บทที่ 2 บทที่ 1 นัดพบ
หลังจากที่ทุกคนออกไปดาราก็วิ่งเข้าไปหาคุณพ่อก่อนจะมองสำรวจทั่วตัวของท่านว่ามีอะไรได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า ซึ่งดูเหมือนว่าคนพวกนั้นจะไม่ได้ลงมือทำอะไรร้ายแรง ไม่รู้ว่าคุณพ่อคิดอะไรอยู่ถึงได้ไปกู้เงินพวกนอกระบบ ข่าวก็ออกโครม ๆ ว่ามันโหดแค่ไหน
"คุณพ่อคิดอะไรอยู่คะถึงไปกู้เงินพวกนอกระบบ รู้ไหมว่ามันทวงหนี้โหดขนาดไหน ทำแบบนี้ไม่กลัวว่าจะถูกพวกมันฆ่าหรือไง"
เธอเอ่ยออกมาด้วยความเป็นห่วงคุณพ่อ ซึ่งเอาจริงท่านเองก็ไม่ได้ไปยืมเงินพวกนอกระบบแต่อย่างใด แต่เจ้าของเงินที่พูดถึงคือมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ เขามีธุรกิจในเครือมากมายและที่สำคัญที่สุดเขาเป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท และเมื่อเกิดปัญหาเขาแค่ไปขอความช่วยเหลือแต่ก่อนหน้านี้ท่านก็ปรานีมาโดยตลอดไม่ได้ทวงเงินแต่อย่างใด แต่ทำไมครั้งนี้ถึงไม่ยอมให้จ่ายดอกเบี้ยเหมือนก่อนทวงเงินต้นจนครบหมดซึ่งไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน
"มันไม่ใช่เงินกู้นอกระบบหรอก เจ้าของเงินเขาเป็นมหาเศรษฐีแต่พ่อไม่อยากให้หนูไปเจอกลัวว่าเขาคิดอะไรไม่ดี ลูกสาวพ่อยังสาวยังสวยถ้าไปต้องตาต้องใจพวกมหาเศรษฐีจะแย่เอา ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวคืนนี้พ่อจะเป็นคนไปเอง พ่อไม่อยากให้หนูเอาตัวเองไปเสี่ยง"
คุณพ่อของดาราเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ท่านไม่อยากจะให้ลูกสาวเอาชีวิตไปเสี่ยงเพราะไม่รู้หรอกว่ามหาเศรษฐีมีความคิดยังไง ในโลกของธุรกิจไม่มีคนที่ใจดีเป็นพ่อพระหรอก เพราะฉะนั้นเขาจะต้องปกป้องลูกสาวอย่างดีที่สุด
"ไม่ได้หรอกค่ะ หนูเป็นคนรับปากเองว่าจะไปถ้าเกิดว่าคุณพ่อไปแล้วมีปัญหาขึ้นมาจะแย่เอานะคะ คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงหรอกหนูเอาตัวรอดได้"
เธอยื่นมือไปกุมมือคุณพ่อเอาไว้ก่อนจะส่งยิ้มไปให้ ถ้าท่านบอกว่าเจ้าของเงินไม่ได้เป็นเจ้าหนี้นอกระบบ เขาเป็นมหาเศรษฐีมีหน้าตาในสังคม เพราะฉะนั้นคงไม่กล้าที่จะทำอะไรเพื่อให้ตัวเองเป็นข่าวเสียหายหรอก
"แต่ว่า..."
"อย่าลืมสิคะว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีนะ ถ้าทำอะไรหนูคงไม่พ้นเป็นข่าวโด่งดัง เขาไม่เอาตัวเองมาแปดเปื้อนแบบนั้นหรอกค่ะ"
และเมื่อลูกสาวพูดแบบนั้นเขาก็นึกตามคำพูดซึ่งก็เริ่มเอนเอียงไปในทางที่ดี ก็จริงอย่างที่ดาราบอกเขาเป็นมหาเศรษฐีมีแสงสว่างส่องตลอดคงไม่กล้าทำอะไรหรอกมั้ง
"เอางั้นก็ได้ ให้คนของเราตามไปด้วยไหม"
"ไม่เป็นไรค่ะพ่อเดี๋ยวหนูไปเอง เดี๋ยวหนูไปคุยขอให้เขาเลื่อนกำหนดให้หน่อย สักเดือนหนึ่งก็ยังดีค่ะเราจะได้เตรียมเงินมาคืนเขาทัน พ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะคะหนูจะทำทุกอย่างเพื่อให้บริษัทของเราไปต่อได้"
ดาราโอบกอดคุณพ่อเอาไว้ด้วยความห่วงใยท่าน กลัวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้ท่านไม่สบายใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอจะปกป้องครอบครัวของเราให้ผ่านสิ่งเลวร้ายพวกนี้ไปได้
และในช่วงเย็นเธอเดินทางไปที่ night club Live Vision ชั้น 5 โซน VVIP ห้องที่ 8 ตามที่ลูกน้องของเจ้าของเงินพูดเอาไว้ เป็นคลับหรูที่นักธุรกิจนิยมไปสังสรรค์กันมีความหรูหราและก็บริการแบบพิเศษเพื่อให้ผู้เข้าใช้บริการรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว มีบรรยากาศที่หรูหราและสงบ มีบริการพิเศษระดับพรีเมี่ยม ให้ความเป็นส่วนตัวโดยที่ไม่ถูกบุคคลอื่นรบกวน สามารถทำเป็นห้องประชุมและมีเทคโนโลยีสามารถทำงานได้ มีความปลอดภัยสูงสุดซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง
"มาหาใครครับ ถ้าอายุไม่ถึง 20 ปีจะไม่สามารถขึ้นไปชั้น vip ข้างบนได้ ขอตรวจบัตรด้วยครับ"
เธอนิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะหยิบบัตรประชาชนของตัวเองจากกระเป๋าออกมายื่นให้บอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่ตรงทางเข้า ถึงแม้เธอจะอายุเกือบ 22 ปีแล้ว แต่ใบหน้าที่ดูเหมือนเด็กอายุ 16 ปี จึงทำให้บอดี้การ์ดไม่กล้าที่จะให้เธอย่างกรายเข้าไป
"อายุ 22 ปีแล้วเหรอหน้าตาไม่เหมือนเลย ว่าแต่ถ้าจะขึ้นไปโซน VVIP จะต้องเป็นลูกค้าคนสำคัญเท่านั้นนะ ไม่ทราบว่านัดใครไว้หรือเปล่า"
"เอ่อ คือหนูไม่..."
"สวัสดีครับคุณหนูดารา นายให้มารับแล้วขึ้นไปหาที่ห้องครับ"
วิคเตอร์คนที่ไปทวงหนี้กับคุณพ่อเธอเมื่อช่วงเช้าเดินมาหาพร้อมกับโค้งตัวเล็กน้อยผายมือเชิญให้เธอเดินขึ้นไปข้างบน ซึ่งหญิงสาวทำได้เพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินตามเขาไปทันที เพราะขี้เกียจตอบคำถามบอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่หน้าร้านด้วย
"ค่ะ"
"แขกของคุณวิคเตอร์เหรอครับ งั้นเชิญเลยครับ"
บอดี้การ์ดที่เฝ้าอยู่หน้าร้านรีบผายมือเชิญหญิงสาวให้เดินเข้าไปข้างใน วิคเตอร์คือผู้ช่วยคนสนิทของเจ้าของคลับ เพราะฉะนั้นถ้าเขาลงมารับด้วยตัวเองแสดงว่าแขกคนนั้นต้องเป็นคนสำคัญพอสมควร
ดาราเดินตามวิคเตอร์ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 5 ซึ่งเป็นโซนของลูกค้า VVIP หลังจากนั้นก็เดินตรงไปยังห้องหมายเลข 8 ซึ่งอยู่ตรงหัวมุม
"คุณหนูเข้าไปได้เลยครับตอนนี้เจ้านายรออยู่ข้างในนั้นแล้ว"
วิคเตอร์เดินไปเปิดประตูก่อนจะเชิญให้เธอเข้าไปข้างใน หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน ซึ่งตอนนี้แสงสีทำเอาเธอเวียนหัวด้วยความที่ไม่ค่อยมาเที่ยวสถานบันเทิงจึงทำให้ยังไม่คุ้นชิน พยายามที่จะปรับตัวก่อนจะสะบัดหน้าเล็กน้อยเพื่อไล่ความมึนจากนั้นก็เดินตรงไปยังโซฟา และเมื่อเธอเห็นผู้ชายคนหนึ่งในชุดสูทดูดี ใบหน้าหล่อคมผิวขาวผ่องดูสุขภาพดี สวมใส่แว่นตาสีใสดูภูมิฐาน รูปร่างดูแข็งแกร่งมองตรงไหนก็ดูดีไปหมดจึงทำให้เธอไม่อาจละสายตาจากเขาได้
"เอ่อ... สะ...สวัสดีค่ะคือหนู..."
"มานั่งตรงนี้สิคุณหนูดารา"
ชายหนุ่มนั่งอยู่ตรงโซฟาในมือของเขากำลังถือแก้วเหล้าทางด้านซ้าย ส่วนมือทางด้านขวายื่นมาตบตรงโซฟาเพื่อเรียกให้หญิงสาวมานั่งลงเคียงข้าง เธอยืนตัวแข็งทื่อเพราะรู้สึกเกร็งไปหมด เขาเป็นคนที่หล่อเหลาดูมีเสน่ห์แล้วก็เป็นคนที่ดูน่ากลัวในเวลาเดียวกัน
"ค่ะ"
ดาราเอ่ยออกมาก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้าไปนั่งลงเคียงข้างเขา เธอมาที่นี่เพื่อเจรจากับชายหนุ่มเกี่ยวกับเงินกู้ของพ่อซึ่งดูจากใบหน้าของเขาน่าจะเป็นคนใจดีคนหนึ่ง คงไม่ว่าอะไรหรอกมั้งถ้าเธอจะขอเลื่อนการจ่ายหนี้ไปก่อน
"คือหนูมีเรื่องจะมาคุยกับคุณค่ะ"
"ว่ามาสิ"
เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะวางแก้วเหล้าลงตรงโต๊ะกระจก หญิงสาวเห็นแบบนั้นก็รีบเอาใจชายหนุ่มด้วยการหยิบขวดเหล้ามาเทใส่แก้วให้เขาจนเกือบเต็ม หยิบน้ำแข็งมาใส่ให้ในแก้วก่อนจะส่งไปให้ชายหนุ่มตรงหน้า
"นี่ค่ะหนูชงให้"
เขาเห็นแบบนั้นก็ยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย พิงแผ่นหลังลงกับโซฟาจ้องมองไปยังใบหน้าสวยอย่างไม่วางตา ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะเอาใจเขาแบบไหนพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ...
