกรูปแบบ และเคยสร้างเว็บให้คนที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจเล็กๆ มาสองสามรายแล้วค่ะ” ฉันกระแอมอีกครั้ง “ฉันจบการศึกษาจากวิทยาลัยซีแอตเทิลเซ็นทรัล และอยากจะมีประสบการณ์ทำงานในสายงานนี้มากขึ้นค่ะ” ฉันบอก เขามองฉันอย่างขบขัน ฉันว่าฉันคงอธิบายได้ห่วยแตกมากแน่ๆ
“ฉันดูงานออกแบบเว็บไซต์ของเธอแล้วหลังจากที่พ่อเธอโทรมา และฉันคิดว่าเธอมีพรสวรรค์นะ ตอนแรกนึกว่าเธอจะไปทำงานในวงการสิ่งพิมพ์ซะอีก เพราะเห็นว่าเธอชอบอ่านหนังสือมาตลอด” เขายิ้มให้ฉัน ฉันยิ้มบางๆ ขณะก้มมองกระเป๋า “สงสัยฉันจะคิดผิดสินะ เธอไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมแล้ว ผลงานของเธอมันบอกทุกอย่างด้วยตัวของมันเอง ฉันชอบนะ เธอเริ่มงานพรุ่งนี้เลย พร้อมกับเด็กฝึกงานออกแบบเว็บไซต์คนอื่นๆ แล้วทุกคนจะได้เจอกับคนในแผนกที่เหลือ ฉันรอคอยที่จะได้เห็นผลงานการออกแบบเว็บไซต์เจ๋งๆ จากเธอนะ เกรย์-ลินน์” เขาพูดขณะขยับตัวบนเก้าอี้ แต่ไม่เคยละสายตาไปจากฉันเลย
“ขอบคุณค่ะ” ฉันพูด ฉันรู้สึกเหมือนอากาศทั้งหมดในห้องถูกสูบออกไปจนหมด ฉันต้องรีบออกจากห้องทำงานนี้และไปให้ไกลจากเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
“มีเท่านี้แหละ เกรย์-ลินน์ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ” เขายิ้มให้ฉัน
ฉันลุกจากเก้าอี้ และยิ้มให้เขาก่อนจะเดินไปที่ประตู ให้ตายสิ มือของฉันสั่นไปหมดตอนที่เปิดประตู ขณะที่ฉันเดินผ่านห้องทำงานของเขา ฉันยังคงรู้สึกได้ถึงสายตาของเขาที่มองตามมา ฉันหวังว่าจะไม่ต้องเจอเขาทุกวันหลังจากเริ่มงานพรุ่งนี้ เพราะมันแย่มาก แค่คุยกับเขายังแทบจะพูดไม่ออกเลย เขาหล่อเหลา มีเสน่ห์จนฉันหายใจไม่ออก
