บทที่ 8 ตอนที่ 8. ค่ำคืนกลางป่า/2
“ไอ้เลิศ เกียรติก้องหล้า มันเอาทุกสิ่งไปจากพ่อ มันโกงพ่อ มันเอาสมบัติของเราไปหมด พ่อจะต้องทำให้มันสูญเสียแบบที่มันทำกับพ่อ”
พ่อพูดกับเขาในวันหนึ่งที่แม่ออกไปข้างนอก เขาไม่เข้าใจคำพูดของพ่อนัก ได้แต่มองพ่อขับรถออกไปจากบ้านในสภาพสติไม่เต็มร้อย พ่อกลับมาอีกครั้งในช่วงเย็นท่าทางร้อนรน
“ไอ้เลิศมันจะเล่นงานพ่อ มันจะเอาตำรวจมาจับพ่อ”
“ตำรวจจะมาจับคุณพ่อได้ยังไงครับ พ่อไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ครับ” เขาไม่เข้าใจที่พ่อพูด
“ไอ้เลิศมันใส่ร้ายพ่อไง มันใส่ความพ่อ มันแจ้งตำรวจจับพ่อ ไอ้สารเลวนั่นมันกำลังจะลากพ่อเข้าคุก หลังจากที่เอาสมบัติของเราไปหมด”
พ่อพร่ำด่านายเลิศไม่หยุดปาก บอกเล่าสิ่งที่โดนอีกฝ่ายกระทำให้เขารับรู้
“เกริกจำไว้นะไอ้คนชื่อเลิศ เกียรติก้องหล้า มันไม่ใช่คนดี มันทำลายครอบครัวเรา มันแย่งชิงทุกอย่างของเราไป”
พ่อดึงเขามากอดไว้แน่น นั่นเป็นกอดสุดท้ายของพ่อ ท่านจูงมือเขามาที่ห้องทำงานของท่าน จับเขาให้นั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะทำงาน ตัวท่านเดินไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง
“แก้แค้น ลูกต้องแก้แค้นให้ครอบครัวเรา ทำให้ไอ้เลิศกับครอบครัวมันสูญเสียแบบที่มันทำกับเรา สัญญากับพ่อสิ”
“พ่อ... ผม”
เขาไม่ทันจะรับปากก็เบิกตากว้าง เมื่อเห็นพ่อเปิดลิ้นชักแล้วหยิบปืนออกมา
“พ่อจะทำอะไรครับ ไม่นะพ่อ อย่า!”
ปัง!
เสียงปืนดังก้องขึ้น พ่อจบชีวิตตัวเองต่อหน้าเขา เป็นภาพสุดท้ายที่ยังอยู่ในความทรงจำของเขา
“เกริก ออกมาลูก อย่ามองคุณพ่อ ฮือ อย่ามองลูก ฮือ”
แม่มาถึงเมื่อพ่อลั่นไกสังหารตัวเองไปแล้ว แม่พาตัวเขาออกมาไม่ให้ไปดูศพพ่อ เจ้าหน้าที่พาร่างพ่อออกไปเหลือเพียงกองเลือดบนพื้นและเลือดที่เปื้อนเต็มเก้าอี้
ยี่สิบปีกับความเจ็บปวดที่ยังฝังจำในใจ รอเวลาชำระแค้น นายเลิศเอาทุกอย่างของครอบครัวเขาไป รวมถึงชีวิตพ่อของเขา
ความตายมันง่ายไป มันไม่สาสมกับที่เขาต้องเจ็บปวดมาตลอดยี่สิบปี ตัวเขาจะทำให้นายเลิศเจ็บปวดยิ่งกว่าตายทั้งเป็น
ด้วยการกระชากหัวใจของมันมาย่ำยีไม่ให้เหลือซาก ลูกสาวสุดที่รักของมันจะกลายเป็นเครื่องมือแก้แค้นชั้นดี ให้พ่อตัวเองต้องเจ็บจนแทบกระอัก
“รู้ไหมจอมขวัญ ว่าไอ้นายเลิศพ่อแสนดีของเธอ มันทำอะไรกับครอบครัวฉันไว้บ้าง” เกริกแค่นเสียงถาม
“พ่อฉันไปทำอะไรให้ครอบครัวแก”
จอมขวัญนิ่วหน้าไม่เข้าใจ ไอ้โจรป่านี่มีความแค้นอะไรกับพ่อของเธอนักหนา
“ฮึ เธอจะรู้สึกยังไง ถ้าพ่อของเธอถูกฉันโกงจนหมดตัว บ้านโดนยึด ทรัพย์สินถูกเอาไปหมด ไม่เหลือแม้แต่เศษสตางค์ติดบ้าน”
เกริกขยับลุกขึ้นนั่ง ดึงร่างบางให้ลุกขึ้นนั่งเผชิญหน้ากัน แสงจากตะเกียงไฟฉายสาดส่องใบหน้างาม ที่ยังคงไม่รู้เรื่องราวอะไร แต่ด้วยนิสัยไม่ยอมแพ้ได้ยินเขาพูดก็เถียงไว้ก่อน
“บ้าเหรอ พ่อฉันฉลาดไม่มีทางโง่ให้ใครโกงได้หรอก”
“ฮึ ใช่สิ พ่อเธอมันฉลาดแกมโกง คนโง่คงเป็นพ่อของฉันที่ถูกพ่อของเธอโกงจนหมดตัว”
“แกพูดอะไร พ่อฉันไม่มีทางไปโกงใครเขาหรอก ท่านเป็นคนดีมีธรรมาภิบาล ฉันไม่มีวันเชื่อเรื่องที่แกเล่าหรอก”
จอมขวัญส่ายหน้าไปมา ไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ตั้งแต่เกิดมาพ่อในสายตาของเธอคือคนดีมีคุณธรรม พ่อชอบช่วยเหลือคนอื่น
สอนให้เธอมีน้ำใจต่อผู้อื่น รู้จักแบ่งปัน ไม่เอาเปรียบคนด้อยกว่า จะไปคดโกงสมบัติคนอื่นย่อมเป็นไปไม่ได้
“คนดี เหอะ คนดีที่ทำให้ครอบครัวฉันต้องสูญเสียทุกสิ่ง นายเลิศ เอาทุกอย่างไปจากครอบครัวฉัน ใส่ร้ายพ่อฉัน ใส่ความจนพ่อฉันต้องฆ่าตัวตาย แบบนี้เหรอคนดีของเธอ”
เกริกระบายความอัดอั้นทั้งหมดที่เขาแบกรับออกมา เขาแค่นยิ้มหยัน มองดูใบหน้าซีดเผือดตกใจของหญิงสาวด้วยความสมเพช
จอมขวัญถูกเลี้ยงดูอย่างดี มีทุกอย่างครบ ต่างจากเขาที่กลายเป็นเด็กครอบครัวแตกแยก นี่เป็นสิ่งที่พ่อของเธอทำกับครอบครัวเขา เธอสมควรชดใช้คืนแทนพ่อ
“ไม่ ไม่จริงหรอก แกกล่าวหาพ่อฉัน”
จอมขวัญไม่ยอมเชื่อ หญิงสาวมองหน้าคนพูดด้วยความโมโห ไอ้โจรชั่วนี่ใส่ความพ่อของเธอ ว่าร้าย กล่าวหาพ่อของเธอ ให้เธอฟัง
คนเป็นลูกรู้จักพ่อตัวเองดีที่สุด ย่อมไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด
“มันเป็นความจริง” เขาบอกเสียงเข้ม
“ไม่ ฉันไม่เชื่อ” เธอส่ายหน้าไม่รับฟัง
“มันเป็นความจริง” เขาย้ำ
“ไม่ ไม่ ไม่ ฉันไม่เชื่อ แกกล่าวหาพ่อฉัน แกแต่งเรื่องมาใส่ร้ายท่าน พ่อของฉันเป็นคนดี ท่านไม่มีทางทำเรื่องร้ายกาจแบบนั้นเด็ดขาด ฉันมั่นใจในตัวพ่อของฉัน”
จะพูดอีกกี่ครั้ง เธอก็ไม่มีทางเชื่อว่าพ่อของเธอจะเป็นคนเลวแบบนั้น
“จะเชื่อแบบนั้นก็ตามใจ แต่ขอให้รู้ว่า ฉันเอาตัวเธอมาชดใช้ความผิดแทนพ่อของเธอ หากเชื่อว่าพ่อเธอเป็นคนดีก็พิสูจน์ให้ฉันเห็นสิ บางทีฉันอาจจะยอมปล่อยเธอไปก็ได้ นอนได้แล้วฉันง่วง”
เกริกผลักร่างงามให้นอนลง ตัวเขาเอนตัวลงนอนข้างๆ ยุติการปะทะกันชั่วคราว เมื่อยิ่งพูดก็ยิ่งเปลืองน้ำลาย
