บทที่ 2 Chapter .1 **ทายาทอสูรตัวร้าย** 2

“ทำไมครูต้องรู้ด้วยล่ะว่าวินเซ้นต์เป็นลูกใคร? เมื่ออยู่ในโรงเรียน...ครูใหญ่ที่สุด และหากเราทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ ที่นี่คือโรงเรียนไม่ใช่บ้าน!!”

“กล้าเหรอ กล้าทำก็ลองดูจะฟ้องแด๊ด!! ให้แด๊ดจัดการครู” หน้าเล็กๆ นั่นลอยหน้าลอยตายั่ว นางฟ้าใจดีในตัวเธอ...ถอยหลังกลับไปซุกอยู่มุมห้อง...ปล่อยให้แม่มดใจร้ายออกมาทำงานแทน เพื่อปราบอาการพยศของเด็กชาย ที่กำลังยืนกอดอกปากยื่นอยู่ตรงหน้า ให้รู้เสียบ้างว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร!!

“ครูให้เวลาวินเซ้นต์ตัดสินใจ5 นาที ถ้าหากเก็บของที่ถูกปาเกลื่อน ครูก็จะไม่ทำโทษ... แต่ถ้าไม่...ครูก็จำเป็นต้องทำนะจ้ะ” มณีรินเดินไปคว้าไม้บรรทัดที่วางอยู่ตรงโต๊ะทำงานตัวเอง เธอถือไว้ในมือและเดินย้อนกลับมากลางห้องอีกครั้ง แววตาไหววูบของเด็กชายมันทำให้เธอกระหยิ่ม นี่แค่การขู่หากเขาไม่ยอมทำจริงๆ เธอก็จำเป็น

“ตัวจะตีเค้าเหรอ?”

ดวงตาคู่เดิมมีแววไม่แน่ใจ เมื่อเงยหน้ามองสบนัยน์ตากับคุณครูคนสวย

“ใช่!! ครูจะตี...หากวินเซ้นต์ยังดื้อ”

หญิงสาวแสร้งตีสีหน้าเคร่งๆ

“เค้าจาฟ้องแด๊ดนะ ตัวไม่กลัวแด๊ดเค้าเหรอ?”

เด็กชายพยายามแย้ง แม้จะแอบกลัวนิดๆ

“ไม่กลัว? ทำไมต้องกลัวล่ะคะ บอกแล้วที่โรงเรียน...ครูใหญ่สุด!! แด๊ดวินเซ้นต์ก็มาสั่งห้ามครูไม่ให้ทำโทษวินเซ้นไม่ได้”

“ตัวไม่รู้จักแด๊ดเค้าสิ!! แด๊ดเค้าน่ากลัวนะ”

ใบหน้าเล็กๆ เชิดขึ้น มือป้อมๆ ยกขึ้นกอดอก ทำท่าทางหยิ่งทนงให้มณีรินเห็น

“ไม่เห็นจะกลัว และครูจะลงโทษแด๊ดวินเซ้นต์ด้วยตัวเอง ที่เขาทำให้วินเซ้นต์เป็นแบบนี้...ไม่รู้จักสั่งสอนลูก...ปล่อยให้เอาแต่ใจตัวเองและไร้เหตุผล”

หญิงสาวกระซิบเสียงเข้ม เธอนึกแบบนั้นในใจเช่นกัน ผู้ปกครองของเด็กชายต้องได้รับการอบรม เขาจะได้รู้วิธีกำหลาบบุตร ไม่ใช่ปล่อยปละ ละเลยจนเขากลายเป็นเด็กกร้าวร้าวเช่นนี้

“แด๊ดงานเยอะ!! เค้ายังไม่ค่อยได้เจอเลย”

เสียงหงอยๆ นั่นและแววตาที่สลดลง มณีรินจับสังเกตได้ เด็กคนนี้แค่อยากเรียกร้องความสนใจจากผู้ปกครองแค่นั่นเอง...

หญิงสาวลองเสี่ยง ยื่นข้อเสนอให้ หากเธอทำสำเร็จ จะได้เด็กชายที่น่ารักจนโลกต้องชื่นชมเพิ่มอีกหนึ่งคน

“แล้วถ้าครูทำให้แด๊ดหันมาสนใจวินเซ้นต์มากขึ้นได้ล่ะ จะเปลี่ยนนิสัยแย่ๆ แบบนี้ไหม?”

หล่อนย้ำ!!

“จริงป่าว!! อย่ามาโกหกนะ โกหกตกนารกด้วยขอบอก...แด๊ดยุ่งมาก...ขนาดโทร. ไปยังไม่อยากรับสายเลย” เด็กชายบ่นเบาๆ ขยับเข้าใกล้มณีรินอีกนิด เขาบ่นๆ เมื่อการติดต่อบิดาเป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำกันง่ายๆ เพราะแอลเจลโร่งานยุ่งแทบไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว หากอยากเจอบิดาอย่างน้อยต้องแจ้งล่วงหน้า3 วันเป็นอย่างต่ำ...

“ถ้าทำได้ล่ะ จะเชื่อที่ครูพูดไหม?...การทำตัวเป็นเด็กดี เด็กน่ารัก พ่อแม่จะได้รักมากขึ้นกว่านี้ไง”

“เค้าไม่มีแม่ มีแต่แด๊ดคนเดียว” น้ำเสียงขึ้นจมูกตอบเสียงสะบัดเมื่อพูดถึงคนในครอบครัว

หญิงสาวพยักใบหน้ารับรู้ อืม...มีปัญหาครอบครัว พ่องานยุ่ง ไม่มีแม่เป็นคนคอยอบรม อยู่กับพี่เลี้ยงและบอดี้การ์ด เด็กตัวเท่านี้มีบอดี้การ์ดเพื่อ? สงสัยเธอจะต้องคุยกับผู้ปกครองของเด็กชายวินเซ้นต์เป็นการส่วนตัวสักครั้ง เพื่อที่เด็กจะได้มีพัฒนาการดีๆ ไม่ใช่ฉุนเฉียวเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้

“ครูก็ไม่มีแม่อยู่ด้วยหร๊อก!! แต่ครูไม่เห็นเป็นไรนี่นา อยู่มาได้จนถึงตอนนี้ ไม่เกเร ไม่งอแงด้วยค่ะ”

“จริงอ่ะ...ทำไมไม่มีล่ะ”

เด็กชายเผลอตัว เมื่อคุณครูคนสวยหลอกล่อด้วยเรื่องที่เขาคิดถึง

“จริงสิ!! แม่ครูอยู่ไกล...ข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลแสนไกล”

มณีรีนยิ้มกว้าง เธอทรุดนั่งเบื้อหน้าเด็กชาย ยกมือขึ้นเกลี่ยรอยน้ำตาให้พร้อมกับยิ้มกว้างขวาง เมื่อวินเซ้นต์ขยับตัวหนี

“แต่แม่เค้าไม่ได้ตายนะ... แค่ไม่ได้อยู่ด้วย อยู่คนล่ะที่...แต่เค้าก็ไม่อยากเจอแม่หรอก แม่ชอบแต่งตัวโป้ๆ ชอบออกเที่ยวกลางคืน”

หญิงสาวอุทานในใจ เห้ย!! ผู้ปกครองของเด็กนี่ทำไมประพฤติตัวอย่างที่ไม่ดีให้เด็กเห็น เท่าที่ฟังมณีรินไม่อยากจะนึก หากเธอโตมาแบบนี้ คงไม่แคล้วเป็นแบบเด็กชายคนนี้แน่ๆ พ่อไปทาง แม่ไปทาง อีกคนบ้างาน อีกคนบ้าเที่ยว โอ้ย!! อยากจะจับทั้งพ่อและแม่มาอบรมเสียใหม่ เด็กๆ เหมือนผ้าขาว มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะแต้มสีอะไรลงไป ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้จะมีหลากสีเพราะครอบครัวขาดๆ เกินๆ นี่เอง ชักอยากเจอผู้ปกครองของวินเซ้นต์ทั้ง2 คนเสียแล้วสิ!!

“วินเซ้นต์ มาให้ครูกอดทีสิ”

ความสงสารพุ่งพรวดๆ เธออ้าแขนออกและพยักหน้าเรียกเด็กชาย แม้เขาจะฝืนปั้นหน้าว่าข้าไม่แคร์!! ข้าอยู่ได้แม้จะไม่มีใคร? แต่เด็กก็คือเด็ก เขาปรารถนาอ้อมกอดที่อบอุ่นจากคนรอบข้าง ไม่ใช่ปล่อยให้เขาอ้างว้างอยู่กับความเหงาและเดียวดาย

วินเซ้นต์มีท่าทีลังเลเล็กน้อย มือเล็กๆ นั่นกำแน่น...เขามองสบสายตากับมณีรินนิ่งๆ เมื่อเธอคลี่ยิ้มเต็มหน้า ร่างเล็กๆ นั่นก็ถลาเข้ามาซุกอก พร้อมทั้งสะอื้นฮักๆ จนตัวโยน เธอวางมือบนแผ่นหลังเด็กน้อย ลูบขึ้นลูบลงและกระซิบปลอบใจ รู้สึกเห็นใจเด็กชาย เขาคงสะสมความเดียวดายอยู่ในใจเป็นนาน คงโหยหาอ้อมกอดแสนอบอุ่น แต่กลับแสดงออกด้วยความแข็งกระด้างแทน เพื่อตบตาทุกๆ คน แสร้งทำเป็นเข้มแข็ง ทั้งที่หัวใจอ่อนแอ ช่างน่าสงสารและน่าเห็นใจ

!!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป