เพื่อสิ่งที่ดีที่สุด

เกรย์

การประชุมของมาร์คเพิ่งจบ เขาหันมามองฉันขณะเดินเข้าห้องทำงาน ฉันรู้ว่าเขาคาดหวังให้ฉันเข้าไปรออยู่แล้ว ฉันจ้องเขานิ่งๆ ด้วยสายตาจริงจัง ส่วนเขาก็จ้องฉันกลับมาเขม็ง ฉันก้มหน้ามองงานของตัวเองแล้วเอามือกุมขมับวางบนโต๊ะ ฉันจะไม่ยอมเข้าไปในห้องทำงานของเขา เขาไม่อยากให้ฉันลาออกจากบริษัทนี้ ดังนั้นฉันจะทำมันอยู่ดี ไม่มีอะไรที่เขาพูดหรือทำจะสามารถหยุดฉันได้ในครั้งนี้

“เกรย์” ฉันได้ยินเสียงเขา ฉันเงยหน้ามอง เขามายืนอยู่ข้างโต๊ะทำงานของฉันพร้อมรอยยิ้มขบขันบนใบหน้า “ที่ห้องทำงานผมนะ ได้โปรด” ตาฉันเบิกกว้าง เขาพูดคำว่า ‘ได้โปรด’ ซึ่งเขาไม่เคยพูดกับฉันเลย

“ฉันมีงานต้องทำให้เสร็จค่ะ” ฉันบอกเขา

“ไม่นานหรอก” เขาพูด สายตาของเขาดูอ้อนวอน

“ก็ได้ค่ะ” ฉันถอนหายใจ ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินตามเขาไปที่ห้องทำงาน เขายืนรออยู่ข้างประตูเพื่อให้แน่ใจว่าฉันกำลังเดินตามไป ไอ้กลิ่นบ้าๆ นั่นช่างหอมยั่วยวนเหลือเกิน ฉันรู้สึกได้ถึงสายตาของเขาที่แผดเผามาที่ฉันขณะเดินไปยังโต๊ะทำงานของเขา เขาปิดแล้วก็ล็อกประตูตามหลังเรา ฉันมองไปทางเขา เขากำลังเดินไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง และฉันก็นั่งลงตอนที่เขานั่งลงเช่นกัน

“ผมยังไม่อยากให้คุณไป” เขาพูด “หลังจากจูบครั้งนั้น ผมพยายามผลักไสคุณ ป้องกันไม่ให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก ผมจงใจพูดคำร้ายๆ พวกนั้นออกไป แต่มันเป็นเรื่องโกหก... คุณเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยมีมา” เขาดูรู้สึกผิด “ผมขอโทษ ผมหวังว่าคุณจะให้อภัยผมได้ ผมทำร้ายคุณอย่างหนัก และมันก็ฆ่าผมจากข้างในตอนที่ทำลงไป” เขาพูดด้วยแววตาเศร้าสร้อย

ฉันกลืนน้ำลาย “มันจะไม่เกิดขึ้นอีกค่ะ เพราะฉันยังจะไปอยู่ดี” ฉันพูด เขาดูใจสลาย “ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้” ฉันพูด เสียงแผ่วเบา แค่เห็นเขาเจ็บปวดเพราะคำพูดของฉันก็ทำให้ฉันหายใจไม่ออกแล้ว ฉันไม่ชอบทำร้ายคนอื่น ฉันจึงลุกขึ้นยืนและเขาก็ลุกตาม แต่แล้วฉันก็สังเกตเห็นว่าผนังกระจกในห้องทำงานของเขากำลังเปลี่ยนจากใสเป็นทึบแสง ตอนนี้ทุกอย่างถูกซ่อนไว้จากทั้งสองฝั่งของผนัง

มาร์คเดินอ้อมโต๊ะทำงานมาหาฉัน ส่วนฉันก็เอนตัวพิงโต๊ะทำงานของเขา แทบจะนั่งลงบนขอบโต๊ะ เขาขยับเข้ามาใกล้ขึ้น สายตายังคงแผดเผาจ้องลึกเข้ามาในตาฉันราวกับต้องการจะกลืนกิน เขาโน้มตัวเข้ามาแล้ววางมือทั้งสองข้างลงบนโต๊ะขนาบข้างฉัน เขาอยู่ห่างจากฉันแค่ไม่กี่นิ้ว ริมฝีปากของฉันเผยอออก และฉันสูดหายใจเข้าเบาๆ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“คุณอยากจะทำอะไร” เขาถามฉัน และฉันรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขาที่รินรดบนริมฝีปาก ฉันเลียริมฝีปากแล้วกลืนน้ำลาย ในปากรู้สึกแห้งผาก เขาบดขยี้ริมฝีปากลงมาบนปากฉัน ประคองศีรษะฉันไว้ในมือ ขโมยลมหายใจทั้งหมดไปจากปอด เมื่อฉันพยายามจะเผยอปากเพื่อหาอากาศ เขาก็สอดลิ้นเข้ามาในปากของฉัน การที่เขาจูบฉันมันเหมือนฝัน ยิ่งจูบด้วยความเร่าร้อนขนาดนี้ด้วยแล้ว เขาถอนริมฝีปากออกห่างพอที่จะมองหน้าฉันได้ แต่ยังคงตรึงฉันไว้กับที่ เราทั้งคู่ต่างหอบหายใจ “นี่คือสิ่งที่คุณต้องการหรือเปล่า” เขาถาม เสียงห้าวทุ้ม แล้วริมฝีปากของเขาก็ทาบทับลงมาอีกครั้ง ฉันวางมือลงบนแผงอกของเขา เขาถอนจูบออก แล้วนิ้วโป้งของเขาก็ไล้ไปตามริมฝีปากล่างของฉัน “นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม” เขาถามฉันอีกครั้ง แทบจะเป็นเสียงกระซิบ

“ใช่ค่ะ แต่ฉันทำไม่ได้ ฉันจะถูกคุณครอบงำจนอาจจะต้องเจ็บปวดอีกครั้ง” ฉันหายใจหอบ

“ผมบอกแล้วว่าผมขอโทษ ผมจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้คุณอยู่ต่อ” เขามองตรงเข้ามาในตาฉัน ฉันหลงทางอยู่ในป่าลึกในดวงตาคู่นั้น เฝ้าชื่นชมความงามของธรรมชาติ “ตอบผมสิ” เขาพูดเบาๆ

ฉันส่ายหน้า “ไม่มีอะไรค่ะ” ฉันพูด และเขาหลับตาลง สีหน้าแหลกสลาย เขาโน้มตัวมาข้างหน้าเอาหน้าผากชนกับหน้าผากฉัน หายใจหนักๆ โทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้ฉันสะดุ้งตอนที่เขากำลังจะจูบฉันอีกครั้ง เขาวางจูบเบาๆ บนหน้าผากของฉัน แล้วหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะทำงานด้านหลัง โดยไม่ขยับไปจากข้างกายฉันเลย

“ครับ” เสียงเขาฟังดูหงุดหงิด “บ้าเอ๊ย ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้” เขาพูดแล้ววางโทรศัพท์ลง เขามองมาที่ฉัน “ผมมีประชุมอีกแล้ว กว่าจะเสร็จคุณก็คงกลับบ้านไปแล้ว คืนนี้ผมจะไปหาที่บ้านนะ” เขาบอก

“ฉันไม่คิดว่าเป็นความคิดที่ดีเลยค่ะ” ฉันพูดพลางส่ายหน้า

“ทำไมล่ะ” เขาดูผิดหวัง ขณะที่ฉันอ้าปากจะพูด ก็มีเสียงเคาะประตู “ให้ตายสิ” มาร์คพูดลอดไรฟันขณะถอยห่างจากฉันไปอีก ฉันยืนตัวตรง และเขาหยิบแฟ้มสองสามฉบับจากโต๊ะทำงาน “คืนนี้” เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจังแล้วก็เดินออกไป

ฉันเดินออกจากห้องทำงานของเขา และแจ็กกี้ก็เห็นฉันเดินออกมาพอดี เธอส่งสายตาเคลือบแคลงมาให้ ด้วยนโยบายห้ามพนักงานคบหากันในที่ทำงาน มันย่อมต้องมีคนสงสัยอยู่แล้ว และอย่าลืมว่าห้องทำงานของมาร์คที่ปกติจะเป็นกระจกใส ตอนนี้มันกลับไม่ใสแล้ว ให้ตายสิ ยิ่งทำให้แย่เข้าไปใหญ่เลย ฉันดีใจที่ยังยืนหยัดในจุดยืนของตัวเองได้ แต่คืนนี้เขาจะมาหา และฉันไม่คิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีเลย ฉันอยากจะป้องกันความเจ็บปวดใจใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะถ้าพ่อของฉันรู้เข้า ฉันยังไม่พร้อมให้ท่านรู้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือต้องแน่ใจว่าคืนนี้ฉันไม่อยู่บ้าน ฉันจะนัดแซมไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง และไม่ใช่ที่คลับด้วย พรุ่งนี้ฉันก็จะไม่มาทำงานเหมือนกัน ฉันลาออกแล้ว ถึงแม้เขาจะไม่รับใบลาออกก็ตาม

ฉันต้องยืนหยัดในจุดยืนของตัวเองกับมาร์คต่อไป ถึงแม้มันจะยากและฉันต้องการเขามากแค่ไหน แต่นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว

บทก่อนหน้า
บทถัดไป