บทที่ 9 9

“เก็บได้เลยจ้ะ” หญิงสาวบอกกับคนรับใช้ที่ยืนรออยู่ให้มาเก็บกับข้าวบนโต๊ะ ก่อนที่เธอจะก้าวออกไปเดินสำรวจบ้านอย่างเงียบๆ

บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคนรวยอย่างแท้จริง ที่ทำเอาคนที่มาจากชนบทจนๆอย่างเธอรู้สึกว่าขาจะเริ่มสั่นทุกครั้งที่ปลายเท้าสัมผัสกับพื้นพรมราคาแพง

กลิ่นหอมอ่อนๆที่โชยมาทั่วบ้านทำให้เธอต้องสูดอากาศอย่างปรอดโปร่ง ปากจิ้มลิ้มยิ้มออกมาอย่างสดใสเมื่อได้เดินออกมาถึงข้างนอก สวนหย่อมหน้าบ้านถูกตกแต่งไว้อย่างมีระเบียบและสวยงาม ทำให้เธออดที่จะนึกชื่นชมไม่ได้

จมูกโด่งรั้นเล็กๆจรดลงบนกลีบดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนๆที่กำลังแย้มกลีบบานแรกแย้มอย่างสวยใส แต่แล้วเธอก็ต้องย่นจมูกเมื่อกลิ่นฉุนๆของอะไรบางอย่างโชยมาแตะเข้าที่จมูกอย่างจัง

“ฮะ ฮัดเช้ยยยยย” วรัศยาจามออกมาเสียงดังสนั่น จมูกเริ่มแดง ก่อนที่ดวงตากลมโตจะเหลือบไปเห็น'สาเหตุ'ของกลิ่นนั่นเข้าพอดี

ร่างสูงในชุดเสื้อกล้ามสีแดงและกางเกงทรงทหารตัวใหญ่ยืนหันข้างให้เธออยู่  นิ้วเรียวแข็งแรงคีบบุหรี่ขึ้นสูบอย่างสบายอารมณ์โดยไม่ได้มีทีท่าเดือดเนื้อร้อนใจที่เห็นเธอเหม็นกลิ่นบุหรี่เลยแม้แต่น้อย

มือใหญ่ข้างที่เหลือยกขึ้นมายีผมตัวเองจนมันยุ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างเซ็งๆ พลางส่งสายตาเย็นเยียบมาทางวรัศยาอย่างไม่พอใจ

“มายืนบื้ออะไรอยู่ตรงนี้”

'ตายแล้ว ใครก็ได้ ช่วยบอกทีเถอะว่าอีตานี่เป็นเด็กอายุ16' หญิงสาวคิดอย่างฉุนๆ ดวงตากลมโตเริ่มขุ่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

“ฉันก็มาเดินเล่นน่ะสิ” หญิงสาวเชิดหน้าตอบกลับไป ในขณะที่เขาทิ้งบุหรี่ลงบนพื้นก่อนจะใช้เท้าที่ถูกซุกซ่อนอยู่ภายใต้รองเท้าผ้าใบราคาแพงเหยียบบุหรี่จนดับ

“ทำเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของบ้านเลยนะ” เขาหมุนกายมาประจันหน้ากับเธอ เธอจึงได้รู้ว่า...เขาสูงกว่าที่คิด เธอยังสูงเพียงแค่อกของเขาเท่านั้น ช่วยบอกเธออีกทีเถอะว่า...หมอนี่เป็นเด็กอายุ16จริงๆน่ะ

“แต่ฉันเป็นพี่สะใภ้ของนายนะ ฉันจึงมีสิทธิ์!!” วรัศยาตอกกลับไปด้วยใบหน้าสะใจ

“สะใภ้ที่ไม่มีใครต้องการน่ะเหรอ” นัฐวีร์สวนกลับ ดวงตาคมหลุบลงมองพื้นก่อนจะเดินเฉียดไหล่หญิงสาวกลับเข้าไปในบ้าน

“คนอื่นจะไม่ชอบฉันก็ช่างเขาเถอะ ขอแค่คุณธีร์ต้องการฉันก็พอแล้ว” พูดพลางร่างเล็กๆของวรัศยาก็เดินเร็วๆตามเด็กหนุ่มเข้าไปภายในบ้านด้วยอย่างลืมตัว

“เหรอ” เด็กหนุ่มหันขวับมามองหน้าเธอทันที ก่อนจะเมินไปอีกทางแล้วเดินหนีเข้าห้องนอนตัวเองเสียดื้อๆ เล่นเอาหญิงสาวต้องขมวดคิ้วอย่างหัวเสียเมื่อรู้สึกเหมือนโดนเด็ก'ด่า'ทางสายตา

22.30น.

หลังจากเข้าไปอาบน้ำจนสบายตัวเรียบร้อยอีกครั้งแล้ว ร่างบางในชุดนอนเนื้อหนาก็เดินมาทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่มอย่างสบายใจ แขนเรียวๆกางออกเต็มที่นอน ขาทั้งสองก็แผ่เต็มที่ก่อนที่ดวงตากลมโตจะเริ่มปิดสนิท เข้าสู่ห้วงความฝันอย่างง่ายดาย

ฮึ้ยยย หญิงสาวครางในลำคออย่างอึดอัดเมื่อเริ่มรู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆมาทับที่ตัว เปลือกตาเริ่มขยับขยุกขยิกก่อนจะลืมตาขึ้น

ความมืดทำให้เธอมองอะไรไม่ค่อยชัดเจน เห็นเพียงเงาตะคุ่มๆของผู้ชายตัวโตคนหนึ่งนอนคร่อมร่างเธออยู่

“กรี๊ดดด..” ส่งเสียงออกมาได้เพียงนิดเดียว ปากของเธอก็ถูกมือหนากดปิดไว้แน่น

“จะร้องทำไม” เสียงนี้เธอจำได้ดีว่าเสียงใคร...มันทำให้เธอคลายความตกใจลงและสติก็เริ่มกลับมาจนกล้าที่จะ...

โครม!!

กล้าที่จะถีบเขาจนสุดแรงเท่าที่มี

“โอ๊ยยย” ธีรภัทร์ร้องลั่นเมื่อถูกเท้าน้อยๆถีบเข้าที่ท้องเข้าเต็มแรง ร่างสูงกลิ้งออกจากตัวหญิงสาวก่อนจะไปนอนหงายอยู่ข้างๆ

“ไอ้ทะลึ่ง ลามก จะลักหลับฉันเหรอ” วรัศยาผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียง มือเรียวคว้าหมอนมาฟาดใส่ชายหนุ่มแรงๆหลายๆที

“ใครจะไปลักหลับเธอลงกัน ห๊ะ นอนเหมือนไม่ใช่ผู้หญิง กางเต็มเตียง180องศา น่าเกลียดจริงๆ” ชายหนุ่มค่อนขอดพลางยกมือขึ้นป้องหน้าเมื่อวรัศยาฟาดหมอนเข้าที่ใบหน้าของเขาอย่างแรง

“ถ้านายไม่คิดลามกจะมาลักหลับฉัน แล้วๆๆๆๆ....” สีแดงๆถูกฉีดเข้าที่พวงแก้ม ลิ้นเกิดอาการพันกันจนพูดไม่ออก จะให้เธอพูดออกไปได้ไงล่ะว่าแล้วเขาจะมานอนคร่อมเธอแบบนั้นทำไมน่ะ

“แล้วอะไร” ธีรภัทร์จับหมอนเอาไว้แน่น ทำให้เธอไม่สามารถยกหมอนขึ้นมาฟาดเขาได้อีก

“แล้ว...” หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอ ใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อสบกับดวงตาคมที่แพรวพราวราวกับรู้ทันคู่นั้น

บทก่อนหน้า
บทถัดไป