บทที่ 6 ทำตัวแปลก ๆ NC (1)

“งั้นแนนขอตัวกลับก่อนนะ” ตอนนี้ฉันกับเบบี๋อยู่บ้านของเบบี๋ ดูเหมือนตอนนี้จะไม่มีใครอยู่ด้วย ฉันก็ไม่ได้อยากกลับตอนนี้หรอก

แต่มันรู้สึก แปลก ๆ ตั้งแต่อยู่ที่ห้างแล้วมันเหมือนมีคนมองอยู่ตลอดเวลา ฉันว่าฉันไม่ได้คิดไปเองด้วย

“แนนนี่!” เบบี๋พูดและทำหน้าอ้อนพร้อมจับมือฉันไว้

“อยู่เป็นเพื่อนเบบี๋ได้ไหม เบบี๋ไม่กล้าอยู่บ้านคนเดียว” เบบี๋พูดเสียงสั่น

“...เฮ้อ!” ฉันได้แต่ถอนหายใจแล้วยิ้มให้เด็กหญิงเบบี๋ สาวน้อยขี้อ้อน

“ก็ได้ แนน อยู่เป็นเพื่อนเบบี๋ก็ได้ ไว้แดดดี้กลับมาแนนค่อยกลับแล้วกัน!” ฉันหย่อนก้นลงนั่งข้าง ๆ เบบี๋ตามเดิม

“แล้วเราจะทำอะไรดี” เบบี๋พูดขึ้น

“เล่นเกมไหม” ฉันเป็นคนเสนอ

“เล่นเกม?” เบบี๋พูดและทำหน้าครุ่นคิด

“......เล่น ๆ” ก่อนจะตอบยิ้ม ๆ พยักหน้าหงึก ๆ

“เกมนี้แนนนี่เล่นประจำ!” ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดเกม Candy Crush Saga

“เกมนี้เบบี๋ชอบ เรามาเล่นแข่งกันใครได้แต้มสูงกว่าคนนั้นชนะ!” เบบี๋พูดและยิ้มดูเธอจะมีความสุขมาก

“Ok!” ฉันไหวไหล่เบา ๆ

“ถ้าแพ้อย่าว่าแนนนี่ใจร้ายแล้วกัน!” พูดจบฉันกับเบบี๋ก็ต่างคนต่างใจจดใจจ่อกับหน้าจอ

30 นาทีผ่านไป

“เฮ้ย!!” ฉันอุทานเสียงดัง

“คิก คิก” เป็นเสียงเบบี๋ที่หัวเราะคิกคัก ก็แน่ละ ตัวแสบเป็นคนชนะนิ

“ไม่ต้องมาหัวเราะเลย!” ฉันหยิกแก้มเบบี๋เบา ๆ

“แนนนี่! เบบี๋เจ็บนะ!” เบบี๋พูดพร้อมทำหน้ามุ่ย

“โอ้ ๆ ๆ ง้อนะ!”

ฟอด! ฉันหอมแก้มและกอดเบบี๋แน่น

เอี๊ยด!!

“แดดดี้!!!” เบบี๋ลุกพรวดวิ่งไปหน้าบ้านทันทีที่ได้ยินเสียงรถจอด

“พี่เทเลอร์?” ฉันเดินตามเบบี๋ออกไปแล้วต้องตกใจเมื่อเห็นพี่เทเลอร์อยู่หน้าบ้าน

ถ้าพี่เทเลอร์อยู่ที่นี่ งั้นก็แสดงว่าน้องพาร์ทมาไทย แค่คิดว่าจะได้เห็นตัวเล็กฉันก็ดีใจจนเนื้อเต้น

แต่...ต้องหุบยิ้มเมื่อเจอสายตาคู่ดุดันจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง

“เบบี๋...แนนนี่กลับก่อนนะ” ฉันหันไปพูดกับเบบี๋ที่กำลังคุยกับคุณกันต์ เหมือนเบบี๋กำลังงอนคุณเขาอยู่

“สวัสดีค่ะ แนนนี่ขอตัวกลับก่อน” ฉันยิ้มทักทายคุณกันต์ คุณเขารู้เรื่องฉันหมดทุกอย่าง

“แดดดี้ไปส่งแนนนี่หน่อยได้ไหม” เป็นเบบี๋ที่พูดขึ้น

“ไม่ต้อง ๆ แนนนี่ กลับเองได้” ฉันรีบปฏิเสธอย่างไว

“แต่มันจะมืดแล้วนะ แดดดี้ให้คนขับรถไปส่งดีกว่า” คุณกันต์มองไปที่พี่เทเลอร์

“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ แนนนี่กลับเองได้”

“ขอตัวนะคะ” สิ้นคำพูดฉันก็รีบเดินหนีจากตรงนี้ทันที

มันรู้สึกไม่ค่อยดียังไงไม่รู้ ยิ่งเห็นสายตาเย็นชาคู่นั้นมันยิ่งใจคอไม่ค่อยดี ถ้าฉันรู้ว่าอยู่เป็นเพื่อนเบบี๋แล้วต้องเจอหน้าเขา รู้แบบนี้กลับตั้งแต่แรกยังจะดีกว่า

หมับ! มือสากคว้าแขนฉันไว้ ทันทีที่ฉันกำลังจะเดินผ่านหน้าเขาไป

“มาทำอะไรที่นี่?” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปม…

“นะ...หนูมาส่งเบบี๋กำลังจะกลับค่ะ” ฉันไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขา สายตาเขาเหมือนมันจะไม่ใช่แค่จะถามเรื่องแค่นี้เหมือนมันมีอะไรมากกว่านั้น

“มานี่สิ” คุณเขาพูดดุ ๆ แล้วลากฉันไปที่สวนหลังบ้าน

พรึบ!

ตุ้บ!

“วันนี้ไปไหนมา?” คุณเขาพาฉันมาที่โรงจอดรถดันตัวฉันหลังติดกำแพง พร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ ใกล้จนได้กลิ่นลมหายใจอุ่น กลิ่นบุหรี่และกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิง ใช่ฉันว่าฉันเดาไม่ผิดเพราะคุณเขาไม่เคยใช้กลิ่นแบบนี้

“ไปเที่ยวกับเบบี๋” ฉันก็ตอบคุณเขาไปตรง ๆ

“......” คุณเขาเงียบเอาแต่จ้องหน้า

“มะ...ไม่ค่ะ!” ฉันรีบจับมือคุณเขาไว้ทันทีเมื่อเขากำลังจะล้วงมือเข้ามาใต้กระโปรงนักเรียน

“ห้าม?” คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน พร้อมน้ำเสียงที่ไม่พอใจ

“นะ...หนูต้องรีบกลับมันจะมืดแล้ว”

“ไอ้เด็กนั่นเป็นใคร ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ชอบใช้ของร่วมกับคนอื่น!” สีหน้าเรียบนิ่งน้ำเสียงราบเรียบแต่ฟังดูเยือกเย็นสายตาเย็นชาคู่นั้นดูแล้วยากจะคาดเดา ว่าคุณเขากำลังคิดอะไรอยู่

“โบวี่! เพื่อนหนู” ในกลุ่มก็มีแต่โบวี่คนเดียวแล้วคุณเขาหมายถึงใคร?

“แน่ใจ!” คุณเขากระซิบเบา ๆ พร้อมขบกัดใบหูเบา ๆ

“ยะ...อย่าค่ะ!” ฉันเอามือดันหน้าอกแกร่งเมื่อริมฝีปากร้อนแตะที่ต้นคอ

“นะ...หนูเจ็บ” สองมือกำหมัดแน่นนิ่วหน้าเมื่อคุณเขาออกแรงดูด มันเจ็บแปล๊บ ๆ

“เธอโกหกฉันอยู่รู้ตัวไหม!” น้ำเสียงกระเส่าพร้อมริมฝีปากนุ่มไล่จูบสูดดมตามซอกคอ แก้ม และหยุดที่ริมฝีปาก สัมผัสแบบนี้สำหรับคนอื่นอาจจะว่าอ่อนโยน แต่สำหรับฉันถ้าคุณเขาทำแบบนี้เมื่อไหร่ฉันต้องเจ็บตัวเมื่อนั้น

“หนูไม่ได้โกหก หนูไปกับเพื่อนจริง ๆ” ฉันยืนยันกับเขาก็ที่ไปด้วยกันก็มีแต่เพื่อน ๆ นิ

“ฮึ...ปากแข็ง!” แววตาเย็นชาดุดันจ้องมองฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

“ปะ...อื้อ!!” แต่ไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไร คำพูดฉันมันขาดหายไปเมื่อริมฝีปากหยักประทับจูบลงริมฝีปากฉันอย่างอ่อนโยน

“ฉันถามว่ามันเป็นใคร” ริมฝีปากหนาค่อย ๆ ผละออกอย่างอ้อยอิ่ง น้ำเสียงแหบพร่าพร้อมมือสากที่เลื่อนขึ้นมาบีบปลายคาง

“นะ...หนูไม่รู้ว่าคุณหมายถึงใคร” ฉันพูดเสียงสั่น มือเขาเริ่มออกแรงบีบปลายคางฉันอย่างแรง

“หึ...ได้!” สิ้นคำพูดเขาก็ทำการจูบบดขยี้ริมฝีปากอย่างแรง

“ฮื้อ!” ฉันร้องท้วงในลำคอเมื่อลิ้นสากลื่นสอดดันเข้ามาในโพรงปากพร้อมดูดดึงเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กอย่างแรง ยิ่งเขาดูดแรงเท่าไรความเจ็บมันก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น

ฉันดิ้นพยายามจะผลักตัวเขาออกแต่เขากลับยิ่งกระชับกอด รัดตัวฉันไว้แน่นกว่าเดิม

“ฮื้อ!!”

ปัก ปัก ปัก

ฉันฟาดมือน้อย ๆ ลงที่หลังคุณเขาอย่างแรง มือสากล้วงเข้ามาใต้กระโปรงนักเรียน พร้อมลูบตรงเนินน้องสาวและล้วงมือเข้ามาในแพนตี้ตัวน้อยที่ใส่อยู่

“ตื่นเต้นไหมแบบนี้” น้ำเสียงแหบพร่า พูดขึ้นพร้อมลมหายใจติดขัด

“อย่าค่ะ...หนูขอร้อง” ฉันพูดเสียงสั่น ที่นี่มันโรงจอดรถนะถ้ามีใครมาเห็นเข้าล่ะ

“ฮึ...หุบปาก!”

พรึบ! คุณเขาจับฉันผลักตัวหันหลังให้เขา

“ไม่นะอย่า!!” ยิ่งฉันห้ามเขาก็ยิ่งโมโห ฉันจับมือเขาที่พยายามจะถอดแพนตี้ตัวน้อยฉันออก

“อยู่เฉย ๆ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว!” สิ้นคำพูดดุดันเขาก็จัดการถอดมันออกแล้วโยนทิ้งทันที

“คิดถึงฉันไหมไม่เจอตั้งหลายวัน!” น้ำเสียงกระเส่าพร้อมปลายจมูกโด่งคลอเคลียที่ต้นคอ มือสองข้างก็จัดการกับเข็มขัดราคาแพงออกอย่างเร่งรีบ

“......” ฉันเลือกที่จะเงียบ

“แต่ฉันคิดถึงเธอทุกวันเลยนะรู้ไหม!” คำพูดหวานหูของเขามันยิ่งทำให้ความกลัวในตัวฉันมันเพิ่มมากขึ้น

“หึ...เงียบ ๆ แบบนี้ดีมากสาวน้อย!” เขากระแทกเสียงพร้อมแยกขาฉันอ้าออกจากกันเล็กน้อย

ฉันทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนนิ่ง เมื่อรู้สึกถึงของแข็งบางอย่างที่ถูไถกับก้นงอน

สัมผัสมันชวนขนลุกเมื่อปลายหัวเปียกลื่น ถูขึ้นลง เบา ๆ ลมหายใจถี่ร้อนที่พ่นเข้าออกไม่เป็นจังหวะนั้นแสดงว่าเขากำลังต้องการเป็นอย่างมาก

“เสียว ~~” เขาพูดเสียงกระเส่า

“อ่า ~~” เสียงครางในลำคอดังขึ้นอย่างพอใจ เมื่อปลายหัวมนค่อย ๆ แหวกกลีบร่องสอดใส่เข้ามาในตัวฉันทีละนิด

“อยากจุกหรืออยากเสียว ~~”

“......” ฉันได้แต่ยืนนิ่งเมื่อปลายลิ้นสากเลียตามซอกหูซอกคอ ทำเอาไรขนอ่อนฉันลุกไปทั้งตัว

ท้องไส้มันปั่นป่วน มันเสียววูบวาบตรงท้องน้อยอย่างบอกไม่ถูก

“อ๊ะ!!” ฉันรีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองทันทีเมื่อเขาดันแก่นกายขนาดใหญ่และแข็งเข้ามาในตัวฉันทีเดียวจนมิดลำ มันทั้งจุกท้องน้อยเอามาก ๆ

“หึ...จุก!” เขาเค้นหัวเราะในลำคออย่างพอใจ

เอวหนาเริ่มขยับเป็นจังหวะเนิบนาบ ฉันได้แต่ปิดปากเงียบ อีกมือค้ำกันผนังห้องไว้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป