บทที่ 13 Chapter13

“พอแล้วครับ หวานน่วมแล้ว” ธรรมศักดิ์บอกกัญญาภรณ์ที่สะบัดตัว หมายจะเข้าไปอัดหวานให้หายแค้น ขณะนั้นการ์ดของร้านได้มาถึงที่เกิดเหตุพร้อมกับลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่เดินขึ้นมา “ฉิบหายแล้ว”

เสียงธรรมศักดิ์ดังขึ้นเมื่อเห็นสักรินทร์ ลูกชายอริยะนักการเมืองในพื้นที่และเป็นลุงของหวาน สักรินทร์จึงมีศักดิ์เป็นพี่ชายของหวานด้วย เขาไม่คิดว่าความบังเอิญจะเกิดขึ้นที่นี่

“พี่หนุ่ม ช่วยหวานด้วย มันทั้งตบทั้งชกหวาน” หวานฟ้องพี่ชายที่มองหน้าคนทำน้องสาวมองหน้าหวานผ่านความมืดสลัวของผับก็ยังเห็นรอยช้ำบนหน้าน้องสาว ความเดือดดาลเกิดขึ้นในใจสักรินทร์ทันที

“มึงกล้าทำน้องกูขนาดนี้เลยเหรอ”

สักรินทร์เสียงเข้มใส่กัญญาภรณ์ที่ไม่มีความหวาดกลัวอีกฝ่ายสักนิดเดียว

“ก็น้องมึงทำตัวเลวไง หัดสั่งสอนน้องสาวตัวเองบ้างนะว่า อย่าไปเป็นเมียน้อยคนอื่น หน้าตาก็ดี ท่าทางมีเงินไม่น่าไม่มีสมอง” กัญญาภรณ์ตอบกลับไม่เกรงกลัว ใช้จังหวะที่ธรรมศักดิ์คลายอ้อมแขนสะบัดตัวให้เป็นอิสระ “รู้ไว้ซะด้วยว่า น้องสาวของคุณเป็นเมียน้อยเพื่อนฉัน ถ้าคุณยังมีสมอง มีความสำนึกในความเป็นคนอยู่ล่ะก็ ก็อย่าเข้าข้างน้องสาวตัวเอง พาน้องกลับไปสั่งสอนเรื่องศีลธรรมด้วยยิ่งดี จะได้ไม่ไปเป็นเมียน้อยใครอีก”

“หวานไม่ได้เป็นเมียน้อยใครนะพี่หนุ่ม พี่เต้เลิกกับเมียแล้ว แต่เมียไม่ยอมเลิกด้วยมาตามตื้อถึงที่นี่ แล้วอีคนนี้มันก็ทั้งตบทั้งชกหวาน” หวานโกหกไปคำโต สักรินทร์เชื่อคำพูดหวานมากกว่ากัญญาภรณ์ “พี่หนุ่มจะให้มันมาหยามพี่ถึงถิ่นเหรอ ดูสิดู มันทำหวานขนาดนี้พี่หนุ่มเฉยได้เหรอคะ”

“พี่จัดการให้ ใครทำหวานเจ็บมันก็ต้องเจ็บกว่าสิบเท่า”

สักรินทร์บอกน้องสาว หันมามองหน้ากัญญาภรณ์

“เฮ้ย! ใจเย็นหนุ่ม เรื่องนี้นายไม่ต้องยุ่ง หวานผิดนะที่เป็น...” ณรงค์เดชกำลังห้ามสักรินทร์ แต่คงช้าไป สักรินทร์ถลาเข้าหากัญญาภรณ์ ทุกคนคิดว่ากัญญาภรณ์อาจถูกทำร้ายจึงพร้อมใจกันช่วยปกป้อง ทว่ายังไม่ทันเข้าช่วย ทุกคนก็ต้องอึ้งเมื่อสักรินทร์ถูกกัญญาภรณ์ถีบเข้าที่ท้อง แล้วปล่อยหมัดใส่กึ่งกลางปากและจมูกสองครั้งติดกัน สักรินทร์หน้าหงายเลยทีเดียว

“มึงรู้จักกูน้อยไป”

กัญญาภรณ์พูดจบก็ออกมวยท่าจระเข้ฟาดหางใส่สักรินทร์ ท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกคนที่เห็นไม่คิดว่ากัญญาภรณ์จะมีฝีไม้ลายมือด้านการต่อสู้เก่งเช่นนี้ จากนั้นก็ตั้งการ์ดมวยเตรียมสู้เต็มที่ ลูกน้องของสักรินทร์เมื่อเห็นว่าเจ้านายโดนทำร้ายจึงก้าวเท้าเข้ามาหากัญญาภรณ์หมายเอาคืน แต่ก็ยังไม่ถึงตัวสาวหมัดหนัก ณรงค์เดชกับกรรชัยและธรรมศักดิ์พร้อมใจกันเข้าข้างกัญญาภรณ์ก็เข้ามาซัดกับลูกน้องทั้งสามคนของสักรินทร์

ส่วนคนต้นเรื่องอย่างธีรยุทธ์มองเห็นทั้งสองฝ่ายตะลุมบอนกันก็คิดหนี แต่ก็ไม่พ้นสายตากัญญาภรณ์ที่มองเห็นพอดี เธอจึงกระโดดถีบสะโพกของสามีเพื่อนจนล้มลง จากนั้นก็กระทืบไปตามลำตัวหลายครั้ง รุ่งทิวาเห็นเพื่อนรักอัดสามีตัวเองก็เข้ามาหา แต่ไม่ได้เข้ามาห้าม เธอใช้เท้ากระทืบไปตามร่างกายสามีอย่างเหลืออดและหมดความอดทน

ส่วนชุติมาไม่ได้ทำร้ายใครทั้งสิ้น เธอยืนมองดูทุกคนที่ต่อสู้กันด้วยความตื่นเต้นและตกใจ ความกลัวทำให้เธอรีบไปยืนหลบมุม และนั่นทำให้ชุติมามองเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังลุกขึ้นยืน เธออ้าปากค้างไม่คิดว่าจะพบสิงหนาทที่นี่

สักรินทร์ที่ปรี่เข้ามากัญญาภรณ์ที่บังอาจทำร้ายตนอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน เขาฉวยขวดเบียร์ที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ ตั้งใจจะใช้มันฟาดลงบนหัวกัญญาภรณ์ทว่าสักรินทร์ยังไม่ทันถึงตัวเป้าหมาย ร่างกายเขาก็กระเด็นตามแรงถีบไปชนกับเก้าอี้ทางด้านหลัง

“มึงอย่ามาหน้าตัวเมียรังแกผู้หญิงแถวนี้” สิงหนาทที่นั่งนิ่งอยู่นานทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาชำระความกับสักรินทร์ ลูกคนใหญ่คนโตที่เขาไม่กลัวเลยสักนิดเดียว “มาทางไหนกลับไปทางนั้น แล้วช่วยพาน้องสาวมึงกลับไปด้วย อ้อ...แล้วอย่าลืมสั่งสอนน้องสาวตัวเองตามที่ผู้หญิงคนนั้นบอกด้วย”

“มึงเสือกอะไรด้วย” สักรินทร์จ้องหน้าคนที่รู้ดีว่าเป็นใคร“เรื่องนี้มึงไม่เกี่ยว”

“ใช่ มันไม่เกี่ยวกับกูเลย แต่กูดันเห็นมึงจะทำร้ายผู้หญิง ต่อมความดีกูเลยกำเริบไง” สิงหนาทกวนใส่ “ถ้ามึงอยากมีเรื่องจริงๆ มีกับกูดีกว่า อย่ามีกับผู้หญิงเลย มันจะเสียชื่อสักรินทร์ลูกชายนายอริยะ นักการเมืองคนดังนะ มีเรื่องกับกูสมศักดิ์ศรีจะตายไป ว่าไง มึงอยากมีเรื่องกับกูไหม ถ้าอยากมีมาเลย กูจัดให้”

ท่าทางนักเลงโตของสิงหนาททำให้คนกร่างกับคนไม่มีทางสู้ถึงกับกล้าๆ กลัวๆ หันมามองลูกน้องของตนที่พากันนอนเจ็บหนักอยู่บนพื้นก็ยิ่งกลัว เพราะไม่มีลูกน้องช่วย แล้วยิ่งตอนนี้เพื่อนของสิงหนาทมายืนขนาบข้าง พร้อมต่อสู้เต็มที่แบบนี้ สักรินทร์ก็ไม่คิดต่อกร เขารีบเผ่นหนีทันที หวานเห็นท่าไม่ดีจึงวิ่งตามลูกพี่ลูกน้องไปอีกคน ลูกน้องของสักรินทร์ต่างพากันลุกวิ่งตามเจ้านายไปพร้อมกัน

เมื่อทุกอย่างจบลง กัญญาภรณ์ยืนมองธีรยุทธ์ที่เวลานี้นอนร้องโอดครวญอยู่บนพื้น รุ่งทิวามองสามีด้วยสายตาเย็นชาว่างเปล่า ไม่ได้รู้สึกสงสารสักนิดเดียว กัญญาภรณ์หันมาทางกลุ่มเพื่อนของธีรยุทธ์ที่เข้ามาช่วยเหลือตน

บทก่อนหน้า
บทถัดไป