บทที่ 11 ตอนที่9

“ออกไปให้หมด!!!”เสียงเอะอะโวยของผู้ชายและเสียงเขวี้ยงปาข้าวของดังมาจากทางด้านหลังสุดของบ้าน

“ไดร์ฟน่ะ…เขาคงจะอาละวาดอีกแล้ว…”ชายคนนั้นตอบฉันมาทันทีที่เขาคงสังเกตเห็นอาการตกใจของฉัน ฉันก็ละสายตาจากต้นตอของเสียงกลับมามองหน้าชายคนนี้

“ฉันชื่อมิตรนะ…เป็นผู้จัดการของไดร์ฟ…”เขาเอ่ยแนะนำตัวให้ฉันรู้จัก

“ค่ะ….ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ…หนูชื่อไอริสค่ะ…เรียกว่าไอเฉยๆก็ได้ค่ะ..”

“โอเค…หนูไอ…^_^”

“นายครับ….คุณไดร์ฟอาละวาดใหญ่แล้วครับ…!”เสียงของการ์ดชุดดำที่รูปร่างไม่ใหญ่โตมากนักเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรนเขาวิ่งมาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

“เดี๋ยวหนูไปดูเองค่ะ….”ฉันบอกคุณมิตรไป เขาก็พยักหน้าให้ฉันเป็นคำตอบ หน้าตาของเขาดูเคร่งเครียดและเป็นกังวลมากเขาคงจะเป็นห่วงไดร์ฟมากจริงๆ ฉันก็ก้มศีรษะให้เขาก่อนจะเดินตามชายชุดดำไป

“ทางนี้ครับ….”ฉันเดินตามแผ่นหลังของชายชุดดำไปเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องบานหนึ่งที่มีสีดำสนิท ฉันก็เปิดประตูหมายจะเข้าไป

“ระวังนะครับ…”เสียงร้องเตือนจากการ์ดชุดดำเอ่ยบอกฉันด้วยท่าทางเป็นห่วงสีหน้าของเขาดูตกใจ

“ไม่เป็นไรค่ะ…”ฉันยิ้มบางๆให้เขาและเปิดประตูหมุดลูกบิดเข้าไปภายในห้อง ก็ต้องพบกับห้องที่ถูกจัดโทนเป็นโทนสีดำสไตล์เรียบหรูแต่ดูมีระดับทำให้ฉันรู้ได้ทันทีถึงฮวงจุ้ยของห้องนี้ เป็นไปได้ฉันอยากให้เปลี่ยนสีห้องมากเลยนะ เพราะมันดูเหงา ดูเศร้า ยังไงชอบกล

“ออกไป!!”

“กูบอกให้ออกไปยังไงล่ะวะ!!”เสียงเอะอะพร้อมกับขวดแจกันที่เป็นพลาสติกลอยผ่านหน้าฉันไปแต่โชคดีที่ฉันหลบได้ทัน ไม่งั้นมีหวังฉันเสียโฉมแน่

ฉันก็มองหน้าต้นตอของเสียงที่ห้องมืดทึบไม่มีแสงไฟและแสงแดดให้ความสว่าง และสายตาของฉันก็ไปสบเข้ากับชายรูปร่างสมส่วนที่ท่อนบนเปลือยเปล่าเขามีรอยสักอยู่ที่ต้นคอและต้นแขนซ้ายยาวไปถึงข้อแขนที่กำลังนั่งกอดเข่าเนื้อตัวสั่นเทาอยู่มุมสุดของห้อง ฉันไม่รอช้ารีบเดินไปหาเขาทันที

พรึบ

“ไม่เป็นไรนะ…ฉันอยู่ตรงนี้…อยู่กับนายตรงนี้นะ…”ฉันนั่งลงและสวมกอดร่างของไดร์ฟและเอ่ยบอกเขาไปด้วยเสียงนุ่มนวล

“ไม่เป็นไรนะไดร์ฟ…ทำใจเย็นๆหายใจเข้า….”

“หายใจออกอย่างช้าๆนะ….”ฉันเอ่ยต่อไปอีกด้วยถ้อยคำที่นุ่มนวลเพื่อปลอบโยนเขาที่ฉันคิดว่าเขาคงจะกำลังต่อสู้อยู่กับใจของตัวเอง

คนที่เป็นโรคซึมเศร้าเหมือนไร้ความเป็นตัวเอง มันจะมาพรากความสุขไปจากเรา ไม่ใช่ว่าคนทุกคนจะไม่เป็น เพราะทุกคนมีสิทธิ์เป็นได้ทุกคน อย่านิ่งนอนใจทำจิตใจของเราให้เป็นหนึ่ง ยิ้มและหัวเราะให้กับปัญหาที่เผชิญเพราะทุกปัญหามีทางออกเสมอ….

พรึบ

“ไม่เป็นไรนะไดร์ฟ…..”ฉันกอดปลอบไดร์ฟพลางก้มหน้าลงไปสูดดมกลุ่มผมของเขาอย่างนุ่มนวลมือก็คอยลูบแผ่นหลังเขาไปด้วยเพื่อทำให้เขารู้สึกสบายใจและคลายความเครียดในใจลงได้บ้าง

พรึบ

“เธอ….คนเมื่อคืน…?”เสียงแหบเเห้งจากคนร่างสูงที่อยู่ในอ้อมกอดของฉันเอ่ยขึ้น ฉันก็ค่อยๆผละกอดออกมาจากเขา

“ใช่…นายจำฉันได้ด้วยเหรอ?”ฉันเอ่ยถามเขาไปอย่างสงสัย ที่เขายังไม่เห็นหน้าฉันแต่เขากลับจำฉันได้ สงสัยเสียงของฉันจะเป็นเอกลักษณ์ล่ะมั้ง

“อืม…เธอมาได้ยังไง…?”เขาเอ่ยถามฉันมาอย่างสงสัย ฉันก็ค่อยๆถอยห่างออกมาจากเขาเพื่อจะเดินไปเปิดม่านที่หน้าต่าง

แควกกกกกก

“เธอเปิดม่านทำไม?”เขาเอ่ยถามฉันมาอย่างสงสัยและเอามือไปปิดตาของเขาอย่างไว เขาคงจะรู้สึกแสบตาน่ะ เวลาไม่ได้เจอแสงนานๆทำให้ดวงตาไม่ชินกับการรับแสงจ้าของพระอาทิตย์

“ให้อากาศถ่ายเทมันจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดน่ะ…”ฉันบอกเขาพลางยิ้มให้เขาและเดินกลับไปนั่งลงข้างๆเขาและมองไปที่ข้อมือของเขาที่มีเชือกด้ายดิบสีขาวมัดข้อมือของเขาอยู่รวมไปถึงข้อเท้าของเขาอีกด้วย สงสัยเพื่อกันเขาหนีสินะและอีกอย่างเพื่อกันไว้ไม่ให้เขาฆ่าตัวตายได้สำเร็จด้วย

“เจ็บไหม?”ฉันเอ่ยถามเขาไปอย่างเสียงแผ่วเบาและนุ่มนวลพลางยื่นมือไปลูบไล้ที่ข้อมือของเขาที่เป็นรอยแดงจากการเสียดสีของเชือกด้วยแววตาสั่นไหว ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองเขาด้วยน้ำตาเอ่อคลอ ฉันก็รับรู้ได้ว่าเขาเองก็กำลังมีน้ำสีใสคลออยู่ที่ดวงตาคู่สวยเช่นกัน

“ไม่เป็นไรนะ…ฉันจะแก้ให้นาย…”

“นายจะได้ไม่เจ็บนะ…”ฉันเอ่ยบอกเขาไปและยิ้มบางๆให้เขาก่อนจะค่อยๆแก้เชือกคลายปมให้เขาอย่างแผ่วเบา

“เธอ….มาทำดีกับฉันทำไม?”เขาเอ่ยถามฉัน ฉันก็ละสายตาจากเชือกที่ข้อมือเขาไปมองหน้าเขาที่เขาเองก็จ้องหน้าฉันอยู่ก่อนแล้ว

“ก็เพราะฉันรักนายยังไงล่ะ…”ฉันตอบเขาไปเป็นในจังหวะเดียวกับที่ฉันแก้ปมเชือกของเขาหลุดจากข้อมือของเขาได้พอดี

“มองตาฉันสิ….นายไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้นะ…”

“แต่นายยังมีฉัน…ฉันอยู่ข้างๆนายตรงนี้ไง…”ฉันเอ่ยบอกเขาไปพลางจ้องดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขาไปด้วยเขาก็จ้องหน้าฉันด้วยแววตาสั่นไหวก่อนที่เขาจะค่อยๆโน้มใบหน้าหล่อของเขาเข้ามาหาริมฝีปากของฉัน และในทันใดนั้น ริมฝีปากของเราทั้งคู่ก็แตะกันอย่างแผ่วเบา

“ไดร์ฟ…”ฉันเอ่ยเรียกชื่อเขาไปพลางทำท่าจะผลักร่างของไดร์ฟให้ถอยห่างออกไปจากฉัน แต่ไดร์ฟกลับไม่ยอม เขาดูดดึงริมฝีปากของฉันแรงขึ้นและเร้าร้อนขึ้นจนฉันตกใจทำอะไรไม่ถูกเพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยโดนใครจูบและไม่เคยจูบกับใครด้วย!!!

พรึบ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป