บทที่ 16 Chapter16
หัวข้อเรื่องสำคัญที่คุยกันคือ เรื่องส่งตัวกัญญาภรณ์เข้าหอในวันพรุ่งนี้ เถ้าแก่สันต์ใช้บ้านหลังนี้เป็นเรือนหอ โดยให้ว่าที่ลูกสะใภ้ที่ตนหมายตาไว้พักอยู่ห้องเดียวกับลูกชาย เถ้าแก่สันต์ใช้ช่วงเวลาที่สิงหนาทไปประจวบคีรีขันธ์นำเตียงนอนใหม่มาแทนของเก่า ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่เปลี่ยนคือ ตู้เสื้อผ้าที่ใหญ่กว่าเดิม เพื่อจะได้ใส่เสื้อผ้าได้สองคน
ระหว่างที่คุยสายหยุดนึกขึ้นได้ว่า ลืมกินยา พอจะค้นในกระเป๋าผ้าที่พกติดตัวมาด้วยก็พบว่า ลืมถุงผ้าไว้ในรถ นางจึงเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปยังด้านนอก เพื่อวานให้ชุติมาไปเอาถุงผ้าให้
“คุยเสร็จแล้วเหรอป้าหยุด” ชุติมาถามคนเป็นป้า
“เปล่า ข้าจะวานเอ็งไปหยิบถุงผ้าในรถให้หน่อย ข้าลืมเอาออกมาด้วย”
“ได้จ้ะ ป้ารอแปปนะ”
ชุติมาเดินออกไปเอาของให้สายหยุด สายหยุดไม่ได้นั่งรอหลานสาวในห้องรับแขก นางกลับเดินเข้าไปรอในห้องในเล่น
ภายในห้องนั่งเล่นกำลังคุยเรื่องสิงหนาทกับกัญญาภรณ์กันอย่างออกรส ทั้งสี่คุยกันว่าหากสิงหนาทกับกัญญาภรณ์อยู่ด้วยกันไปสักพัก เถ้าแก่สันต์จะคิดแผนการทำให้ทั้งคู่จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายจะได้ครองคู่กันไปจนแก่เฒ่า แค่นี้แผนหาคู่ก็สำเร็จลุล่วงสวยงาม
“ตื่นเต้นจังเลยเถ้าแก่ พรุ่งนี้ถึงวันส่งตัวแล้ว หวังว่าเราจะมี
หลานสมใจนะ” สายหยุดพูดไปยิ้มไป
“ใช่จ้ะ ฉันก็ตื่นเต้นนะ คิดภาพตอนที่สิงห์เจอแพรครั้งแรก
จะเป็นไง คงถูกใจสิงห์แหละ แพรทั้งสาวและสวย แถมเก่งด้วย ฉันล่ะปลื้มใจจริงๆ ที่ได้แพรมาเป็นสะใภ้” ปานวาดเอ่ยด้วยใบหน้าแช่มชื่น
“อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้เร็วๆ ลูกของเราคงมีความสุขเนอะ”
เถ้าแก่สันต์ยิ้มกว้าง แต่คนที่เดินเข้ามาเพื่อนำถุงผ้ามาให้สายหยุดกลับไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเถ้าแก่สันต์
“แต่หนูว่า กลัวจะฆ่ากันตายมากกว่าค่ะ”
ชุติมาไม่ได้เสียมารยาทแอบฟัง ตอนที่มาถึงหน้าประตูห้องที่ปิดไม่สนิท เสียงการสนทนาได้ลอยเข้ามาในหู เธอเคาะประตูห้องตามมารยาทแต่คนในห้องอาจไม่ได้ยินเพราะมัวแต่พูดคุยกันอย่างออกรส ทำให้เธอได้ยินการพูดคุยเต็มสองหู
“ทำไมเอ็งพูดอย่างนี้ล่ะ” สายหยุดถามหลานสาว
“พี่แพรบอกหนูเมื่อวานว่า พี่แพรยอมเป็นเมียนายหัวสิงห์ก็
จริงแต่ไม่ได้หมายความว่า จะเป็นเมียจริงๆ พี่แพรยังบอกอีกว่าจะอัดนายหัวสิงห์ให้น่วม นายหัวสิงห์ไม่มีวันเห็นขาอ่อนพี่แพร” ผู้ใหญ่ทั้งสี่พากันนิ่งเงียบกับคำตอบของชุติมา “หนูก็พอรู้นิสัยนายหัวสิงห์ นิสัยทั้งคู่คล้ายๆ กันไม่มีใครยอมใคร ถ้าพี่แพรออกหมัดมวยกับนายหัวสิงห์จริง คิดดูค่ะว่า มันจะบรรลัยหรือว่ามีความสุข”
คราวนี้ทั้งสี่มองหน้ากัน ก่อนหันไปมองหน้าชุติมา ทุกคนต่างมีความคิดตรงกันว่า คำตอบจากคำถามเชิงพูดที่ว่า มันจะบรรลัยหรือมีความสุข คืออะไร
“แพรพูดอย่างนี้จริงเหรอยู” เถ้าแก่สันต์ถาม
“จริงจ้ะ แล้วยังมีอีกเรื่องนึงนะ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ มันเป็นเรื่องบังเอิญมากๆ จ้ะ” ผู้ใหญ่ทั้งสี่ให้ความสนใจทันที
“เรื่องอะไรยู เอ็งเล่ามาเร็วเข้า” พจน์เร่งหลานสาวด้วยความอยากรู้เต็มที่
“ก็เมื่อคืนนี้เพื่อนที่แพรที่ชื่อพี่ชมพู่ตามผัวที่พาเมียน้อยมาเที่ยวกระบี่ พี่แพรกับพี่พู่รวมทั้งหนูไปตามผัวพี่พู่ที่ผับ...” ชุติมาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นฉากๆ เถ้าแก่สันต์ ปานวาด พจน์และสายหยุดนั่งฟังอย่างตั้งใจ ทั้งสี่พากันตกใจเมื่อรู้ว่า สิงหนาทกับกัญญาภรณ์เจอกันแล้ว แต่ไม่รู้ว่าคือใคร
“ที่แท้ผู้หญิงที่อ้างว่าเป็นเมียลูกชายฉันก็คือแพรงั้นหรือ” เถ้าแก่สันต์พูดขึ้นหลังจากชุติมาเล่าเรื่องจบ เรื่องที่ได้ยินสอดคล้องกับเรื่องเล่าจากปากสิงหนาทเมื่อเช้านี้ คนที่ลูกชายกำลังตามหาคือกัญญาภรณ์
“เมื่อเช้านี้สิงห์เล่าเรื่องนี้ให้ฉันกับเถ้าแก่ฟังเหมือนกัน แต่ไม่คิดนะว่าจะเป็นแพร” ปานวาดเอ่ย “แต่แพรก็พูดไม่ผิดนะ พรุ่งนี้แพรก็เป็นเมียสิงห์จริงๆ วันนี้เห็นว่าจะไปตามหาคนที่อ้างเป็นเมีย แต่คงไม่ได้หาแล้วแหละกว่าจะกลับมาจากประจวบก็คงค่ำ”
“นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอกจ้ะ ปัญหาใหญ่ก็คือวันพรุ่งนี้มากกว่า เราจะทำยังไงให้นายหัวสิงห์กับพี่แพรไม่วางมวยใส่กัน” ชุติมาบอกปัญหาใหญ่“หนูว่านะ พอรู้ใครเป็นใคร คงไม่มีใครยอมเป็นของใครแน่ คราวนี้หนี้สินที่ลุงติดเถ้าแก่สันต์จะหมดได้ไง”
จะมีเพียงชุติมาคนเดียวในห้องนี้ที่ไม่รู้ว่า เรื่องหนี้สินทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก เป็นเพียงแค่แผนที่จะทำให้สิงหนาทกับกัญญาภรณ์ตอบตกลงตามเงื่อนไข แต่ทำขึ้นอย่างสมจริง มีสัญญาเงินกู้ที่ระบุวันเดือนปีที่กู้พร้อมลงชื่อทั้งผู้กู้และผู้ให้กู้ เพื่อไม่ให้ใครสงสัย
“เออนั่นสิ เอาไงล่ะทีนี้ นิสัยไม่ยอมคนทั้งคู่ด้วย” ปานวาดเอ่ยเป็นคนแรก รู้สึกหนักใจขึ้นมาทันใด
“เอาไงดีเนี่ย พรุ่งนี้แล้วนะที่เราจะให้สิงห์กับแพรเข้าหอ ถ้าไม่จัดการอะไร รับรองห้องหอพังแน่” เถ้าแก่สันต์มีความหนักใจในน้ำเสียงและใบหน้า
“ที่หนูบอกเรื่องนี้เพราะอยากให้เถ้าแก่สันต์กับลุงคิดดีๆ พี่แพรยอมจริงแต่ไม่ยอมเป็นเมียนายหัวสิงห์ง่ายๆ แล้วหนูก็เชื่อว่านายหัวสิงห์ก็คงไม่เต็มใจมีเมียสักเท่าไหร่ คนไม่เต็มใจมาเจอกัน ถ้าคุยกันดีๆ ตกลงกันประมาณว่าจะเป็นผัวเมียกันเพียงในนามมันก็ดีไป แต่ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง หนูไม่อยากคิดเลยว่ามันจะเป็นยังไง คงได้เจ็บตัวกันทั้งคู่ ถ้ายกเลิกได้ก็ยกเลิกเถอะค่ะ เพื่อความปลอดภัยของนายหัวสิงห์กับพี่แพร”
ชุติมากล่าวในเรื่องที่เป็นกังวล เธอห่วงทั้งกัญญาภรณ์และนายหัวสิงห์จึงตัดสินใจพูดเรื่องนี้ เพราะหวังว่าจะทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสี่เปลี่ยนใจ เปลี่ยนความคิด
