บทที่ 4 ตอนที่ 4. เชลยปากร้าย/1
“หึ ค่าตัวลูกสาวของนายเลิศ อย่าว่าแต่ล้านเลย สลึงหนึ่งยังแพงไปมั้ง”
เขาแค่นยิ้มหยัน ประเมินค่าตัวเธอต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ทำเอาคนฟัง โมโหขึ้นมา
“ไอ้บ้า ค่าหัวแกน่ะสิ สลึงหนึ่ง ตัวฉันมีค่ามากกว่าทองอีกย่ะ แกต่างหากที่เป็นคนไร้ค่า เที่ยวปล้นชาวบ้านกิน”
จอมขวัญผุดลุกขึ้นยืนประจันหน้าอย่างลืมกลัว เกิดมาไม่เคยมีใครดูถูกเหยียดหยามเธอมาก่อน บิดากับพี่ชายกับคนรับใช้ในบ้าน
ล้วนยกย่องเอ็นดูเธอยิ่งกว่านางฟ้า แต่ไอ้โจรปากมอมคนนี้ บังอาจดูหมิ่นเธอ
“เหอะ ร่างกายมีค่ามากกว่าทองเหรอ”
เกริกเหยียดริมฝีปาก ปัดสายตามองหญิงสาวแล้วยักไหล่
“ร่างกายของผู้หญิงทุกคนล้วนมีค่าดั่งทอง แต่ถ้าความสาวความสวยเปื้อนราคี ก็จะเรียกว่าผู้หญิงดอก... อืม เรียกเพราะๆ ว่าสุวรรณบุปผา”
“บ้า! แกมันถ่อย สถุน เลี้ยงหมาไว้เต็มปาก พ่อแม่ไม่สั่งสอนหรือไง ถึงได้ต่ำช้าแบบนี้”
จอมขวัญกรีดร้องด้วยความโมโหสุดขีด พลั้งปากด่าทอถึงบุพการีของอีกฝ่ายอย่างลืมตัว นั่นทำให้คนได้ยินตาลุกวาบขบกรามแน่นด้วยความโกรธ
“ใช่ ! พ่อฉันไม่มีโอกาสสั่งสอนฉัน ท่านตายไปอย่างเวทนา ชีวิตฉันถึงได้กลายเป็นไอ้ถ่อยแบบนี้ไง”
เกริกตะคอกใส่เสียงกร้าว กระชากร่างเล็กมาบีบไหล่ด้วยความโมโห ลูกสาวนายเลิศปากจัดด่าทอถึงพ่อแม่คนอื่น นี่คงตามใจกันจนเสียคน
“โอ๊ย เจ็บนะ”
จอมขวัญพยายามดิ้นหนี เอามือจิกท่อนแขนเขาให้ปล่อย ดวงตาคมดุกร้าวราวกับมีเพลิงอยู่ในลูกตาสีดำจัดนั้น
มันน่ากลัวจนเธอสั่นไปทั้งตัว นึกเสียใจที่พลั้งปากด่าว่าพ่อแม่ของอีกฝ่าย
“ไอ้บ้า ปล่อยนะ!”
อยากขอโทษ แต่ปากไม่ยอมพูดไป ท่าทางการแสดงออกยิ่งเพิ่มแรงโทสะให้อีกฝ่ายจนเหลืออด
“ปากเสียแบบนี้ มันต้องล้างปากให้สะอาด”
เกริกลากร่างเล็กของหญิงสาวมาที่ท้ายแพ จอมขวัญพยายามดิ้นหนีแต่ก็สู้แรงคนตัวโต ที่กำลังโมโหจนสติหลุดไม่ได้
เขาผลักเธอล้มลงคร่อมตัวทับบนแผ่นหลังบาง ใช้น้ำหนักตัวกดไม่ให้เธอดิ้นหนี มือขยุ้มผมยาวสลวยที่มัดเป็นเปียจับให้หันมามองเขา
ใบหน้าคร้ามคมถมึงถึงราวกับอสูรร้าย ริมฝีปากกระตุกรอยยิ้มร้ายกาจ ขณะกดศีรษะของเธอจุ่มลงไปในน้ำ
“กรี๊ดดด ปล่อยฉัน แค่ก แค่ก”
จอมขวัญกรีดร้องด้วยความตกใจ แล้วก็สำลักน้ำจนแสบจมูกไปหมด เขากดศีรษะของเธอจุ่มน้ำทำให้หายใจไม่ออก
หญิงสาวพยายามดิ้นใช้มือจิกมือหนาที่ขยุ้มผมให้ปล่อย แต่เขาก็ไม่เบาแรงกดศีรษะเธอให้หน้ามุดน้ำอยู่แบบนั้น
“ยายคุณหนู ล้างปากซะ ล้างความโสมมออกจากปากให้หมด ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
เกริกหัวเราะเสียงดังดวงตาวาวโรจน์ มือหนากดศีรษะเล็กให้แช่อยู่ในน้ำ มองดูเธอดิ้นทุรนทุรายอย่างสะใจ
ในนาทีนี้เขาไม่มีความเห็นใจ ไม่มีความสงสารจะให้ ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจนัก ต้องสั่งสอนให้หลาบจำ
“แค่ก แค่ก ไอ้บ้า แกทำกับฉันแบบนี้ทำไม กรี๊ดดด”
พอเขาดึงเธอพ้นน้ำ ปากคมก็ด่าทอเขาอีก เกริกกดศีรษะเธอมุดน้ำอีกครั้ง มองดูร่างเล็กดิ้นกระแด่วๆ ช่วยตัวเองไม่ได้อย่างสาใจ เขาจะทำให้เธอสำนึก จะลงโทษให้หลาบจำ
“ปากเสียก็ต้องล้างปากให้สะอาด ถ้าด่าฉันอีก ฉันก็จะจับเธอล้างปากแบบนี้ไปเรื่อยๆ”
“แค่ก แค่ก ปล่อย... ฉันหายใจไม่ออก...”
เสียงนี้ดังอยู่ในคอ เจ้าของเสียงแสบจมูกหายใจไม่ออกจนอกแทบระเบิด ไอ้โจรโรคจิตมันกำลังทรมานเธอให้ตาย
จอมขวัญดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองสุดกำลัง ยิ่งดิ้นก็ยิ่งอ่อนแรง ยิ่งทรมานแทบขาดใจ มือหนากดศีรษะเธอจุ่มน้ำไม่ให้เงยหน้าหายใจ
“เฮือก แก ไอ้...”
เกริกกระชากศีรษะของจอมขวัญขึ้นพ้นน้ำ ก่อนที่เธอจะหมดลมหายใจ หญิงสาวหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่
ก่อนจะหมดสติไป ร่างน้อยอ่อนระทวยดวงตาปิดสนิทหมดพิษสง
“เหอะ ปากดีนัก”
ร่างไร้สติถูกพามานอนกลางแพ อารมณ์กรุ่นโกรธเมื่อครู่คลายลงเมื่อได้ลงทัณฑ์ยายคุณหนูปากเปราะ
เกริกหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดน้ำออกจากใบหน้าอ่อนใส ก่อนจะปล่อยให้นอนอยู่แบบนั้น ตัวเขาลุกหนีมายืนข้างลูกน้องคู่ใจ
“นายครับ คุณผู้หญิงนั่นจะเป็นอะไรไหมครับ”
คำถามนั้นทำให้คิ้วดกหนาขมวดนิ่ว หันไปมองร่างไร้สติที่นอนแน่นิ่งแวบหนึ่ง ก่อนจะเมินหน้าหนี
“แค่นี้ไม่ตายหรอก ถ้าตายก็โยนทิ้งน้ำไปซะ” เกริกพูดเหมือนไม่ใส่ใจ
ทำเอาคำปันยิ้มแห้งๆ ไม่กล้าถามอีก นายของเขากำลังหัวเสียหากไปยุ่งด้วยมากๆ อาจโดนลูกหลง
อยู่ด้วยกันมาหลายปีคำปันรู้จักฤทธิ์เดชความเจ้าอารมณ์ของผู้เป็นนายขึ้นใจ หากนายด่าคือยังไม่โมโหมาก
แต่ถ้าเงียบเตรียมวิ่งให้ดี ตีนหนักๆ อาจจะลอยมาพาดก้านคอใครสักคนที่อยู่ใกล้ๆ
กรรมเวรของผู้หญิงคนนั้นจริงๆ ไม่รู้ไปทำอะไรให้นายเกลียดถึงกับดักฉุดมาแบบนี้
“คุณพ่อช่วยหนูด้วย!”
เสียงกรีดร้องดังก้องขึ้น พร้อมกับร่างเล็กผวาลุกขึ้นนั่ง จอมขวัญสูดลมหายใจแรง กุมหน้าอกที่เต้นระรัวของตัวเอง เหงื่อซึมเต็มหน้าผากและซอกคอ
หญิงสาวมองไปรอบกายด้วยความมึนงง หัวใจยังไม่หายหวาดผวา เมื่อความทรงจำสุดท้ายวาบเข้ามา
“ปากเสียก็ต้องล้างปากให้สะอาด ถ้าด่าฉันอีก ฉันก็จะจับเธอล้างปากแบบนี้ไปเรื่อยๆ”
