บทที่ 7 ตอนที่ 7. ค่ำคืนกลางป่า/1
“อื้อ ปล่อย...”
เสียงท้วงในคอดังขลุกขลัก ยั่วให้อารมณ์เตลิดไหว ยิ่งจูบยิ่งหวานจนทำให้เกริกติดใจ เขาดูดดุนขบเม้มริมฝีปากย้อยสีแดงสดเหมือนผลเชอร์รี่อย่างเพลิดเพลิน
ยิ่งเห็นเธอขัดขืน ยิ่งอยากแกล้งให้เจ็บใจเล่น ริมฝีปากร้อนผ่าวตะโบมจูบดุดัน จนเกิดเสียง จุ๊บ จั๊บ ให้เธอละอาย หญิงสาวส่ายหน้าหนี
แต่เขาไม่ยอมปล่อย เสียงหอบหายใจสะท้านดังขึ้น เธอกำลังจะพ่ายแพ้เขาในไม่ช้า หรือไม่ก็หายใจไม่ทัน
เขาจึงผละออกจากริมฝีปากอิ่มอย่างเสียดาย หลังจากตักตวงความหวานจากปากนุ่มหวานจนหนำใจ
“ไอ้บ้า !”
จอมขวัญด่าทอไอ้โจรชั่ว ที่บังอาจปล้นจูบแรกในชีวิตสาวไป ริมฝีปากหนาใต้หนวดเคราครึ้มมันบดขยี้จนเธอแสบไปหมด
ริมฝีปากคงบวมเจ่อเพราะฤทธิ์จูบเถื่อนๆ นั่น
“ยังปากดีอีกนะ อยากโดนอีกหรือไง รึว่าติดใจอยากได้อีกสักจุ๊บ”
ใบหน้ารกเรื้อยื่นมาหาใกล้ๆ ดวงตาคมพราวระยับ จ้องมองริมฝีปากอิ่มที่ตอนนี้เริ่มเจ่อนิดๆ แต่ดูเซ็กซี่น่าจูบซ้ำ ดวงตากลมโตของเธอถลึงใส่เขา
แม้จะตกเป็นรองแต่ลูกสาวนายเลิศไม่คิดยอมแพ้สักนิด เขาชอบนักผู้หญิงที่สู้คนไม่อ่อนแอปวกเปียกให้ชวนรำคาญ
หากเธอร้องไห้ฟูมฟายเขาคงบีบคอตายไปนานแล้ว แต่ยิ่งเธอพยศใส่เขายิ่งสนุกกับการปราบพยศ แบบนี้แหละถึงจะมันสะใจดี
“แกมันคนชั่ว ปากเหม็นเน่าอย่างแก ใครเขาจะติดใจ ไปจูบตูดหมานู่น ไป๊!”
เรื่องปากร้ายจอมขวัญไม่เป็นสองรองใคร ถึงจะถูกเลี้ยงดูมาให้อยู่ในกรอบของกลุสตรีอันดีงาม แต่เธอเป็นคนไม่ยอมแพ้ใคร
ยามเรียนอยู่แดนไกลเจอสารพัดผู้คน ยิ่งเป็นพวกเหยียดสีผิวยิ่งมองชาวเอเชียแบบเธอเป็นสิ่งน่ารังเกียจ
เพื่อนหลายคนมักจะถูกกลั่นแกล้งเสมอ แต่จอมขวัญไม่ใช่คนที่ยอมให้ใครรังแกง่ายๆ เธอจัดการพวกนั้นจนไม่มีใครกล้ามายุ่ง
ลักษณะภายนอกของหญิงสาวจึงต่างจากนิสัยจริงๆ ที่ซ่อนอยู่
“ตูดหมามันไม่หอม ไม่หวาน เท่าปากเธอหรอก”
เกริกยิ้มหยันไม่สะท้านกับคำด่าแสบทรวงนั้นสักนิด เขาสนุกที่ได้ยั่วให้เธอโมโห อยากเห็นธาตุแท้ของลูกสาวนายเลิศให้หมดเปลือก
พ่อเลวลูกมีหรือจะดี เขาไม่แปลกใจหรอกหากเธอจะร้ายมากกว่านี้
“ไอ้หน้าด้าน ด่าแล้วไม่สำนึก”
เป็นจอมขวัญเองที่โมโหเขาแทน เธอด่าไปไอ้โจรกระโหลกหนานี่มันไม่สะดุ้งสักนิด หรือสกิลการด่าของเธอ
มันใช้ได้ผลกับพวกคนเมืองหน้าบาง ไม่ใช่โจรป่าหน้าด้านแบบไอ้นี่
“เธอล่ะ สำนึกหรือเปล่า”
“สำนึกอะไร ฉันไปทำผิดอะไรกับแก”
จอมขวัญจ้องหน้าเถียงกลับไม่ยอมแพ้ หญิงสาวมองใบหน้าเถื่อนของไอ้โจรถ่อย ด้วยสายตาเกลียดชัง
“ก็ปากร้าย ด่าคนเขาไปทั่ว เหยียดหยามจนเป็นนิสัย มันคงบ่มเพาะมาจากพ่อสินะ ถึงได้เป็นแบบนี้”
เกริกบีบคางเธอแรงขึ้น กระชากเสียงใส่ความโกรธแค้นอัดแน่นในอกเมื่อนึกถึงบิดาของหญิงสาว
ศัตรูที่เขาอยากแก้แค้นให้สมกับสิ่งที่มันเคยทำกับครอบครัวของเขา
“กล้าดีอะไรมาว่าพ่อฉัน ไอ้ถ่อย ไอ้โจรชั่ว คนอย่างแกไม่ได้มีค่าเท่าเศษขี้เล็บของพ่อฉันหรอกนะ พ่อฉันเป็นคนดีกว่าโจรอย่างแก ร้อยเท่า พันเท่า”
บิดาคือคนที่จอมขวัญรักและเทิดทูนที่สุดในชีวิต ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีงามของเธอ ไอ้โจรชั่วบังอาจมาแตะต้อง เท่ากับจุดระเบิดให้เธอเกลียดเขาเพิ่มขึ้น
“ฮึ คนดีเหรอ”
เกริกยิ้มหยัน มองลูกสาวที่เทิดทูนพ่อตัวเองราวกับเทวดาอย่างสมเพช นี่นายเลิศคงไม่เคยให้ลูกรู้ว่าตัวเอง เคยทำความชั่วอะไรไว้บ้าง
สร้างภาพเป็นคนดีให้ลูกยกย่อง แต่ต่อให้ผ่านมากี่ปี เขาก็จำได้ไม่ลืมถึงวันสุดท้ายในชีวิตของบิดาของเขา
“หมดแล้ว ไม่มีอะไรเหลือเลย ไอ้เลิศ มึงเอาของกูไปหมด มึงโกงกู มึงหลอกกู มึงทำให้กูไม่เหลืออะไรสักอย่าง ไอ้ขี้โกง ไอ้เลว!”
ภาพของนายการุณบิดาของเขาที่นั่งร้องไห้ อยู่ข้างกองขวดเหล้า พร่ำด่าแต่คนที่ทำให้ตัวเองต้องถูกฟ้องล้มละลาย
ทรัพย์สมบัติของตระกูลกัมปนาทถูกอีกฝ่ายยึดไปหมด แม่ของเขาพยายามกันเขาไม่ให้เข้าไปใกล้พ่อที่กำลังเมามาย
พ่อถูกพิษสุราครอบงำจนระบายความเจ็บช้ำในใจออกมา บ้านกำลังจะถูกยึด เขากับแม่กำลังจะไร้ที่อาศัย
พ่อก็มีสภาพยิ่งกว่าซากศพ วันๆ จมอยู่ในกองเหล้า แม่พยายามรวบรวมเงินก้อนสุดท้าย จะพาเขาย้ายไปอยู่ที่อื่น
“แม่จะพาเกริก ไปอยู่บ้านคุณตาคุณยายที่เชียงราย”
“แล้วพ่อละครับ พ่อไม่ไปกับเราด้วยเหรอครับ”
ถึงพ่อจะไม่ค่อยสนใจเขานัก แต่พ่อก็คือผู้ให้กำเนิด ย่อมมีความผูกพันทางสายเลือด เขารักพ่อไม่น้อยกว่าที่รักแม่
ยิ่งสงสารท่านมากขึ้นเมื่อเห็นสภาพน่าเวทนานั้น พ่อของเขาเป็นนักธุรกิจมีงานยุ่งตลอดเวลา ไม่ค่อยมีเวลาให้เขากับแม่
แต่พ่อก็มีของฝากให้เขาเสมอยามกลับจากทำงานที่เมืองนอก พูดคุยสั่งสอนเขาในยามอยู่ด้วยกัน
แม้จะใส่ใจน้อยแต่ไม่เคยละทิ้งให้เขาลำบาก พ่อในสายตาของเขาคือผู้ชายดูดี สมาร์ท และเก่งกาจ แต่พ่อต้องกลายมาเป็นไอ้ขี้เหล้ากำลังจะถูกฟ้อง
ไม่เหลือสภาพเดิมให้ลูกชายได้เห็น มันเจ็บปวดเหลือเกินเมื่อต้องเห็นพ่อในสภาพนั้น
