บทที่ 4 4
ร่างบางนอนพลิกกระสับกระส่ายอยู่บนที่นอน ดวงตากลมโตเหม่อมองเพดานห้องอย่างลังเลใจ
'บ้าชะมัด พรุ่งนี้เธอจะต้องไปทำงานกับเขาอยู่แล้ว แต่ทำไมเธอถึงเพิ่งจะมาคิดมากนะ เขาเป็นผู้ชาย ในขณะที่เธอเป็นผู้หญิง ถึงเขาจะเป็นถึงนักธุรกิจร่ำรวยมหาศาล ซึ่งคงไม่มีวันจะหันมามองผู้หญิงที่มีอาชีพเป็นนักเขียนเล็กๆอย่างเธอ แต่ว่า...ถ้าอยู่ใกล้ๆกันมากๆแล้วเกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา เพราะธีรภัทรนั้นมีข่าวคาวเรื่องผู้หญิงอยู่บ่อยๆจนใครๆก็พากันเรียกว่าเขาเป็นคาสโนว่า แล้วเธอจะทำยังไงดี' วรัศยาคิดในใจอย่างกังวล คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันมุ่น
'แต่ว่า...คู่ควงของธีรภัทรแต่ละคนมีแต่สวยๆหุ่นดีๆ แต่งตัวมีรสนิยมทั้งนั้นนี่นา เขาคงจะชอบผู้หญิงสวยๆ คงไม่ผิดกฎมาจับเธอปล้ำหรอกกระมัง....แต่อะไรๆก็เกิดขึ้นได้นี่นา' เสียงทอดถอนหายใจดังขึ้นแรงๆเพื่อระบายความอัดอั้น ก่อนที่ดวงตากลมจะสว่างวาบขึ้นเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
'ใช่แล้ว หมอนั่นชอบคนสวยๆนี่นา...ถ้างั้นเธอก็ต้องทำตัวให้ตรงกันข้ามกับสเปคของเขา เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง !!!!'
ตอนบ่ายสามของวันต่อมา
“.....”
“......”
“..........”
“................”
ริมฝีปากหยักลึกได้รูปของธีรภัทรอ้าค้างเล็กน้อยเมื่อกวาดตามองไปทั่วร่างของอีกฝ่าย
“ทำไมแต่งตัวแบบนี้มา ห๊ะ” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแน่นอย่างไม่พอใจ มือหนาจับเสื้อของหญิงสาวกระตุกแรงๆจนน่ากลัวว่ามันจะขาด
“นี่อะไรกัน เสื้อยืดตัวนี้ซื้อมาแล้วกี่ปี”
มือใหญ่เลือนลงมากระตุกกระโปรงอัดกลีบยาวจนถึงตาตุ่มของหญิงสาวจนเธออดที่จะอุทานออกมาด้วยความตกใจไม่ได้
“แล้วนี่มันอะไรกัน กระโปรงทรงคุณป้าตัวนี้เธอใส่มาได้ยังไง ยัยบ้านนอก” เขาตะคอกเสียงดัง ตาคู่คมเหล่มองแว่นหนาที่ประดับอยู่บนใบหน้าของเธอจนเธอดูเหมือนคุณป้าคนหนึ่ง ไม่ใช่หญิงสาววัย24อย่างที่เป็นอยู่
“ถอดแว่นออก” เขาสั่ง
“อะไรนะ”
“ผมบอกให้ถอดแว่นออกไง ยัยหูตึง” เขาว่าพร้อมตีหน้ายักษ์ราวกับจะฆ่าเธอให้ตายคามือ
“ฉันไม่ถอด” เธอยืนกรานเสียงแข็ง
“แต่งแบบนี้จะมาเดินคู่กับผมได้ไง” พูดจบเขาก็กวาดสายตามองร่างบางตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าอีกครั้งเล่นเอาวรัศยาเริ่มเดือดขึ้นมา เธอจึงมองเขากลับไปบ้าง
ร่างสูงในชุดกางเกงขายาวและเสื้อเนื้อบางเหมาะกับอากาศร้อนๆ ราคาแพง แว่นตาสีดำที่เขาสวมอยู่บนใบหน้าเสริมให้เขาดูดีขึ้นอีกเป็นกอง ผิดกับแว่นตาหนาเตอะที่เธอสวมอยู่เสียลิบลับ
“คุณจ้างฉันมาคอยกีดกันสาวๆของคุณ ไม่ได้บอกให้ฉันแต่งตัวสวยๆมาทำให้คุณพอใจเสียหน่อยนี่คะ” เธอลอยหน้าลอยตาตอบทั้งๆที่ในใจเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นก้อนหินในขณะที่เขาเป็นดอกฟ้า....
“ยัยแสบ” ธีรภัทรยกมือขึ้นกุมขมับตัวเองเมื่อเริ่มรู้สึกปวดหัวขึ้นมา ในตอนแรกเขาคิดว่าที่เธอรับข้อเสนอของเขานั้นเป็นเพราะว่าเธอสนใจในตัวเขาเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆและเมื่อถึงเวลาจะต้องไปทำงานจริงๆ เธอจะต้องแต่งตัวสวยๆเพื่อทำให้เขาพอใจ แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่เขาคิด ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาอึ้งอย่างนึกไม่ถึงว่าเธอจะทำ...
“ธีร์ขา” เสียงแหลมๆดังขึ้นก่อนที่ร่างระหงสวยเฉี่ยวบาดตาของอรันยาจะถลามาเกาะแขนของธีรภัทรพลางออดอ้อนเสียงหวานโดยไม่สนสายตาของวรัศยาที่มองอยู่เลยแม้แต่น้อย
“ธีร์จะกลับกรุงเทพแล้วเหรอคะ รันย่ายังไม่หายคิดถึงเลย”
“เอ่อ...ครับ” ธีรภัทรมีสีหน้าอึดอัดใจอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาคมเหลือบมองร่างบางในชุดเชยๆเหมือนคุณป้าขึ้นคานแว่บหนึ่งก่อนจะวกสายตากลับมาที่ร่างอวบอิ่มที่เบียดอยู่ข้างๆ
“อีกสองสามวัน เดี๋ยวรันย่าจะกลับกรุงเทพเหมือนกัน แล้วค่อยเจอกันนะคะที่รัก” พูดจบ อรันยาก็เขย่งปลายเท้าขึ้นจุมพิตแก้มชายหนุ่มเบาๆ
“พี่ธีร์ขา” วรัศยาที่ทนยืนมองท่าทางของคนทั้งคู่มาพักใหญ่ๆแล้วร้องเรียกธีรภัทรด้วยน้ำเสียงที่เลียนแบบมาจากอรันยา
“หืม?” ธีรภัทรเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างแปลกใจเมื่อเห็นวรัศยายิ้มด้วยรอยยิ้มที่หวานจนน่าขนลุกเช่นนั้น
“ไม่คิดจะแนะนำเพื่อนให้ญาญ่ารู้จักบ้างเหรอคะ” วรัศยาพูดเสียงอ่อนแต่เน้นที่คำว่า'เพื่อน'อย่างชัดเจนก่อนจะเข้ามาเกาะแขนธีรภัทรอีกข้างหนึ่ง
“ตายแล้ว คุณป้าคะ ชื่อญาญ่าเหรอคะ ไม่สมกับหน้าตาและบุคลิกเลยนะคะ โฮะๆๆ” อรันยาป้องปากหัวเราะแบบผู้ดี ดวงตาที่ถูกตกแต่งมาแล้วอย่างดี กราดมองวรัศยาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างหยามเหยียด
“ดิฉันเนี่ย ถึงจะหน้าตาท่าทางเหมือนคุณป้าแก่ๆแต่รสนิยมของดิฉันน่ะชั้นสูงนะคะ ไม่ว่าจะเป็นชื่อ การคบคน หรือแม้แต่....” วรัศยาเว้นช่วงวรรคเอาไว้ให้คนฟังเกิดความสงสัย ก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏขึ้นบางๆอย่างสะใจ
“หรือแม้แต่...สามี”
“ต๊ายยยยยยย สามีหล่อนเป็นใครล่ะจ๊ะ พวกนักเลงแถวๆนี้หรือว่าคนเก็บขยะที่ไหน” สายตาจิกๆและคำพูดดูถูกของอรันยาทำให้วรัศยาชักจะเลือดขึ้นหน้า หญิงสาวกระชากแขนธีรภัทรอย่างแรงตามอารมณ์ที่เริ่มจะขุ่นมัว
