บทที่ 13 ตอนที่11
เวลาต่อมา…
19:30น.
เซฟเฮาส์ของไดร์ฟ
ห้องนอนไดร์ฟ….
พรึบ
“ชื่อเล่นไดร์ฟ…ชื่อจริงนายดรัณภพเดชชัชพงษ์อายุ27ปี……ชื่อในวงการท่านไดร์ฟแห่งเดอะปรินซ์ชื่นชอบการร้องเพลงมาก…และการCover Dance..และเบรกแดนซ์มากฝีมือ…”
“เมื่อปี2015…เขาได้แต่งเพลงลงโซเชียลยอดวิวขึ้นทะลุหลักร้อยล้านในชั่วข้ามคืนและปี2018เขาได้สมัครเข้าแข่งขันรายการเฟ้นหานักร้องนักเต้นหน้าใหม่ของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่TEจนสามารถคว้ารางวัลชัยชนะไปครอบครองได้”
“และในปี2019เขาได้เดบิวต์เป็นหนึ่งในสมาชิกวง THE PRINCEจากค่ายเพลงTEและเขาได้เป็นหัวหน้าวง…”
“โอ้โห….เก่งนะเนี่ย…”ฉันเอ่ยชมผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆฉันโดยที่เขาเอาศีรษะของเขาเอนซบลงมาบนไหล่ของฉันโดยมีฉันนั่งอ่านประวัติของเขาจากในแมคบุ๊คของฉันที่ทางการ์ดส่งคืนมาให้ฉันแล้ว และฉันก็จะอยู่ค้างที่นี้เพื่อดูแลไดร์ฟอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
“เหรอ?”เขาเอ่ยออกมาเสียงราบเรียบอย่างไม่ได้สื่อออกว่าดีใจที่มีคนกำลังชื่นชมเขาอยู่
“แล้วเธอล่ะ….เริ่มเขียนนิยายตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“อยากรู้เรื่องของฉันเหรอ?”ฉันเอ่ยถามไดร์ฟไปพลางขมวดคิ้วอย่างสงสัย ที่อยู่ๆเขาก็ถามเรื่องของฉัน
“เธอเป็นคนแรกที่ฉันอยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ….อาจจะเป็นเพราะฉันคิดถึงแม่ด้วยล่ะมั้ง”ไดร์ฟเอ่ยออกมา ฉันควรจะดีใจใช่ไหมที่เขาพูดแบบนี้ ที่เขาบอกว่าฉันเหมือนแม่เขา….ใช่สิฉันควรจะดีใจนะ
“แม่นาย…ท่านไม่อยู่แล้วเหรอ?”
“ฉันขอโทษนะ…ที่ถาม…นายไม่ต้องตอบฉันก็ได้…”ฉันเอ่ยบอกไดร์ฟไปหลังจากที่เห็นว่าเขาเงียบไปและฉันก็คิดได้ว่า ฉันไม่ควรจี้จุดเขาเพราะบางทีการที่ทำให้เขาอารมณ์ดิ่งจนคิดสั้นได้อาจเป็นเพราะการกระทบกระเทือนจิตใจเขาเรื่องแม่ของเขาก็ได้นะ
“อืม…ไม่เป็นไรหรอก…แม่ฉันเสียตั้งแต่ฉันอายุยี่สิบแล้วล่ะ…”
“เจ็ดปีกว่าแล้วเหรอ?”
“อืม….แต่ทำไมอาการนายเพิ่งมาดิ่งเมื่อปีนี้?”ฉันว่าอย่างสงสัย
“เธอจะบอกว่าฉันเป็นโรคซึมเศร้าใช่ไหม?”ไดร์ฟถามฉันกลับมาเสียงแผ่วเบาอย่างคนที่พอจะรู้ตัวแล้ว ว่าเขากำลังป่วยอยู่จริงๆ
“ใช่….นายอยากหายหรือเปล่าล่ะ?”ฉันเอ่ยถามเขาไป เป็นในจังหวะเดียวกันกับที่เราสองคนหันมาจ้องหน้ากันพอดี
“อยากหาย…เธอจะช่วยฉันได้ป่ะล่ะ….”
“ได้สิ^_^”ฉันว่าพร้อมกับยิ้มกว้างอย่างคนที่เต็มใจ
“งั้น….เธอก็กอดฉัน….แบบที่เธอกอดฉันตลอดได้ไหม?”
“นายรู้ไหม…ถ้าแฟนคลับนายรู้ว่าฉันได้กอดกับท่านไดร์ฟราชาแห่งเดอะปรินซ์มีหวังพวกเธอเอาฉันตายแน่!”ฉันพูดไปพลางขนลุกไป เพราะไม่อยากจะจินตนาการการเลยถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงหูเหล่าแฟนคลับของไดร์ฟฉันจะมีสภาพเป็นยังไง
“ก็ช่างดิ….ฉันไม่แคร์”ไดร์ฟว่าอย่างไม่ใส่ใจ
“แต่ฉันแคร์”ฉันสวนเขากลับไปทันทีจะไม่ให้ฉันแคร์ได้ไง เพราะฉันมีโอกาสไปเยี่ยมชมยมทูตได้เลยน่ะนั้น
“ฉันก็แคร์…”ไดร์ฟพูดสวนขึ้นมาอีก
“อะไรของนาย…”ฉันถามไดร์ฟไปอย่างงงๆที่เขาเปลี่ยนคำได้ง่ายซะเหลือเกิน
“ฉันแคร์แค่เธอ^_^”
“มุขจีบหญิง….?”ฉันเอ่ยถามไดร์ฟไป เขาก็ยิ้มบางๆให้ฉัน มันทำให้หัวใจของฉันเต้นรัวเร็วขึ้นมาเพราะฉันไม่เคยเห็นเขายิ้มแต่พอเขายิ้มแบบนี้มันช่างสดใสจัง ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมแฟนคลับของไดร์ฟได้เยอะอย่างถล่มทลายแบบนี้ ก็เพราะเขายิ้มทีหัวใจแทบจะละลายยังไงล่ะ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น…?”ไดร์ฟเอ่ยถามฉันอย่างสงสัยพลางขยับใบหน้าหล่อของเขาเข้ามาหาใบหน้าของฉันจนปลายจมูกของเราแตะกันอย่างแผ่วเบา
“ไดร์ฟ….นายจะใช้ข้ออ้างว่านายป่วยซึมเศร้าแล้วจะมาจูบฉันบ่อยๆแบบนี้ไม่ได้นะ…”ฉันว่าอย่างเหนื่อยใจ ที่ไดร์ฟกำลังใช้ริมฝีปากของเขาคลอเคลียอยู่ที่ริมฝีปากของฉัน เขาจ้องแต่จะจูบปากฉันอีกแล้ว
“ทำไมอ่ะ…ก็ฉันอยากจูบเธอ….”ไดร์ฟเอ่ยออกมาพลางทำสีหน้าอย่างเอาแต่ใจ ฉันก็กระพริบตาปริบๆเมื่อมองไปที่ริมฝีปากสีชมพูอวบอิ่มของไดร์ฟที่มันเผยอขึ้นเล็กน้อย
“ฉัน…เคยอ่านนิยายของเธอด้วยนะ…”
“มันมีฉากสยิวด้วย….เธอเคยทำกับแฟนเหรอ?ถึงได้เขียนจนเห็นภาพนึกว่าไปแอบอยู่ใต้เตียงขนาดนั้น..”
“ไดร์ฟ…คนป่วยซึมเศร้าเขาไม่มีอารมณ์อย่างว่ากันหรอกนะ”ฉันเอ่ยเสียงเข้มเถียงเขาไป เขาก็พยักหน้าเหมือนจะเข้าใจนะแต่ก็ไม่ยอมผละใบหน้าให้ถอยห่างออกไปจากฉันอยู่ดี
“ว่าแต่…นายเคยอ่านนิยายของฉันเมื่อไหร่กัน?”
“ก็ตอนเธอหลับ….ฉันแอบเห็นหนังสือนิยายในกระเป๋าเธอ…ที่การ์ดเอามาให้…ฉันก็เลยเปิดอ่านดู…”
“เขียนใช้ได้เลยนะ…สนุกเลยล่ะ…”
“สนุกจนฉันรู้สึกว่า….อยากลอง….”
“นิยายเล่มนั้น….ที่เขาบอกว่าใช้เซ็กส์บำบัดซึมเศร้า..”
“ไดร์ฟ….นี่นายอ่านมันจนจบเลยเหรอ?”ฉันเอ่ยถามไดร์ฟไปด้วยท่าทางเอียงอายที่ไดร์ฟอ่านนิยายสิบแปดบวกเล่มนั้นของฉันจนจบ มันเป็นเรื่องราวที่นางเอกที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าพระเอกเป็นมาเฟีย สองคนใช้เซ็กส์บำบัดซึมเศร้าน่ะ ฉันเขียนเป็นในแนวทางสื่อเรื่องอย่างว่ามากกว่าเนื้อหาของเรื่องแต่มันกลับโด่งดังเปรี้ยงปร้างได้ตีพิมพ์ถึงสองครั้งแหนะ
“เธอ….ลองใช้มันกับฉันได้ไหม….”ไดร์ฟว่าเสียงอ่อนแววตาของเขาหวานหยดย้อยจนใครมองต้องคล้อยตามแน่
“ไดร์ฟบ้า!!”ฉันร้องเสียงหลงก่นด่าเขาไปอย่างเอียงอาย มีผู้หญิงมากมายที่พร้อมจะพลีกายให้เขา แต่เขาจะมาร้องขอฉันโต้งๆแบบนี้เลยเหรอเนี่ย ฉันเป็นผู้หญิงมีพ่อมีแม่จะมาขอแบบนี้ได้ยังไงกัน ไอ้หื่นไดร์ฟ!!
“ฉันมีแฟนแล้ว!”ฉันว่าเสียงเข้มหน้าตาเข้มขรึมใส่ไดร์ฟไป เขาก็ยักคิ้วให้ฉันข้างหนึ่งก่อนจะไหวไหล่เล็กน้อย
“ก็ว่าอยู่แล้วเชียว….การแต่งซีนรักของเธอ…ดุเดือดเลือดพล่านขนาดนั้น…”
