บทที่ 8 บทที่8.
“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันหยิบเองได้ ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวตอบสั้นๆ อย่างมีมารยาทแล้วเลือกที่จะหยิบขวดน้ำเปล่าที่เป็นขวดแก้วและยังไม่มีการเปิดดื่มกินซึ่งปฏิกิริยาของเธอก็สร้างความขุ่นเคืองในใจของชายหนุ่มผู้มีความมั่นใจในเสน่ห์ของตนอย่างอัคคีมากทีเดียวแต่เขาเลือกที่จะข่มมันไว้
“ไงล่ะพ่อรูปหล่อน้องสาวคนสวยของเราไม่เล่นด้วยล่ะสิหน้าหงิกเหมือนหมาเห็นปลากระป๋อง” แม่เลี้ยงกล่าวตอกย้ำ
“อะไรที่นายอัคคีอยากได้มันก็ต้องได้เสมอแหละ พี่เกดอย่าเพิ่งได้ใจไป” แม้จะตอบอย่างคนที่มั่นใจแต่ในใจกลับร้อนรุ่มเพราะเหมือนเขาโดนลบเหลี่ยม
“ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ละมั้ง เพราะน้องอ้อนเขาไม่ใช่สาวๆ อย่างที่นายเคยควง เขาดีกว่านั้นเยอะ แม้ว่าเขาจะเป็นม่ายสาวลูกหนึ่งก็เถอะ แต่บอกได้คำเดียวว่ามีหนุ่มๆ คอยรุมแจกขนมจีบเพียบทั้งนิสัยดี เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติมากมายไม่แพ้นายเลยสักคน”
“ถ้านายไม่คิดจะจริงจังก็อย่างไปให้ความหวังหรือแสดงออกว่าสนใจน้องอ้อนเขาดีกว่า พี่ว่าปล่อยให้น้องเขาไปเจอคนที่ดีๆ จะดีกว่าเจอคนอย่างนายนะ” คราวนี้เป็นเสียงของคนที่เขาเคารพรักเหมือนพี่ชายเอ่ยออกมาสร้างความไม่พอใจให้ชายหนุ่มอย่างมาก
“โห...อะไรกันน่ะพี่อิน นี่แค่เจอกันแค่ครั้งเดียวก็หลงกันซะขนาดนี้ พี่เกดคนสวยไม่หึงแย่หรือครับพี่ชาย”
“อย่ามาเขย่าขาเตียงเขาซะให้ยาก เขาเสริมใยเหล็กแบบแข็งแรงทนทานย่ะนายตัวร้าย” แม่เลี้ยงมองเขาอย่างขุ่นเคือง... ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าชายหนุ่มรูปงามตรงหน้าคิดจะทำอะไร ด้วยว่าครอบครัวของทั้งสองตระกูลนั้นสนิทสนมกันอีกทั้งเธอกับอัคคียังเป็นลูกพี่ลูกน้องกันและเติบโตมาด้วยกัน เคยคิดเคยทำอะไรที่ห่ามๆ ด้วยกันมา ทำไมแค่นี้เธอจะไม่รู้ว่าอัคคีคิดจะทำอะไร
“ขอกันตรงๆ นะไฟ พี่น่ะถูกชะตากับน้องอ้อนและเธอก็เป็นเด็กที่นิสัยดี ถูกใจพี่มาก พี่ไม่อยากให้เธอทำให้น้องสาวของพี่ต้องเสียใจน้ำตาเช็ดหัวเข่า” แม่เลี้ยงเกศราเอ่ยอย่างเป็นการเป็นงานทั้งน้ำเสียงและแววตาอย่างคนที่เคยรู้เคยเห็นกันมาจะรู้ว่าสีหน้าแบบนี้ และไอ้แววตาแบบนี้ล่ะได้ส่งสัญญาณว่าใครอย่าได้ทำให้ชีขัดใจเป็นอันขาด
“อะไรกันพี่เกดผมไม่ได้คิดจะทำอะไรเลย แหมแค่นี้ก็หวงด้วยเพิ่งเจอกันแท้ๆ ก็ว่าเขานิสัยดีสิ่งที่เห็นมันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิดก็ได้นี่”
“เชอะ...อย่างนายน่ะอ้าปากก็เห็นไปถึงถุงน้ำดีแล้ว ทำเป็นมาพูดดีไป คอยดูนะฉันจะไม่ให้นายเข้าใกล้เขาเกินหนึ่งเมตรแน่ๆ ใชมั้ยพี่อิน” เธอเอ่ยอย่างเคืองๆ และหาแนวร่วมพร้อมกับใช้สายตาพิฆาตผู้เป็นสามีว่าคุณต้องอยู่ข้างฉันเท่านั้น ถ้าไม่เป็นเรื่อง!
“โอ๊ย มันแน่อยู่แล้วที่รัก คราวนี้ล่ะพี่ได้เอาคืนนายไฟ ได้แก้แค้นสมใจกับเวลาที่รอคอยมานับสิบปี” พ่อเลี้ยงเอาใจภรรยาสาวแล้วมองชายหนุ่มผู้ครั้งหนึ่งเคยเป็นก้างชิ้นโตที่คอยขัดขวางเขาเมื่อครั้งที่หมั่นมาเทียวไล้เทียวขื่อจีบแม่เลี้ยงเกศราที่ทั้งแก่นเซี้ยวและสุดแสนแสบเมื่อสมัยยังหนุ่มแน่นเท่าอัคคีและกว่าจะสมหวัง ไอ้หนุ่มตรงหน้าเขาเวลานี้ก็เล่นเขาไว้ซะสะบักสะบอมจนแทบลืมไม่ลงเลยทีเดียว
“แหม... เห็นผมเป็นคนเลวร้ายไปได้ มันไม่ขนาดนั้นซะหน่อย” ว่าแล้วเขาก็เดินไปเลียบๆ เคียงๆ หญิงสาวที่หมายปอง
“คุณพี่คอยดูนะ น้องว่านายอัคคีภัยนี่จะต้องกลายร่างจากเสือเป็นแมวนอนหวดเร็ววันนี้แน่ๆ” แม่เลี้ยงพูดกับสามีเบาๆ อย่างมั่นใจว่าอัคคีต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน
“คุณอ้อนนี่เก่งนะครับที่เล่นขิมได้ด้วย นึกว่าจะทำอาหารเก่งอย่างเดียว” นักดนตรีหนุ่มหน้าใสเอ่ยชื่นชมหญิงสาวที่เขาต้องตาตั้งแต่แรกพบ ตรึงใจกับดวงตาสวยโศกคู่นี้นัก
“ก็ไม่ถึงกับเก่งหรอกค่ะ เพียงแต่ลูกสาวเขาเล่นเป็น เราเป็นแม่ก็ต้องคอยฟัง เผลอๆ ก็พลอยเล่นเป็นไปด้วย แต่ไม่ถึงกับเก่งหรอกค่ะ เล่นได้แค่เพลงง่ายๆ แต่ถนัดที่สุดเล่นแล้วไม่ผิดคีย์ก็คงเป็นเพลงลาวดวงเดือนล่ะค่ะ” หญิงสาวเล่าอย่างถ่อมตัว แต่อาการที่สนิทสนมคุยกันถูกคอของเธอกับหนุ่มนักดนตรีได้สร้างความขุ่นขวางให้ใครบางคนซึ่งนั่งอยู่วงขันโตกข้างๆ กันที่คอยเงี่ยหูฟังว่าแม่สาวเอื้องเหนือของเขาคุยอะไรกับไอ้หนุ่มหน้าอ่อนนั่น ทำไมถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ถูกใจเสียนักหนา ทีกับเขาแม่คุณมีท่าทีระวังตัวแจ
“น้องอ้อนเล่นดนตรีไทยได้ด้วยหรือคะ” แม่เลี้ยงเกศราเอ่ยถามอย่างตื่นเต้นและชื่นชม
“ก็แค่พอได้น่ะค่ะพี่เกด เพราะน้องอิ่มอุ่นลูกสาวกับแมงปอเขาสอนให้เล่นเป็นเพื่อนก็เลยเล่นได้นิดหน่อย”
“ถ้าไม่รังเกียจก็ลองเล่นให้เราฟังบ้างสิคะพี่อ้อน” สาวน้อยผู้บรรเลงเพลงซึงแสนไพเราะขอร้องอย่างชื่นชมสาวสวยตรงหน้า
“จริงด้วยค่ะคุณอ้อนแหม...นานๆ เราจะเจอคนสวยๆ เป็นสาวสมัยใหม่เล่นดนตรีไทยเป็น ก็ลองเล่นให้เราฟังสักเพลงจริงมั้ยพวกเรา” คราวนี้อาจารย์ คำปัน ผู้ควบคุมวงดนตรีคณะนี้และเป็นอาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยนาฏศิลป์ชื่อดังเอ่ยขอแรงสนับสนุน
“โธ่ อ้อนไม่เก่งขนาดที่โชว์ได้หรอกค่ะ แค่เล่นได้เพลงลาวดวงเดือนเพลงเดียวเอง” หญิงสาวโอดครวญ ก็เธอไม่เคยให้ใครฟังนี่นะจะเล่นก็เล่นแค่ที่บ้านกับลูกสาวและครอบครัวเล็กๆ ของอรุณนารีเท่านั้นเอง
