บทที่ 9 9

“ผมไม่รู้จักนีล เทอเนอร์เป็นการส่วนตัว แต่ที่ผมรู้แน่ ๆ ตอนนี้คือมันก็เป็นผู้ชายที่ทำให้ไมลี่ผิดหวังจนต้องฆ่าตัวตาย”

“นีลไม่ได้เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้นะคะ”

“ถ้าอย่างนั้นบอกมาสิว่ามันเกิดจากอะไร!”

ชายหนุ่มตะคอก นัยน์ตาสีน้ำตาลหม่นคมปลาบอัดแน่นด้วยความเคียดแค้นเจ็บปวด ยิ่งหญิงสาวหยิบยกเหตุผลมากล่าวอ้างก็ยิ่งเหมือนโหมไฟโทสะของเขาให้ลุกโพลงมากขึ้น นุชนาถเองก็ถึงกับต้องเงียบไปชั่วลมหายใจ ตอนนี้เมมฟิสไม่ยอมฟังอะไรเลย คำอธิบายของเธออาจเป็นคมดาบให้เขาใช้มันกลับมาทิ่มแทงเธอได้ง่าย ๆ และไม่รู้ว่าหากอธิบายไปแล้วจะยิ่งกระพือเพลิงแค้นในใจของเขามากขึ้นหรือไม่ หญิงสาวตัดสินใจในชั้นสุดท้ายเพื่อจะอ้าปาก

บทที่ 4 การเดินทางอันยาวไกล

“นีล...”

“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นผมไม่อยากฟัง!” เมมฟิสตวาดกร้าวและทำให้หญิงสาวชะงักกึก

“เก็บเสียงสวย ๆ ของคุณไว้ทำอย่างอื่นจะดีกว่า อย่างเช่น...ครางออกมาดัง ๆ เวลาที่...”

“เมมฟิส...อย่ามาหยาบคายกับฉันนะ”

“คุณดีแค่ไหนนอกจากหลอกล่อผู้ชายไปวันๆ”

“ฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้น คุณเป็นคนไม่มีเหตุผลเอาซะเลย”

“คุณยังจะหาเหตุผลอะไรมาอ้างให้ผมเข้าใจเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นอีก ในเมื่อคุณเองก็รู้อยู่แก่ใจว่ารวมหัวกันทำอะไรกับนีลทำร้ายน้องสาวของผม คนดี ๆ คนหนึ่งต้องตายก็เพราะไอ้ความมักง่ายของอีตัวในคราบดาราอย่างคุณ!”

“เมมฟิส!”

เขาขบกรามแน่นรู้สึกสะใจกับเสียงเล็กแหลมเหมือนถูกลงแส้ของหญิงสาว

“หรือจะเถียง”

“ฉันเกลียดคุณที่สุด เมมฟิส แคเมอรอน”

“ผมก็เกลียดคุณ!”

เมมฟิสตะเบ็งเสียงกร้าวใส่ทว่าเขาต้องผงะเมื่อรู้สึกถึงความเจ็บแปลบแล่นจากปลายนิ้วขึ้นมาถึงข้อมือ ชายหนุ่มขบกรามเสียงดังเพราะนุชนาถตอบโต้ด้วยการจิกปลายเล็บลงบนอุ้งมือข้างที่เขาบีบแก้วไวน์แตกและยังคงมีเลือดไหลซิบ ชายหนุ่มรับรู้ถึงความเจ็บปวดนั่นแค่น้อยเดียวแต่โทสะของเขากำลังจะแตกระเบิดเพราะความเคียดแค้น นัยน์ตาสีเข้มจ้องร่างเล็กเขม็ง

“คิดว่าทำแบบนี้แล้วผมจะเจ็บรึไง คุณอยากลองดีใช่มั้ยรีส...ได้...ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเอาจริงขึ้นมาแล้วคุณจะทนได้แค่ไหน”

“เมมฟิส...อื้อ!”

นุชนาถเกร็งสุดตัวเมื่อเขาตอกกลับด้วยการกระแทกริมฝีปากลงบนกลีบปากชมพูอิ่ม หนนี้เมมฟิสบดขยี้เรียวปากของเธอยิ่งกว่าขยี้กลีบดอกไม้ หญิงสาวสั่นเทิ้มไปทั้งตัวเมื่อรู้สึกถึงความเจ็บแปลบที่มุมปาก มือบางขยุ้มแขนเสื้อสูทบนตัวเขาเมื่อไม่อาจเปล่งเสียงร้องออกมา

ร่างน้อยกระตุกจากแรงขบกัดที่เม้มบนเรียวปากอิ่มจนแน่น รสเค็มปะแล่มซึมเข้าไปในอุ้งปากของหญิงสาวที่ลิ้นหนาฉกลึกและคุกคามลิ้นเล็กที่พยายามหลีกหลบ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลจากดวงตาคู่สวย

เขาขยี้กลีบปากบอบบางอย่างจาบจ้วงและเอาแต่ใจ เวลาผ่านไปเหมือนยาวนานทั้งชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้ก่อนที่เมมฟิสจะถอนปากร้อนของเขาออก และชายหนุ่มก็เกิดความตระหนกเล็ก ๆ เมื่อเห็นดวงตาเบิกกว้างของดาราสาว

ใบหน้างามเป็นสีแดงเข้ม ริมฝีปากของเธอบวมเป่งและเคลือบด้วยรอยแดงจากคราบเลือด วาบหนึ่งของสำนึกบอกว่าเขาทำรุนแรงมากไปแต่มันก็เพียงเสี้ยวหนึ่งของความรู้สึกที่จมหายไปในห้วงลึกของความโกรธแค้น

“จำไว้ว่าอย่าท้าทายผมอีก เพราะคราวต่อไปคุณอาจเจ็บตัวมากกว่านี้!”

เขาคาดโทษเสียงแข็งก่อนผละจากร่างบอบบางและลุกขึ้นยืน เมมฟิสเช็ดมุมปากด้วยหลังมือและรู้สึกถึงรสชาติเค็มของรอยเลือดข้น ในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกกุหลาบป่าที่แทรกซึมอยู่ในปากของเขาด้วย มันเป็นกลิ่นหอมหวานที่เขาสัมผัสได้ตั้งแต่จูบดาราสาวครั้งแรก หัวใจชายหนุ่มเต้นแรงแต่ใบหน้าคร้ามเข้มยังถมึงทึง

“ลุกขึ้น! คุณต้องไปฝรั่งเศสกับผมเดี๋ยวนี้”

ร่างสูงออกคำสั่งขณะจ้องมองนุชนาถที่ค่อย ๆ ขยับลุกขึ้น เธอเจ็บที่บั้นเอวและปวดปลาบไปหมดทั้งตัวโดยเฉพาะบนริมฝีปากจนต้องนิ่วหน้า แต่อะไรก็ไม่เท่าความเจ็บใจที่มันแล่นพล่านอยู่ในความคิดที่อยากตอกกลับให้เขาเจ็บแสบบ้างหากก็ไม่อาจทำได้ดั่งใจ

ร่างบอบบางโงนเงนขณะพยุงตัวให้ยืนหลังตรงและพยายามดึงชุดราตรีเกาะอกที่อยู่ในสภาพหมิ่นเหม่ให้เข้าที่อย่างทุลักทุเล เรือนผมย้อมสีเทาหลุดสยายบนแผ่นหลังขาวเนียน ถึงไม่เห็นเงาตัวเองในกระจกแต่นุชนาถรู้ดีว่าสภาพของเธอตอนนี้ย่ำแย่ขนาดไหน

“เมมฟิส”

นุชนาถร้องเรียกร่างสูงใหญ่ที่กำลังจะก้าวเท้า ชายหนุ่มหยุดและหันกลับมา

“มีอะไร?”

“ฉันอยากร้องขออะไรคุณสักอย่าง”

เขาเหยียดริมฝีปากขึ้น “คุณคิดว่าจะเรียกร้องอะไรจากผมได้มากกว่านี้อีกหรือรีส”

“ฉันแค่อยากไปพบคุณยายก่อนเดินทางไปฝรั่งเศส จริง ๆ แล้วท่านไม่ค่อยสบายและฉันก็เป็นห่วงท่านมาก”

“คุณยายของคุณจะอยู่ภายใต้การดูแลจากคนของผม ไม่ต้องห่วงว่าอาเคมิจะไม่ได้รับความสะดวกสบาย ผมจะให้คุณพบกับคุณยายของคุณ...หลังจากนี้...หกเดือน”

พูดจบก็ก้าวฉับ ๆ ออกไปโดยยไม่สนใจร่างเล็กบางที่ยืนตัวสั่นกำมือแน่น ถึงตอนนี้นุชนาถก็ยังขบปัญหาไม่แตก เธอตกผลึกความคิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้และไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร หญิงสาวยืนนิ่งชั่วอึดใจประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับคนของเมมฟิสก้าวเข้ามา

“เชิญไปที่รถครับ คุณเบคเลอร์”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป