บทที่ 3 3

“คุณธีรภัทร วู้ๆๆๆๆๆๆ” หญิงสาวป้องปากตะโกนเรียกหน้าบ้านพักหลังใหญ่อย่างไม่อายต่อสายตาของใคร

“คุณเป็นใครครับ” ลุงแก่ๆที่ทนฟังเสียงตะโกนของหญิงสาวไม่ไหวเดินออกมาดู แต่ไม่ยอมเปิดประตูรั้วให้เธอได้ก้าวเข้าไปด้านใน

“ฉันมีธุระจะคุยกับคุณธีรภัทร” วรัศยาเชิดหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ ก่อนจะหน้าเจื่อนลงเมื่อเห็นสายตาของชายชรามองกวาดตั้งแต่หัวจรดเท้าของเธอ

ผิดด้วยเหรอที่เธอแต่งตัวด้วยเสื้อแขนสั้นกับกางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบคู่เก่ง

“กริ่งหน้าบ้านก็มี ทำไมคุณไม่กดครับ มาร้องเรียกแบบนี้ทำไม” สายตาของชายตรงหน้าเหมือนจะบอกเธอเป็นนัยๆว่าเธอนั้น 'บ้านนอก'

“ก็ฉันอยากเรียกนี่นา แบบว่าไม่ชอบใช้กริ่งน่ะ” เธอตอบเสียงเรียบๆทั้งๆที่หน้าชาดิกจนแทบไม่มีความรู้สึก

“เหรอครับ” นายเอก พ่อบ้านของธีรภัทรมองเธออีกครั้งด้วยสายตาประเมินก่อนจะพูดตัดรอน

“คุณธีร์ไม่อยู่หรอกครับ กลับไปเถอะ”

“วู้ๆๆๆๆ คุณธีร์ ทางนี้ๆๆๆ” วรัศยาโบกไม้โบกมือเรียกเมื่อเห็นร่างสูงคุ้นตากำลังเดินออกมาจากตัวบ้านทันทีโดยไม่สนใจคำพูดของนายเอกเลยแม้แต่น้อย

“อ้าว คุณ!” ธีรภัทรเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ แล้วสาวเท้าเดินเข้ามาหาหญิงสาว

“ทำไมไม่เปิดประตูรั้วให้เธอเข้ามา” เขาหันไปต่อว่าพ่อบ้านแก่ๆด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

“ขอโทษครับๆๆๆ” นายเอกรีบก้มหัวขอโทษ พร้อมกับรีบเลื่อนประตูรั้วให้หญิงสาวเข้ามา

“มีธุระอะไรครับ” เขาถามพลางหลุบเปลือกตาลงมองหญิงสาวที่ตัวเล็กแค่อกของเขาด้วยแววตาแปลกๆ

“ฉันจะมาเจรจาธุรกิจกับคุณ” เธอพูดฉะฉานก่อนจะยกมือขึ้นกอดอกอย่างจริงจัง แต่ในสายตาของเขาแล้ว ท่าทางแบบนั้นมันเหมือนเด็กกะโปโลที่ทำท่าอวดดีเสียมากกว่า

“ธุรกิจ???” ธีรภัทรเลิกคิ้วขึ้นสูงอีกรอบ พยายามกลั้นยิ้มเอาไว้อย่างสุดความสามารถเมื่อเห็นใบหน้างามพยักหน้าหงึกหงักขึ้นลงอย่างวางมาด

“เชิญเข้าไปคุยในบ้านผม” ชายหนุ่มผายมือก่อนจะเป็นฝ่ายเดินนำหญิงสาวเข้าไปในบ้านพักที่เขาซื้อเอาไว้สำหรับมาพักผ่อนหย่อนใจ

“มีอะไรก็ว่ามา” ชายหนุ่มพูดหลังจากที่เขากับเธอทรุดลงนั่งบนโซฟาตรงกันข้ามกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ข้อเสนอของคุณน่ะน่าสนใจดีนะ” หญิงสาวพูดเกริ่นๆพลางชำเลืองมองสีหน้าของชายหนุ่มไปด้วย

“คุณปฏิเสธไปแล้วไม่ใช่เหรอ” เขาถามน้ำเสียงยียวนพลางทำทียกแก้วน้ำที่นายเอกเอามาเสิร์ฟขึ้นจิบ

“แต่ว่า...อ้ะ” วรัศยาอุทานอย่างตกใจเมื่อกระดาษแผ่นเล็กที่เธอถือมาจากบ้านได้ปลิวหล่นลงบนพื้นพรม

“ซุ่มซ่ามจริงๆเลยนะยัยเด็กน้อย” ธีรภัทร์ส่ายหน้าอย่างระอากับท่าทางเด็กๆของอีกฝ่ายก่อนจะสำลักน้ำทันทีเมื่อวรัศยาก้มลงเก็บกระดาษ

พรวด!!

คอเสื้อที่ค่อนข้างกว้างรั้งลงจนเห็นอกอิ่มที่ซุกซ่อนอยู่ในบราเซียตัวจิ๋วอย่างชัดเจน

“อะไรของคุณน่ะ” วรัศยาเงยหน้าขึ้นส่งผลให้ชายหนุ่มรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทางทันทีแล้วดึงผ้ามาซับที่ปากอย่างรวดเร็ว

“น้ำติดคอน่ะ ไม่มีอะไรหรอก” เขาพูดทั้งๆที่ไม่ยอมสบตาเธอ

“น้ำมันติดคอได้ด้วยเหรอ แล้วเมื่อกี้คุณว่าใครเด็กมิทราบ” วรัศยาพูดลอดไรฟันเสียงเขียวในขณะที่ชายหนุ่มยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้

“ครับๆ ไม่เด็กหรอกครับ คุณน่ะ...มีเยอะเกินตัวเสียอีก” ประโยคท้ายๆชายหนุ่มพูดเสียงเบาหวิวแต่วรัศยาไม่ได้ใส่ใจฟังนัก เธอรีบพูดเข้าตรงประเด็นถึงสาเหตุที่ทำให้เธอต้องมาเยือนบ้านของเขาทันที

“ฉันจะทำงานให้คุณ แต่คุณต้องทำตามกฎที่ฉันเสนอไป” เธอพูดเสียงเด็ดขาด มองธีรภัทรที่หรี่ตาลงมองเธออย่างสนใจ

“กฎอะไร” เขาถาม ดวงตาคมเบิกกว้างเมื่อเห็นเนื้อความในกระดาษที่เธอยื่นมาให้เขาอ่าน

“คุณต้องทำตามข้อตกลงนี้อย่างเคร่งครัดนะคะคุณธีรภัทร์” หญิงสาวพูดยิ้มๆเมื่อเห็นท่าทางอึ้งๆของชายหนุ่ม........

“ข้อ1 ห้ามปล้ำฉันเด็ดขาด ข้อ2 ต้องให้อิสระแก่ฉัน ข้อ3 ห้ามเบี้ยวเรื่องเงิน 3ข้อนี้สำคัญมาก คุณต้องทำตามทุกข้อ เข้าใจมั๊ยคะคุณธีรภัทร” พูดจบ หญิงสาวก็ยัดกระดาษลงบนฝ่ามือชายหนุ่มพร้อมทำเสียงเจ้าเล่ห์

“คุณจะลองเอาไปอ่านดูอีกรอบให้ชัดเจนก็ได้นะคะ จะได้ตัดสินใจถูกว่าควรจะว่าจ้างฉันไปทำงานดีหรือเปล่า”

“ไม่ต้องอ่านหรอก ผมตกลง” ชายหนุ่มส่งกระดาษคืนให้หญิงสาว ชั่ววูบหนึ่งที่แววตาของเขาบังเกิดเป็นประกายท้าทายขึ้นมา

“ดีค่ะ เข้าใจตรงกันแล้วก็ดี ว่าแต่ว่าคุณจะให้ฉันทำหน้าที่ยังไงบ้าง” เธอเปิดปากถาม อดที่จะลอบมองเสี้ยวหน้าคมเข้มของอีกฝ่ายไม่ได้

“หน้าที่เมียเขาทำกันยังไงล่ะ คุณก็น่าจะรู้ดีไม่ใช่เหรอ หึหึ” ประโยคท้าย ชายหนุ่มแอบหยอดเสียงหัวเราะในลำคอที่ฟังดูไม่น่าไว้วางใจลงไปด้วยเล่นเอาหญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอลำบาก

“คุณอย่าพูดบ้าๆ” ดูจากสีหน้าและน้ำเสียงสั่นๆของหญิงสาว เขาก็พอจะเดาออกแล้วล่ะว่าเธอคิดอะไรอยู่

“คุณคงคิดทะลึ่งอยู่ล่ะสิ ผมหมายถึงว่า หน้าที่เมียน่ะ จะต้องคอยรับมือกับบรรดาสาวๆผู้ลากมากดีที่คุณแม่ของผมต้องการได้มาเป็นลูกสะใภ้ต่างหากล่ะ”

“คุณจ้างฉันสามหมื่นเพื่อไปทำอะไรงี่เง่าแบบนี้นี่นะ” วรัศยาเบ้หน้าอย่างไม่ชอบใจ

“ผมอยากหาผู้หญิงที่ผมรักมาเป็นคู่ครองมากกว่าอยู่กับผู้หญิงที่แม่เลือกให้ คุณเข้าใจหรือยัง”

“เอ๊ะ...ดูน้ำเน่าชอบกล เหมือนเคยอ่านเจอในนิยายเล่มไหนสักเรื่องหนึ่ง” หญิงสาวยกนิ้วชี้ขึ้นจิ้มคางทำท่าครุ่นคิดจนเขาอยากจับจูบซะให้เข็ด จะได้เลิกทำท่ายียวนใส่เขาแบบนี้เสียที

“ถ้าคุณตกลงจะทำงานให้ผม พรุ่งนี้ก็เตรียมเก็บของแล้วมารอผมที่บ้านหลังนี้เวลาบ่ายสามก็แล้วกันนะ” ชายหนุ่มพูดเป็นเชิงตัดบทก่อนที่ความคิดจะเตลิดไปมากกว่านี้

“โอเคค่ะ งั้นฉันกลับล่ะ” เธอพูดพลางก็ลุกขึ้นโดยไม่ทันสังเกตว่ามีลูกตาคมๆของใครบางคนลอบมองที่สะโพกตึงที่ถูกซุกซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงยีนส์ตัวเก่า

“ครับ แล้วเจอกันพรุ่งนี้” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามไปส่งหญิงสาวที่หน้าประตูรั้ว

“ค่ะ” วรัศยารับคำ และนั่นก็เป็นคำสุดท้ายที่เธอได้พูดคุยกับเขาในวันนี้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป