บทที่ 1 รสสวาทอาเขย 1

ธามไท ภูเบศวร์ มองนาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นล่าสุดที่คาดอยู่บนข้อมือตัวเองด้วยความฉุนเฉียว เขายืนรอยัยเด็กบ้าจนขาแข็งก็ยังไม่เห็นหัว ไม่รู้ไปมัววิ่งเล่นอยู่ที่ไหนป่านนี้ยังไม่โผล่ออกมา บ้าฉิบ! เสียเวลาอันมีค่าจริงๆ นี่ถ้าไม่ใช่หลาน สาบานเลยว่าจะไม่ตกเป็นเบี้ยล่างของยัยเด็กนั่นแน่ๆ

“ไปเรียกมาสเซอร์มาพบฉันตรงนี้ทีซิ ฉันจะฝากค่ารถแท็กซี่เอาไว้ให้เด็กบ้ากลับบ้านเอง” หันไปสั่งคนขับรถของตนเสียงเข้ม อีกฝ่ายก็หน้าเอ๋อเหลอ

“ประเดี๋ยวคุณหนูก็คงออกมาครับนาย”

“นี่ฟังนะ เวลาของฉันเป็นเงินเป็นทอง ไม่ดีแน่ถ้าจะมามัวเสียเปล่ากับเด็กคนหนึ่งที่ไร้การอบรมเรื่องมารยาท ผู้ใหญ่มารอตั้งนานยังไม่เห็นหัวเลย”

“คงกำลังเก็บของใส่กระเป๋าน่ะครับ อย่าลืมสิครับคุณหนูเพิ่งกลับบ้านครั้งแรก”

“ฉันไม่สนว่านี่จะครั้งแรกหรือครั้งที่พันแปด ฉันแค่อยากจะ...”

“นะ...นั่น นั่นคุณหนูลูกชุบนี่ครับ มาแล้วๆ” ศรถูมือตัวเองไปมาอย่างดีใจและทึ่งกับความงดงามซึ่งคาดไม่ถึงว่าจะได้เห็นจากคุณหนูลูกชุบ

คุณหนูลรันดา เพชรแดนไตร วัย 18 ปี นอกจากจะมีเรือนร่างสะโอดสะองผิวพรรณที่เคยคล้ำดำกลับกลายเป็นขาวผุดผาด ผมของเธอยาวสลวยเป็นลอนใหญ่สีน้ำตาล เวลา 8 ปีที่พ่อของเธอส่งเข้าเรียนโรงเรียนประจำด้วยสาเหตุที่ว่า เด็กหญิงลรันดาในตอนนั้นดื้อแพ่งและโดดเรียนเป็นตั้งแต่อยู่ชั้นประถมศึกษา การส่งเข้าโรงเรียนประจำในความรู้สึกของคนทั่วไปก็คือการดัดสันดาน ซึ่งธามไทก็เป็นคนหนึ่งที่คิดอย่างนั้น

ทว่าเวลา 8 ปีที่เขาไม่เคยสนใจใยดีเธอเลยกลับเปลี่ยนเด็กสาวขี้เหร่ให้กลายเป็นสาวสวยจนเกือบจำไม่ได้ นอกจากเรือนผมสีน้ำตาลแล้วสิ่งเดียวที่เปลี่ยนไม่ได้นั่นก็คือแววตา เด็กดื้ออย่างลรันดามีนัยน์ตาโศลกตลอดเวลา จนบางครั้งไม่น่าเชื่อว่าเธอจะดื้อได้ใจจนพ่อทนไม่ไหวส่งเข้าเรียนโรงเรียนประจำ และไม่อนุญาตให้กลับมาเยี่ยมบ้านกระทั่งเรียนจบ

ธามไทกวาดตามองลรันดาตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความทึ่งไม่ต่างจากศร แต่ไร้ซึ่งสีหน้าแห่งความยินดี เขาแค่มาทำตามหน้าที่ไม่ใช่มาเพื่อยินดีที่ยัยเด็กบ้าเรียนจบ

“มาแล้วก็ดี งั้นไปกันเลย” ชายหนุ่มวัย 38 ปี หมุนตัวเดินนำไปที่รถ หากทว่าหลานสาวตัวแสบของเขากลับไม่ยอมเดินตาม

“อ้าว จะยืนบื้ออยู่ทำไมล่ะแม่คุณ ขึ้นรถสิ ศรเอากระเป๋าขึ้นรถ” ธามไทหันมาสั่งเสียงกระโชก

ลรันดาไม่ขยับแถมยังยกมือกอดอกมองชายร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาราวเทพบุตรแต่ใจดำเป็นที่สุด เธอไม่เคยลืมว่าเขาเป็นใคร และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่วันกี่เดือนกี่ปี เขาคนนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ไม่เคยพูดกับเธอดีๆ ไม่เคยมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน ทุกครั้งที่เผชิญหน้ากันเขามักทำให้เธอรู้สึกไร้ค่า

“เอ่อ คุณหนูครับ เชิญครับ” ศรเห็นคุณหนูยังคงยืนเฉยก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากเชิญ

“มารับลูกชุบทั้งทีจะไม่แนะนำตัวกันก่อนหรือคะ ลูกชุบมาอยู่ในกรงตั้ง 8 ปีเชียวนะเนี่ย จำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นใครกัน”

ธามไทหรี่ตาลงสีหน้าเอาเรื่อง เขาแน่ใจว่ายัยเด็กบ้าจะต้องจำทุกคนได้ เธอไม่ได้เข้าโรงเรียนประจำตอนจำความไม่ได้ ซึ่งเขาเองก็เชื่อว่าตนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เด็กนี่เพียงแค่ต้องการจะเอาชนะเหมือนที่เคยทำ นิสัยเสียไม่เปลี่ยน

“หึ เวลา 8 ปี ไม่ได้ทำให้นิสัยของเธอดีขึ้นเลยสินะ”

“ถ้าคุณไม่แนะนำตัวเอง หนูจะไม่ไป”

“นี่เธอ!” เพราะคำสั่งของคนที่เขารักเหมือนพี่ชายจริงๆ ทำให้หนุ่มหล่อจำต้องทำในสิ่งตรงกันข้ามกับความคิด

“ถ้าเธอไม่ความจำเสื่อม เธอน่าจะจำฉันได้ ฉันธามไท ภูเบศวร์ สามีของน้ำฟ้าคุณอาของเธอไง”

“อ้อ อาเขยของหนูเองหรือคะ เวลา 8 ปี ก็เหมือนเดิมนะคะ รูปหล่อและใจดำ อาน้ำฟ้าสบายดีหรือเปล่าคะ” และเมื่อถามออกไปอย่างนั้น เธอก็ได้เห็นสีหน้าเจ็บปวดของเขา

“หยุดพูดเสียที ขึ้นรถได้แล้ว เธอจะแกล้งถ่วงเวลาไปเพื่ออะไรกันฮึเด็กบ้า ฉันมีงานต้องทำนะ ไป...ขึ้นรถได้แล้ว” คราวนี้ต้นแขนของลรันดาถูกบีบกระชับแล้วลากเธอขึ้นรถเหมือนสิ่งของไร้ค่ากล่องหนึ่ง

เธออยู่ในคอนแวนต์โดยไม่เคยได้กลับบ้านมาตลอด 8 ปี ความเจ็บปวดของการถูกทอดทิ้งไม่ไยดีมันมากขนาดไหน เธอร้องไห้ทุกครั้งที่เห็นเพื่อนๆ มีผู้ปกครองมารับกลับบ้าน แต่เธอต้องอยู่ที่คอนแวนต์กับซิสเตอร์ ทว่าการถูกทอดทิ้งก็ทำให้เธอเข้มแข็ง และเกือบจะลืมคนใจร้ายทุกคน แค่เกือบนะ เพราะความจริงพวกเขานั่งอยู่ในใจเธอด้วยความรัก ความรักที่เธอมอบให้แต่ไม่มีใครไยดี

รถเคลื่อนออกจากที่ลรันดาก็หันไปมองหน้าอาเขยของเธอ โดยเฉพาะเขาคนนี้ที่เธอไม่เคยลบภาพความใจร้ายออกไปได้เลย

“จะมองหน้าฉันหาพระแสงอะไรมิทราบ”

“ทำไมอาปูนไม่พูดดีๆ กับหนูบ้างคะ อาปูนเกลียดหนูมากขนาดนี้ แล้วมารับหนูทำไมคะ”

วูบหนึ่งหัวใจของธามไทกระตุกด้วยความสงสาร แต่นั่นก็เพียงแค่วูบเดียว เขาก็หันไปขมวดคิ้วเข้มทำหน้าดุใส่เธอ

“ถ้าเธอทำตัวดีๆ ก็ไม่มีใครเกลียดหรอกลูกชุบ วีรกรรมของเธอมันเหมือนเด็กเหลือขอในสลัม ไม่ใช่คุณหนูที่เกิดมาบนกองเงินกองทอง”

“วีรกรรมของลูกชุบเลวร้ายถึงเพียงนั้นเลยหรือคะอาปูน ขนาดที่ทำให้ทุกคนทอดทิ้งหนู แล้วทำไมไม่ทิ้งให้ตลอดล่ะคะ มารับหนูทำไมกัน”

บทถัดไป