บทที่ 2 Chapter2

พอเกิดเรื่องมารุตกับรัตนาบังคับให้ตนแต่งงานแทนพิมาลา ไม่เพียงแค่บังคับ ยังปั้นเรื่องให้ดูน่ากลัวว่า คุณานนท์ต้องส่งคนมาฆ่าที่ทำให้เสียหน้า แถมเงินที่พิมาลาเชิดไปก็ไม่ใช่น้อยๆ คุณานนท์กับครอบครัวไม่ปล่อยไว้แน่ มารุตยังพูดต่อไปว่า หากตนไม่แต่งงานแทน ก็เตรียมตัวจัดงานศพให้ตนกับรัตนาได้เลย ลัลณ์ลนินจึงยอมทำตามที่บิดามารดาต้องการ

ลัลณ์ลนินนึกภาพไม่ออกว่า ตนเองจะเป็นเช่นไรหากอยู่บ้านเดียวกันกับคนที่ชิงชังตน คงเป็นความอึดอัดที่ยากเกินบรรยาย ไหนจะสายตาเกลียดชัง คำพูดที่อาจสร้างความปวดร้าวใจ และอื่นๆ อีกหลายอย่าง ลัลณ์ลนินไม่รู้ว่า ตนเองจะรับมือได้นานแค่ไหน หรือมากน้อยเพียงใด แค่วันนี้กว่าเธอจะผ่านมาได้ก็ต้องใช้พละกำลังทางจิตใจมากมาย ในทุกๆ วันต่อจากนี้ เธอคงใช้พลังมากขึ้นหลายเท่า

ความที่ลัลณ์ลนินไม่ได้เตรียมตัวค้างคืนที่นี่ เธอมีเพียงชุดที่สวมใส่ตอนขามาโรงแรมชุดเดียว และตอนนี้เธอก็ทำน้ำส้มหกใส่ มันเหนียวและเป็นคราบเธอจึงไม่ได้สวมใส่ชุดนั้น และไว้วานให้ดวงเดือนชุดใหม่มาให้ในวันพรุ่งนี้ เมื่ออาบน้ำเสร็จลัลณ์ลนินจึงใช้ผ้าขนหนูพันกายเพียงผืนเดียว เพราะคิดว่าไม่มีใครเข้ามาในห้องนี้ ห้องนี้จึงเป็นของเธอคนเดียว

แต่เธอคิดผิด...

จวนตีหนึ่งอีกไม่กี่นาที บานประตูห้องพักหมายเลข 2702 เปิดออกด้วยคีย์การ์ดที่อยู่ในมือคุณานนท์ เมื่อก้าวเข้ามาในห้องที่มีแสงสีส้มจากโคมไฟหัวเตียง เขามองไปยังร่างสตรีที่นอนหันหลังให้ตนด้วยแววตามุ่งร้าย เท้าใหญ่นำพาร่างสูงหนาที่เดินไม่ตรงทาง เซไปเซมาจากพิษสุราที่ดื่มไปอย่างหนัก

คุณานนท์เมา...

ใช่ เขาต้องการให้แอลกอฮอล์ดับความทุกข์ ความผิดหวัง ความเสียใจ และอาการเจ็บใจ แค้นฝังรากลึกให้หลุดออกไปใจบ้าง วันนี้เขากับครอบครัวเสียหน้าหนักมาก ต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้านที่ต้องนำเรื่องนี้ไปพูดคุยกันสนุกปาก คงไม่มีใครคิดว่า คนอย่างคุณานนท์จะถูกทิ้งกลางอากาศ ถูกทิ้งในวันสำคัญของชีวิตด้วย

“หึ” เขานึกสมเพชตัวเอง ไม่คิดว่าคนอย่างคุณานนท์ สิทธิเดโชจะถูกผู้หญิงทิ้งในวันสำคัญ

ไม่แค้นก็แปลก แล้วความแค้นทั้งหมดก็กำลังไปลงที่เจ้าสาวที่ไม่ปรารถนา

“หลับสบายเลยนะ” เขาพูดเสียงต่ำ มองดวงหน้าหวานที่นอนหลับพริ้มบนเตียง “ตื่น!”

คุณานนท์ตะโกนเสียงดัง เขาไม่เพียงแค่ส่งเสียงเรียกเธอ มือใหญ่คว้าผ้าห่มแล้วเหวี่ยงมันไปกองบนพื้น และนั่นทำให้เขาเห็นเรือนร่างสาวมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันกาย

เสียงอันแผดดัง ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่กระทบผิวกาย ส่งผลให้ลัลณ์ลนินตื่น เธอเอี้ยวตัวมาทางด้านหลังแล้วต้องสะดุ้งตัวลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นร่างสามียืนไม่มั่นคงนักริมเตียง

“พี่กล้า”

“แหม แต่งตัวรอให้ฉันมาเอาเธอเลยเหรอ รู้หน้าที่ดีนี่” น้ำเสียงติดอ้อแอ้ ทำให้เธอรู้ว่า เขากำลังเมา

“ไม่ใช่ค่ะ ไม่ชะ...ว้าย!” ลัลณ์ลนินยังไม่ทันพูดจบประโยค เขาก็โถมร่างดันร่างเล็กให้นอนลงบนที่นอน โดยมีร่างเขาทาบทับ “พี่กล้าลุกคะ ลุก”

“ไม่ลุก” คุณานนท์ตอบเสียงดังฟังชัด “เธอลืมแล้วเหรอว่าเราแต่งงานกันแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่ที่เราจะมีอะไรกัน จริงไหม”

ใช่...เขาพูดถูก

ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าการแต่งงานมาจากความรักและความเต็มใจของทั้งสองฝ่าย แต่นี่ไม่ใช่ งานวิวาห์ที่ทั้งเขาและเธอไม่ปรารถนาให้เกิดขึ้น เรื่องแบบนี้ก็ไม่น่าเกิดขึ้นเช่นกัน ยิ่งตอนนี้ด้วยแล้ว กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ฟุ้งตามร่างหนา เป็นอีกสัญญาณหนึ่งให้รู้ถึงความไม่ปลอดภัย

“ไม่ค่ะ ไม่” ลัลณ์ลนินพูดด้วยความกลัว เธอกำลังกลัวคุณานนท์ ลางสังหรณ์บอกเธอว่า ตนเองกำลังไม่ปลอดภัย เธอดิ้นรนไปมา ดิ้นทั้งที่รู้ว่า หนีไม่พ้น

“ไม่อะไร เธอจะปฏิเสธฉันงั้นเหรอ” เขาถาม ก่อนยกยิ้มขึ้นมุมปาก “ถ้าเธอไม่ยอมฉันดีๆ ฉันจะล่าพี่สาวเธอ แล้วจัดการพี่สาวเธอให้สาสม รวมทั้งจัดการพ่อแม่ของเธอด้วย จัดการในแบบฉบับของฉัน”

“พี่กล้าจะทำอะไรพ่อกับแม่ลัลณ์เลยนะคะ พ่อกับแม่ไม่เกี่ยว”

ลัลณ์ลนินตกใจ เธอรู้ว่าเรื่องนี้บิดามารดามีส่วนผิด โดยเฉพาะมารดาที่นำเงินค่าสินสอดไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหลายอย่าง โดยที่เธอห้ามปรามไม่ได้

“เธอรู้เต็มอกว่าเกี่ยว ยังจะมาปากดีอีก” เขาเคล้นเสียงต่ำ มองภรรยาไม่ปรารถนาของตนด้วยประกายตาเกลียดชัง “เธอต้องรับโทษแทนพ่อแม่และพี่สาวของเธอ ถ้าเธอไม่ยอม คนในครอบครัวเธอศพไม่สวยแน่ เธอก็รู้ว่า ฉันพูดจริงทำจริง”

แววตาเขาน่ากลัว น้ำเสียงเขาน่ากลัวกว่า มันบอกให้เธอรู้ว่า คุณานนท์พูดจริงทำจริง ยิ่งเรื่องที่พิมาลาทำไว้กับเขาด้วยแล้ว เป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัย ใครโดนกระทำย่อมโกรธและแค้นเป็นธรรมดา คุณานนท์รักพิมาลามาก รักมากก็ต้องแค้นมาก

“เลือกเอา จะให้พ่อแม่และพี่เธอไม่ตายดีหรือว่าจะยอมฉัน”

เขาถามเชิงขู่ รับรู้ถึงชัยชนะ ต่างกับลัลณ์ลนินที่มองเห็นความพ่ายแพ้มาแต่ไกล

“ถ้าลัลณ์ยอม พี่กล้าอย่าทำอะไรพ่อกับแม่และพี่พิมนะคะ” เธอต่อรอง

“มันขึ้นอยู่กับเธอ ว่าจะทำให้ฉันพอใจมากแค่ไหน ขึ้นอยู่กับเธอคนเดียว”

จบคำพูด ปากได้รูปของเขาก็กระแทกลงมาปิดทับกลีบปากรูปกระจับเต็มแรง แรงราวกับคุณานนท์ไม่กลัวว่าปากเธอจะช้ำหรือแตก เขาทำตามแรงโทสะที่โหมอยู่ในใจ บวกกับความเมาจากปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป รวมกันแล้วมันเกินจะฉุดรั้งให้เขาทะนุถนอมร่างอรชรใต้ร่าง ความโกรธกระตุ้นให้เขากระทำต่อเธออย่างป่าเถื่อน โหดเหี้ยม โดยที่ลัลณ์ลนินไม่มีความผิดในเรื่องนี้เลย

ปากเธอช้ำไปหมดแล้ว...ได้กลิ่นเลือดด้วย

นั่นคือความคิดของลัลณ์ลนิน ซึ่งมันก็จริง เขาไม่เพียงบดจูบกลีบปากเธอด้วยความรุนแรง ไร้ปรานี ไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บปวดมากแค่ไหน คุณานนท์ใช้ไรฟันกัดกลีบปากล่างเธอจนเลือดซิป ลัลณ์ลนินไม่มีโอกาสได้ร้องขอความเห็นใจ เพราะปากหนาที่ไม่หยุดจูบ ไม่หยุดกระแทกกระทั้นและไม่ผ่อนปรนความรุนแรงยังคงปิดปากตนไว้

บทก่อนหน้า
บทถัดไป