บทที่ 5 บทที่ 5.

“นี่เราเป็นบ้าอะไร” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง การได้เห็นหน้าหวานสวยซึ้งของแม่เอื้องเหนือนั่นแค่ชั่วแวบเดียวถึงกับทำให้เขาเป็นเอามากขนาดนี้เลยหรือ ภาพที่ทับซ้อนเข้ามาในหัวสมองเขาอีกภาพก็คือภาพร่างของแม่เอื้องงามที่ทอดกายระทวยส่งเสียงครางกระเส่าเร่าร้อนอยู่ใต้ร่างของเขายิ่งทำให้ชายหนุ่มพลุ่งพล่านหนักกว่าเดิมเหมือนเติมเชื้อเพลิงพิศวาสร้อนแรงเกินกว่าจะดับลงได้ อัคคีพลุ่งพล่านเดือดดาลในใจ จนหลงลืมไปว่าเขาได้ทำให้แม่ดอกแคเธอรีนที่เบ่งบานพรักพร้อมเหี่ยวเฉาลงอย่างแรง

“กรี๊ด...บ้าๆ นี่มันบ้าบอที่สุด อาร์ตี้คุณทำแบบนี้กับแคทได้ยังไง คนบ้า” ร่างเย้ายวนของเธอเต้นเหยงๆ อยู่ข้างเตียงกว้างเมื่อเห็นว่าร่างสูงสมาร์ตนั่นไม่แม้แต่จะชายตามองเธอที่อารมณ์ค้างอยู่

“เอาเป็นว่าไว้เมื่อไรที่ผมอารมณ์ดีกว่านี้เราค่อยเจอกันใหม่ละกัน ส่วนเรื่องนั้นเดี๋ยวคนของผมจะจัดการให้พรุ่งนี้ ไม่เกินเก้าโมงเช้าแน่นอน”

อัคคีหันมาบอกแก่คู่ควงคนล่าสุดด้วยใบหน้าและแววตาเฉยชาแต่น้ำเสียงห้าวๆ นั้นบอกได้อย่างดีว่าบัดนี้ชายหนุ่มตรงหน้าอยู่ในอารมณ์ไหน และถ้าหากเธอยังอยากจะเอาแต่ใจหรือเรียกร้องอะไรที่มากกว่านี้มันจะเป็นการกระทำที่โง่เอามากๆ และอาจจะพลาดของขวัญชิ้นโตที่คนอย่างอัคคีจะบรรณาการแด่ผู้หญิงของเขา ซึ่งแคเธอรีนเองก็ไม่อยากเสี่ยงและเสียมันไป เพราะนั่นคือผลประโยชน์ที่เธอจะได้จากอัคคีทั้งข้าวของเงินทองและบทรักอันเร่าร้อนถึงอกถึงใจอย่างที่หาไม่ได้ง่ายๆ จากชายหนุ่มคนไหนที่เธอเคยผ่านมา

“โอเคค่ะ เอาไว้เจอกันวันหลังก็ได้” ว่าแล้วนางแบบสาวก็ก้มลงเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นขึ้นมาแล้วเลยเข้าห้องน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะออกมาฉวยกระเป๋าแบรนด์เนมใบหรูและก็อดที่จะหันมามองร่างแกร่งอย่างอาวรณ์ไม่ได้ แต่เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มยังคงยืนกอดอกเปล่าเปลือยอยู่ริมระเบียงบ้านพักที่ ไม่แม้แต่จะชายตามองเธอที่กำลังจะจากไป ยิ่งสร้างความขัดเคืองให้เธอยิ่งนัก ใบหน้าสวยสะบัดให้ชายหนุ่มก่อนจะปิดประตูเสียงดังปัง แล้วก้าวฉับๆ จากไปอย่างรวดเร็ว

เสียงประตูที่กระแทกปิดเสียงดังทำให้อัคคีมองมาเพียงแวบเดียวแล้วก็ผินใบหน้าหล่อเหลาหันมามองภาพเขียวขจีของภูเขาตรงหน้า แขนแข็งแรงเท้ากับระเบียงไม้ที่ฉลุลวดลายงดงามประณีต ชายหนุ่มเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มมืดลงดาวประจำเมืองเริ่มส่องแสงทักทายราตรีกาลที่กำลังจะคืบคลานเข้ามาในไม่ช้าอย่างหงุดหงิด

เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ อัคคีรู้สึกเสียหน้าเหลือเกิน เมื่ออาวุธที่เตรียมพร้อมจะรบของเขาอยู่ๆ ก็เกิดหมดประสิทธิภาพทันที เมื่อใบหน้าสวยหวานนั้นแทรกเข้ามาในขณะที่เขากำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่กับนางแบบสาวหุ่นกระชากใจอย่างแคเธอรีน ยิ่งคิดก็ยิ่งขุ่นเคือง ชายหนุ่มยกมือขยี้ผมเบาก่อนจะสะบัดหัวแรงๆ อย่างต้องการจะให้ใบหน้าสวยหวานนัยน์ตาโศกซึ้งที่เขาเห็นเพียงแวบเดียวนั้นให้กระเด็นออกไปจากห้วงคำนึง

“โว้ย ให้ตายซิ...บ้าที่สุด...” ชายหนุ่มสบถกับอาการเหมือนหนุ่มน้อยที่กระวนกระวายในรักแรกอย่างไรอย่างนั้นและพลันสายตาของเขาก็สะดุดกับร่างงามที่ว่ายวนหลอกหลอนเขาอยู่ ร่างระหงบอบบางรวบผมเป็นพวงเบี่ยงพาดไว้ที่ไหล่นวลข้างซ้ายประดับช่อผมด้วยดอกลีลาวดีดูเย้ายวนนั้นอยู่ในชุดเดรสสีม่วงเม็ดมะปราง ตัดเย็บประณีตเข้ารูปเผยให้เห็นเอวเล็กคอด ทรวงอกอวบอิ่มที่มองเห็นรำไรด้วยตัวชุดเป็นรูปคอวีคล้องไหล่เผยผิวด้านหลัง เนื้อผ้าดูนุ่มนวลทิ้งตัวแนบลำตัวโชว์หน้าท้องแบนราบสะโพกผายกลมกลึงและเรียวขาสีน้ำผึ้งนวลเนียนน่าสัมผัสที่พ้นชายกระโปรงที่สั้นเหนือเข่าเล็กน้อย

เรียวขานั่นมันเป็นเรียวขาที่สวยที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา และผิวสีน้ำผึ้งของเธอจะเนียนนุ่มมือขนาดไหนนะถ้าได้สัมผัสจริงๆ สักครั้ง เธอดูสวยซึ้งเย้ายวนแตกต่างจากหญิงสาวที่เขาพบเมื่อตอนพลบค่ำนั้นราวกับคนละคน ตอนนี้เธอกำลังพูดคุยอยู่กับพนักงานของโรงแรมพร้อมกับหนุ่มสาวรุ่นราวคราวเดียวกันดูเป็นธรรมชาติริมฝีปากอวบอิ่มสีเรื่อนั่นขยับเขยื้อนเอื้อนเอ่ยอะไรสักอย่างกับชายหนุ่มหน้าอ่อนที่ยืนอยู่ในกลุ่ม แต่ให้ตายเถอะท่าทีที่สนิทสนมกันของเจ้าหล่อนกับไอ้หนุ่มนั่นกลับทำให้เขารู้สึกขุ่นเคือง โดยที่เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองที่รู้สึกอย่างนั้นมันเหมือนกับหึงหวง

“หึงหวงงั้นหรือ เป็นไปไม่ได้ ทำไมฉันต้องรู้สึกอย่างนั้นกับเธอด้วย ฉันก็แค่อยากได้เธอเหมือนอยากได้ผู้หญิงทั่วไปก็เท่านั้นเอง” เขาหงุดหงิดในใจ

ที่ คุ้มอินจำปา เรือนไทยล้านนาอัน สร้างจากไม้สักทองทั้งหลัง ตั้งตระหง่านสง่างามท่ามกลางร่มไม้น้อยใหญ่นานาพรรณ ในค่ำวันนี้คึกคักด้วยคณะทำงานของทีมจัดงานและคณะของอโนมาที่มาจากโรงเรียนสอนทำอาหารชื่อดัง หนุ่มสาวในงานล้วนแต่งกายสวยงามสดใส เสียงดนตรีขับกล่อมด้วยเครื่องดนตรีพื้นเมืองเช่น ซอ ซึง พิณเปี๊ยะ และขิม คลอแผ่วเบาเข้ากับบรรยากาศที่เย็นสบายและความเป็นกันเองของเจ้าของเรือน โต๊ะไม้สักแกะสลักลวดลายงดงามใต้ต้นจันทร์กระพ้อ แม่เลี้ยงเกศราและพ่อเลี้ยงอินคำกำลังพูดคุยอย่างสนุกสนานอยู่กับอโนมา แต่ส่วนใหญ่ดูท่าว่าจะเป็นแม่เลี้ยงเสียมากกว่าที่เป็นฝ่ายคุย

“ได้ยินว่าน้องอ้อนเป็นคนเหนือ อยู่จังหวัดอะไรคะ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป