บทที่ 7 7

“ฉันไม่ได้กังวลเรื่องนั้นแต่...” ยังไม่ทันจะพูดจบ ชายหนุ่มก็ก้มลงจูบปิดปากเธออีกครั้งจนหญิงสาวเคลิ้มไปกับรสชาติแปลกใหม่ที่เธอไม่เคยได้รับจากผู้ชายคนไหนมาก่อน

“อืมมมม” ชายหนุ่มครางในลำคอเมื่อมืออุ่นลูบที่ส่วนล่างของหญิงสาวไปมา

“......” เธอตาเบิกโพลงเมื่อรู้ว่ามือของเขาจับต้องอยู่ที่ใด ถึงแม้ว่าเธอจะสวมกระโปรงตัวยาวปิดอยู่แต่เธอก็อดที่จะหน้าแดงไม่ได้ ชายหนุ่มละมือออกก่อนจะกดสะโพกหญิงสาวให้ลำตัวของเธอแนบชิดกับเขามากยิ่งขึ้น ในขณะที่ลิ้นร้อนๆยังคงเกาะตวัดอยู่กับลิ้นอ่อนนุ่มอย่างหลงใหล

สติของวรัศยาเริ่มกลับมาเมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรสักอย่างกดแนบอยู่กับหน้าท้องของเธอ

“หยุดนะ” หญิงสาวรวบรวมแรงที่พอจะเหลือผลักชายหนุ่มออกห่างซึ่งเขาก็ยอมปล่อยเธอออกมาแต่โดยดี

“นึกว่าจะไม่ห้าม จะได้พาเข้าห้อง” เขาพูดหน้าตาย ส่วนเธอได้แต่หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธผสมกับความอาย ดวงตาลดต่ำลงมองที่เป้ากางเกงชายหนุ่มอย่างห้ามตัวเองไม่ได้

“อยากเห็นชัดๆไหมครับ ผมจะได้ถอดให้ดู” เขาพูดยิ้มๆ รู้ดีว่าที่เธอมองแบบนี้เพราะอะไร ในตอนนี้ความเป็นชายของเขาถูกปลุกจนผงาดขึ้นเต็มที่ มันคงจะไม่ดีเป็นแน่ถ้าเขาไม่รีบไปให้พ้นจากสถานการณ์เช่นนี้

“ทะลึ่ง ไอ้บ้า คนฉวยโอกาส” เธอต่อว่าเป็นชุดพลางเบือนสายตาไปทางอื่น นึกแปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมน้ำตาถึงไม่ยอมไหลทั้งๆที่ถูกเขาทำถึงขนาดนี้

“ผมจะพาไปดูห้องของเรา” เขาเน้นที่คำว่าของเราชัดๆ พร้อมกับหมุนตัวเดินนำขึ้นไปบนชั้นสองโดยมีหญิงสาวเดินตามไปติดๆด้วยท่าทางที่ยังหวั่นๆอยู่

ธีรภัทรยกมือขึ้นลูบหน้า รู้สึกอึดอัดที่กางเกงจนแทบจะระเบิด เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมถึงต้องการขึ้นเตียงกับผู้หญิงคนนี้มากถึงขนาดนี้ทั้งๆที่เธอเองก็ไม่ได้สวย เซ็กซี่ โดนใจเขาเหมือนคู่ควงคนอื่นๆเลยแม้แต่น้อย

“อย่าบอกนะว่าเราต้องอยู่ห้องเดียวกันน่ะ” วรัศยาถามเสียงแปร่งเมื่อเดินมาหยุดพร้อมเขาที่หน้าประตูห้องห้องหนึ่ง

“ครับ”

“แต่ฉันต้องการอยู่คนละห้องกับผู้ชายอันตรายอย่างคุณ”

“แม่ผมจะคิดยังไง ถ้าผมกับคุณแยกห้องกัน คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมไม่มีวันปล้ำคุณแน่ๆ...ถ้าคุณไม่เต็มใจ” ประโยคแรกๆเขาพูดเสียงขึงขังด้วยความจริงจังแต่ประโยคหลังเขาพูดเสียงอ่อนพลางยิ้มใส่ตาเธออย่างมีความหมาย

“ยังไงฉันก็ไม่ไว้ใจคุณ” เธอขึงตาใส่เขา

“ผมก็กลัวคุณปล้ำเหมือนกันนั่นแหละ” เขาว่าพร้อมกับทำหน้างอ เล่นเอาหญิงสาวตวาดแว้ดขึ้นมาทันที

“ว่าไงนะตาบ้า”

“หูตึงเหรอไง ผมบอกว่ากลัวโดนคุณปล้ำไง”

“ฉันต่างหากที่ต้องกลัว” เธอพูดเสียงสูงอย่างหมั่นไส้ผู้ชายตัวโตที่ยืนอยู่ข้างหน้า

“เอ่อ ขอโทษค่ะ” เสียงอ่อนๆของแอ๋วเด็กรับใช้ที่เดินยกกระเป๋าเสื้อผ้าตามมาส่งให้ดังขึ้นทำให้ธีรภัทรและวรัศยาต้องยุติการปะทะคารมลงชั่วคราว

“ขอบใจจ้ะ” เธอกล่าวขอบใจสั้นๆพร้อมกับส่งยิ้มให้เด็กรับใช้อย่างผูกไมตรี

“ค่ะ” แอ๋วยิ้มตอบก่อนจะก้มหัวให้แล้วเดินกลับไป

“เข้าห้องไปสิ เดี๋ยวผมช่วยยกกระเป๋าเข้าไปให้” เขาพูดเมื่อเห็นหญิงสาวยังคงยืนเฉย

“ค่ะ” วรัศยารับคำเสียงกระแทก รู้สึกปวดหัวขึ้นมาเมื่ออนาคตช่างดูมืดมนยิ่งไปกว่าเดิมเมื่อต้องมาอาศัยอยู่ร่วมห้องกับจอมคาสโนว่าอย่างธีรภัทร

“เอาเสื้อผ้าแขวนไว้ในตู้ให้เรียบร้อยนะ” เขาบอกเมื่อหิ้วกระเป๋าของวรัศยามาวางไว้ข้างๆตู้เสื้อผ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ค่ะ” เธอรับคำสั้นๆเหมือนเดิม ก่อนจะลงมือจัดเก็บเสื้อผ้าของตัวเองเข้าตู้ราวกับหุ่นยนต์

“เฮ้อ” ธีรภัทรถอนหายใจยาวๆเมื่อเห็นท่าทางซึมๆของหญิงสาวแต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เขาจึงหันหลังเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างเงียบเชียบ

“เฮ้อ” วรัศยาถอนหายใจอย่างปลงไม่ตก เธอไม่รู้ว่าเงินค่าจ้างที่ได้เดือนละ3หมื่นจะคุ้มค่ากับการที่เธอจะต้องมาเสี่ยงกับผู้ชายเจ้าชู้อย่างธีรภัทรหรือเปล่า แต่ในเมื่อเธอได้ตัดสินใจมาแล้ว เธอก็คงต้องยอมรับในสิ่งที่กำลังจะตามมา แต่เธอขอสัญญากับตัวเองเลยว่า....จะพยายามปกป้องตัวเองจากผู้ชายคนนั้นให้ถึงที่สุด เธอคิดก่อนจะหยิบเสื้อผ้ามาชุดหนึ่งแล้วลุกขึ้นยืน เดินไปที่ห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย จะได้สดชื่นและสบายตัว

มือบางเอื้อมมาจับที่ลูกบิดประตู แล้วนึกขึ้นมาได้ว่า...ธีรภัทรหายไปไหน แต่แล้วเธอก็ส่ายหน้าเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเขาคงออกไปข้างนอกไปแล้วล่ะ เมื่อคิดได้เช่นนั้นเธอก็เปิดประตูห้องน้ำทันที

แอ๊ดดดดด

“ว้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” วรัศยากรีดร้องเสียงดังเมื่อเห็นธีรภัทรยืนเปลือยท่อนบนอยู่และท่อนล่างก็....ไม่มีอะไรติดตัวสักชิ้นนอกจากกางเกงชั้นใน

“เฮ้ยยยยย” ชายหนุ่มร้องลั่น พร้อมกับรีบคว้าผ้าขนหนูผืนเล็กที่เตรียมเข้ามาด้วย มาพันช่วงล่างเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ โหนกแก้มสีขาวๆเริ่มเปลี่ยนเป็นแดงก่ำอย่างสังเกตเห็นได้ชัด

“ยัยผู้หญิงโรคจิต” เขาเค้นเสียงพูด ส่วนวรัศยาก็รีบดันประตูมาปิดไว้ตามเดิมทันที

“ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ” หญิงสาวตะโกนเถียงกลับไป ก่อนจะรีบเดินลิ่วๆไปทิ้งตัวนอนลงบนเตียง ภาพของชายหนุ่มเมื่อครู่ยังคงติดตาไม่หาย ไม่ว่าเธอจะพยายามขยี้ตาสักเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเลือนลางจางไปเสียที

ซู่ๆๆๆ

ธีรภัทรเปิดน้ำฝักบัวให้รินรดศีรษะของตัวเองเพื่อดับความร้อนที่เกิดขึ้น ภาพที่เขาได้จูบเธอครั้งแรกและเมื่อครู่ยังคงติดตา ลิ้นอ่อนนุ่ม โพรงปากหวานฉ่ำ ผิวกายที่เนียนลื่นราวกับแพรไหมเนื้อดี ดูจะยังฝังลึกอยู่ในความทรงจำ

นี่เขาเป็นอะไรไป แค่คิดถึงเธอ ร่างกายของเขาก็ดูจะร้อนผ่าวขึ้น

ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างครุ่นคิด

บทก่อนหน้า
บทถัดไป