บทที่ 8 ชะตาพลิกผัน (125%)
“ปล่อยเราไปนะ ปล่อยเราออกไปจากที่นี่” สาวๆ ที่เหลือต่างพากันกรูเข้ามาช่วยรุมยำชายร่างยักษ์ ถึงแม้แรงของมันจะมีมาก แต่ก็ไม่อาจทานการตะลุมบอนของผู้หญิงนับสิบชีวิตได้ เพราะเจอทั้งทุบ หยิกและข่วน ปัดทางนั้นพวกเธอก็ย้ายมาเล่นงานทางนี้ มองดูแล้วก็ชวนให้ขบขันและสะใจในคราเดียวกัน
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ โว้ย!...กูบอกให้หยุด” ทนไม่ไหวเสียงห้วนก็ตะโกนลั่น แต่ก็ไม่สามารถหยุดอารมณ์โมโหของพวกเธอได้ ยังคงโจมตีร่างใหญ่จนแทบน่วม
ปัง!
เสียงปืนที่ดังขึ้นหนึ่งนัด ทำให้การเคลื่อนไหวหยุดชะงักลงอย่างทันตาเห็น แล้วสาวๆ ก็พร้อมใจกันก้าวถอยหลังมาทำตัวลีบรวมตัวที่ริมผนังห้อง มองใบหน้าถมึงทึงของลูกน้องเสี่ยวันชัยอย่างหวาดหวั่น
“ทีนี้พวกมึงจะหยุดบ้ากันได้รึยัง ถ้ายัง…กูจะได้เอาลูกปืนยัดปากให้” ดวงตาดุวับมองไล่ทีละคนอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะมาหยุดลงที่ตัวต้นเรื่องอย่างลักษณ์ณารา
“โดยเฉพาะมึง อย่าอวดดีให้มันมากนัก ถ้ายังอยากหายใจอยู่” ใช้ปลายกระบอกปืนเชยคางมนขึ้นมามองหน้า ขู่เสียงเหี้ยมเสร็จก็เอาปืนตบที่ข้างแก้มสีซีดเบาๆ
สองอาทิตย์ถัดมา ลูกน้องไอ้เสี่ยใจมารก็เอาปืนจี้เอวเธอและผู้หญิงคนอื่นๆ ไปขึ้นเรือสำราญลำใหญ่ ซึ่งดูหรูหรากว่าเรือที่นำพาเธอมาจากเมืองไทยเป็นอย่างมาก แต่เพียงก้าวขาขึ้นเรือลำนี้ ลักษณ์ณาราก็สัมผัสได้ถึงอันตราย ขนกายลุกชูชันโดยไม่ทราบสาเหตุ
ทั้งหมดถูกต้อนเข้าไปในห้องๆ หนึ่ง ซึ่งข้างในดูหรูหราตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงระยับ และมีสาวสวยปากแดงวัยกลางคนนั่งไขว่ห้างรออยู่ ลักษณะเหมือนแม่เล้าในละครน้ำเน่าหลังข่าวที่เธอเคยดูอย่างไรอย่างนั้น
“จัดการขัดสีฉวีวรรณให้เรียบร้อยด้วยนะเจ้” เสียงที่พูดคุยกับหญิงแปลกหน้าฟังดูนอบน้อมในที
“ได้เลย เจ้จะแปลงโฉมให้สวยจนนางฟ้าชิดซ้ายนางพรายชิดขวาเชียวล่ะ” ริมฝีปากอวบอิ่มที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงเผยรอยยิ้มหวานให้ชายหน้าเหี้ยม ก่อนที่หล่อนจะใช้สายตามองสำรวจหญิงสาวทีละคน แล้วพลันสายตาคู่นั้นก็มาหยุดลงที่ร่างอรชรของลักษณ์ณารา
“หากมีปัญหาโทรเรียกผมได้เลยนะเจ้ ผมจะมาจัดการให้” ว่าพร้อมกับดึงปืนที่เหน็บอยู่กับเอวออกมาควงเล่น เหมือนเป็นการขู่คนที่อยากจะทำตัวมีปัญหาไปในตัว พูดจบก็หมุนตัวออกไปจากห้อง ตามมาด้วยเสียงปิดประตูดังปัง เหมือนเป็นการข่มขู่ให้คนภายในได้ผวา
“คืนนี้เจ้จะให้หนูขึ้นเวทีประมูลนะจ๊ะ” มือเรียวที่ประดับด้วยเล็บสีสวยเชยคางมนของลักษณ์ณาราขึ้น พิศดวงหน้างามซ้ายทีขวาที แล้วพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“เวทีประมูลอะไรคะ?” ลักษณ์ณาราถามอีกฝ่ายอย่างซื่อๆ ไอ้ลูกน้องของเสี่ยใจชั่วมันคิดจะจับเธอขึ้นมาทำอะไรบนเรือลำนี้กันแน่
“เวทีประมูลสาวๆ ที่พวกเศรษฐีชอบจัดขึ้นยังไงล่ะจ๊ะ” คำพูดที่หลุดออกมาจากปากสีแดงสด สร้างความแตกตื่นให้ลักษณ์ณาราจนแทบสิ้นสติ ดวงตากลมโตเบิกโพลง ตัวแข็งทื่อ ช็อกกับสิ่งที่ได้รับรู้ไปชั่วขณะ ก่อนที่จะควานหาเสียงตัวเองเจอ
“ไม่นะคะเจ้ หนูถูกจับตัวมา ได้โปรดช่วยหนูด้วย” ลักษณ์ณาราส่ายหน้าปฏิเสธจนผมกระจาย ในใจร้อนรนกระวนกระวาย อยากจะหลุดพ้นไปจากสถานการณ์บ้าๆ นี้เหลือเกิน
“ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกคนสวย นั่งนิ่งๆ ให้เจ้แต่งหน้าให้เดี๋ยวนี้” ลูกน้องเสี่ยวันชัยยกปลายกระบอกปืนจี้ที่เอวบาง ตลอดเวลาที่หญิงสาวโดนจับแต่งองค์ทรงเครื่อง
ไม่นานลักษณ์ณาราก็อยู่ในชุดหูกระต่ายสีชมพูหวานแหวว ชายกระโปรงสั้นจู๋เสียจนคนใส่ไม่อยากจะเดินเหินแม้แต่ก้าวเดียว เกาะอกชิ้นน้อยแทบจะปิดหน้าอกอันล้นทะลักของเธอไม่อยู่
เมื่อโดนรุนหลังขึ้นเวทีกลางห้องแกรนด์บอลรูม ที่เบื้องล่างเต็มไปด้วยชายชาวต่างชาติ ร่างน้อยก็เกิดอาการตื่นกลัว เนื้อตัวสั่นสะท้าน เหงื่อเม็ดโตผุดพรายขึ้นตามไรผมตรงหน้าผาก มือและเท้าเย็นเฉียบ อยากจะหนีก็หนีไม่ได้ เพราะโดนร่างใหญ่ของลูกน้องเสี่ยวันชัยยืนขนาบข้าง แล้วไหนจะยังชายฉกรรจ์อีกกว่าห้าชีวิตที่เฝ้าคุมเชิงอยู่ข้างๆ เวที แล้วอย่างนี้เธอจะไปไหนได้ล่ะ
‘พ่อจ๋า แม่จ๋า ช่วยลูกด้วย’ ลักษณ์ณาราได้แต่เฝ้าภาวนาในใจ เห็นท่าทางหื่นกระหายของผู้ชายทั้งหลายในที่นี้ ส่งสายตาหยาบโลนมามองเธอราวกับจะจับเปลื้องผ้า บ้างก็มองราวกับจะกลืนกิน ใจกล้าหน้าด้านหน่อยก็เดินมาชิดขอบเวทีแล้วยื่นมือหมายจะแตะเนื้อต้องตัวเธอ ลักษณ์ณาราได้แต่หวีดร้องสุดเสียง ร่างน้อยหวาดกลัวจนแทบเป็นลมล้มพับ รีบถอยหลังกรูดหนีจากมืออันน่าขยะแขยงนั่น
สุดท้ายเธอก็ทนต่อแรงกดดันอันน่าประหวั่นพรั่นพรึงไม่ไหว จำต้องกัดฟันหันไปร้องขอความเมตตาจากลูกน้องเสี่ยวันชัยทั้งน้ำตา ทว่าแทนที่พวกมันจะเห็นใจ กลับขู่เสียงลอดไรฟันว่าอย่าให้พวกมันต้องหมดความอดทนกับเธอไปมากกว่านี้
ลักษณ์ณาราถูกนำตัวมาประมูลให้ไปเป็นของเล่นของพวกมหาเศรษฐี ใบหน้าของสาวน้อยวัยแรกรุ่นดรุณีเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาและความแตกตื่นหวาดผวา แต่มันกลับไม่ทำให้หญิงสาวดูน่าสงสารในสายตาของมาร์โบโล คอฟอร์ด มหาเศรษฐีหนุ่มเจ้าของเรือสำราญแกรนด์เพิร์ลเลยแม้แต่น้อย
พลันนัยน์ตาสีควันบุหรี่ของเจ้าพ่อแห่งท้องทะเลบอลติก เหลือบแลเห็นสาวน้อยใส่ชุดหูกระต่ายสีชมพูหวานแหววยืนตัวสั่นงันงกอยู่บนเวทีห้องแกรนด์บอลรูมภายในเรือสำราญของตน มาร์โบโลก็รู้สึกสมเพชและขยะแขยงผู้หญิงคนนั้นเหลือกำลัง กรามแกร่งที่ประดับอยู่บนใบหน้าหล่อกระชากใจบดอัดกระแทกกันจนเกิดเสียงดัง แม่คุณช่างกล้าเอาเนื้อหนังของตัวเองมาขายถึงบนเรือของเขา ทั้งที่เนื้อตัวของเธอก็ไม่มีอะไรน่าพิสมัยเลยแม้แต่น้อย
