บทที่ 4 ตามหลอน
บทที่ 4 ตามหลอน
“พรุ่งนี้แกต้องไปรับน้องไปส่งมหา’ ลัยนะฉลาม” มณีนุชบอกลูกชายตัวดี ตั้งแต่กลับมาจากบ้านของหญิงสาวก็เอาแต่นั่งดื่มอยู่ในห้องเก็บเหล้าเก็บไวน์ของบ้าน
“ไม่มีตีนหรือไงทำไมไปเองไม่ได้” น้ำสีอำพันกระดกเข้าปากเรื่อยๆ
“ทำไมแกพูดแบบนี้กับน้องฮะ! น้องเป็นคู่หมั้นแกนะ” ไบรตั้น
กระแทกแก้วเหล้าลงกับโต๊ะจนมันแตกก่อนจะหันไปพูดเสียงลอดไรฟันกับแม่
“ก็แค่คู่หมั้นจะอะไรนักหนา แม่อย่ากดดันผมนะ!” ชายหนุ่มผลุนผลันลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องเก็บเหล้า มณีนุชมองตามหลังลูกชายอย่างหมดหนทางที่จะสอน “มันไปเอานิสัยแบบนี้มาจากไหนนะไอ้ลูกคนนี้” เธอส่ายหน้าไปมาอย่างระอาก่อนจะเดินไปบอกแม่บ้านมาเก็บกวาดเศษแก้วที่มันแตก
“ไปเอารถมาให้กู กูจะออกไปดื่มต่อที่ผับไอ้ชิน” ชายหนุ่มเดินมาสั่งลูกน้องให้เอารถมาให้ ดื่มอยู่บ้านมันไม่อร่อย บรรยากาศมันไม่ได้
“นายจะให้ผมไปด้วยไหมครับ” ลูกน้องคนสนิทเอ่ยขึ้น
“อยากตามไปก็ไป แต่วันนี้กูจะนอนคอนโดนะกูไม่เข้าบ้าน” ขายาวๆ ก้าวขึ้นไปนั่งเบาะหลังคนขับ สายตาดุดันของไบรตั้นทำเอาลูกน้องไม่กล้าแม้จะสบตา
“แม่งเอ่ย!! จะอะไรนักหนาวะ” ชายหนุ่มพูดเสียงลอดไรฟันพร้อมกับกำหมัดแน่น กะแค่คู่หมั้นทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องยุ่งยาก
@ผับโซนวีไอพี
“ไปตายอยากเหล้ามาจากไหนวะไอ้เพื่อน” ชินเดินถือจานกับแกล้มมาให้เพื่อนชายที่เอาแต่นั่งกระดกเหล้าเข้าปากอย่างเดียว ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเลย
“มึงบอกเด็กเอาเหล้ามาให้กูอีกสิ” ชายหนุ่มเพียงปรายตามองหน้าเพื่อนชายที่เดินเข้ามาก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดกน้ำสีอำพันเข้าปาก
“เออๆ น้องๆ มานี่หน่อย เอาเหล้ามาให้เพื่อนพี่อีก” ไบรตั้นยังคงนั่งนิ่งไม่สนใจเพื่อน
“ตกลงยังไงวะ เรื่องข้อตกลงระหว่างมึงกับคู่หมั้นเด็กของมึง” มือหนากำลังจะเอื้อมไปจับแก้วเหล้าต้องชะงักไปไบรตั้นเงยหน้าขึ้นมามองหน้าชินอย่างดุดัน
“มึงเลิกพูดถึงยัยบ้านั่นได้ไหมวะ นี่แม่กูก็จะให้กูไปรับไปส่งมันไปเรียนอีก กูแม่งโคตรเบื่อเลยว่ะ” ไบรตั้นเอนหลังพิงโซฟาตัวใหญ่ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ พลางมองแก้วเหล้าด้วยสายตานิ่งๆ
“มึงก็ยอมๆ ไปสิวะ อีกหน่อยมึงก็เป็นอิสระแล้ว” ชินพูดให้ความหวังเพื่อนรัก
“มึงไม่เป็นกูมึงไม่รู้หรอกว่ะ สวยก็ไม่สวยแถมยังซื่อบื้ออีกปัญญาอ่อนเปล่าก็ไม่รู้” ไบรตั้นยังคงพึมพำเรื่องคู่หมั้นคนสวยของตัวเองทั้งที่เขาไม่รู้ตัวเลยว่าทุกอย่างที่พูดออกไปมันเป็นสิ่งที่เขาเก็บราย- ละเอียดมาแค่ได้พบหน้าหญิงสาวแค่ครั้งแรก
“มึงก็ใจร้ายเกินนะ กูว่าน้องเขาก็ไม่ได้อยากแต่งกับมึงนักหรอกไม่แน่นะอยู่ๆ กันไปมึงอาจจะหลงรักน้องเขาจนโงหัวไม่ขึ้นนะกูบอกไว้ก่อน” ชินยกยิ้มร้ายๆ ให้ไบรตั้นแต่กลับได้คำด่าหยาบๆ กลับมา
“กูไม่มีวันรักยัยเด็กนั่นแน่นอน มึงคอยดูเถอะ”
“ครับๆ เพื่อนไบรกูจะคอยดูก็แล้วกัน อย่าพลาดนะมึง!!!” ชินชี้หน้าเพื่อนรักอย่างคาดโทษก่อนที่เขาทั้งสองจะนั่งดื่มด้วยกันจนดึกดื่น
“กูว่ามึงควรพอได้แล้วนะไอ้ไบร เดี๋ยวแม่มึงก็ได้สั่งคนมาปิดผับกูหรอก” ชินปรามเพื่อนที่ยังนั่งดื่มอยู่ ถ้าปล่อยไว้แบบนี้มีหวังผับเขาต้องปิดตัวลงในไม่ช้าแน่ๆ
“เออรู้แล้วน่า...มึงช่วยไปสืบประวัติเด็กนั้นให้กูหน่อยสิวะชิน” ไบรตั้นส่งรูปในโทรศัพท์เครื่องหรูเข้าในไลน์ของชิน พอชินเปิดดูรูปก็ต้องอุทานออกมาเสียงดัง
“เชี่ย!! ไหนมึงบอกไม่สวยไงวะ นี่มันนางฟ้าชัดๆ เลยนะเว้ยไอ้ไบร” ไบรตั้นแสยะยิ้มมองหน้าเพื่อนแล้วแค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ
“นี่มึงรสนิยมจืดมากเลยนะชิน ไม่เห็นสวยตรงไหนเลยนิ”
ไบรตั้นกลอกตาไปมาให้กับท่าทีตกใจของเพื่อนก่อนจะผลุนผลันเดินออกมาจากร้านโดยที่ไม่ลาเพื่อนสักคำ
“กลับคอนโด” เสียงเข้มสั่งลูกน้องออกไป รถหรูของไบรตั้นขับออกจากลานจอดรถของผับอย่างเร็วแป๊บเดียวก็ถึงคอนโดหรูที่เขาเอาไว้พักผ่อนส่วนตัว
“นายครับน้องดาด้าโทรมาหานายหลายรอบแล้วครับ” ลูกน้องคนสนิทยื่นโทรศัพท์ให้ผู้เป็นเจ้านาย มือหนารับโทรศัพท์มาถือไว้ก่อนจะยกมันขึ้นแนบหู
“ว่าไงครับคนสวย”
‘พี่ไบรตั้นทำไมไม่มาหาน้องดาด้าเลยล่ะคะ คิดถึงมากๆ เลย’ เสียงปลายสายทำเสียงอ่อนเสียงแหลมคุยกับชายหนุ่ม
“ช่วงนี้พี่ไม่ว่างน่ะไว้ค่อยนัดเจอกันอีกทีนะครับคนสวย”
‘ก็ได้ค่ะ ไว้เจอกันนะคะที่รัก จุ๊บค่ะ’ นิ้วยาวกดตัดสายไปก่อนจะยื่นโทรศัพท์คืนให้ลูกน้อง
“พรุ่งนี้นายจะเอารถคันไหนไปรับคุณพิมพ์ครับ” คำถามของลูกน้องทำเอาไบรตั้นถึงกับคิ้วขมวดเข้าหากัน
“ใครบอกมึงว่ากูจะไปรับยัยเด็กนั่น!!” ไบรตั้นตวาดลูกน้องเสียงดังจนพวกลูกน้องพากันรีบก้มหน้าก้มตาไม่กล้าแม้จะสบตาผู้เป็นนาย
“เอ่อ...นายหญิงบอกมาว่ายังไงก็ให้นายไปรับคุณพิมพ์ให้ได้ครับ” ลูกน้องคนหนึ่งเสี่ยงตายเอ่ยขึ้น
เพล้ง!!
เสียงข้าวของบนโต๊ะในห้องนั่งเล่นร่วงหล่นลงพื้นกระจัดกระจายจนพวกลูกน้องสะดุ้งโหยง
“ทำไมต้องตามติดกูเหมือนวิญญาณแบบนี้วะแม่ง!!” ชายหนุ่มหัวฟัดหัวเหวี่ยงเดินตึงตังเข้าห้องไป เมื่อเสียงปิดประตูดังขึ้นพวกลูกน้องที่ก้มหน้าก้มตาอยู่ถึงกับลอบถอนหายใจพรืดใหญ่
“เกือบโดนแดกหัวแล้วไหมล่ะมึงไอ้พี” ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ดีนะวันนี้ลงกับข้าวของไม่มาลงกับพวกเขา
“แล้วจะเอายังไงดีครับพี่ ถ้านายหญิงรู้ว่านายไม่ไปรับคุณพิมพ์พวกเราต้องตกงานแน่ๆ”
“กูเชื่อเจ้านายต้องไปแน่ๆ เชื่อกูพี”
“พี่ภูมั่นใจขนาดนั้นเหรอครับ?”
“เออน่ามึงคอยดูเถอะ” สองลูกน้องสนทนากันไปมาอยู่สักพักก็ต้องแตกกันออกคนละทางเมื่อเจ้านายของพวกเขาแหกปากตะโกนลั่นอยู่ในห้อง
แม่งโว้ย!!!!!
เสียงเกรี้ยวกราดของไบรตั้นดังสนั่นห้องก่อนจะเงียบไป พวกลูกน้องต่างมองหน้ากันไปมาและไม่มีใครกล้าเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้องนอนของชายหนุ่ม
“พี่ภูพี่จะไม่เข้าไปดูนายหน่อยเหรอพี่” พีน้องชายของภูเอ่ยถามพี่ชายด้วยท่าทางตื่นกลัว
“เข้าไปตอนนี้เหมือนมึงส่งกูไปตายเลยนะไอ้พี” สองพี่น้องมองหน้ากันก่อนจะหันไปมองบานประตูห้องนอนของเจ้านายพวกเขาพร้อมๆ กัน
