บทที่ 4 ใคร(1)
“ฝันดีนะคะแม่” ทุกคืนก่อนนอนฉันจะบอกฝันดีกับรูปแม่ทุกครั้ง
“ข้าวคิดถึงแม่จังเลยค่ะ” แต่วันนี้คงเพราะเจอเรื่องแย่ ๆ มา มันเลยทำให้คิดถึงแม่มากกว่าทุกวัน
ฉันกอดรูปแม่แบบนั้นอยู่นานก่อนจะวางไว้ที่เดิมแล้วปิดไฟ ค่อย ๆ หลับตาบอกตัวเองให้ลืมทุกอย่าง ฉันพยายามข่มตานอนแต่ไม่ว่ายังไงก็นอนไม่หลับ ได้แต่นอนหลับตาอยู่นิ่ง ๆ
ฉันนอนนิ่ง ๆ กึ่งหลับกึ่งตื่น ความรู้สึกตอนนี้เหมือนกำลังมีใครมองอยู่ แต่ก็คงคิดไปเอง นี่มันห้องฉันและฉันก็ล็อกประตูหน้าต่างเรียบร้อยแล้ว อีกอย่างรหัสห้องก็ไม่ได้บอกใครแม้แต่ทอฝัน
คนเดียวที่รู้ก็น่าจะเป็นผู้จัดการคอนโด ซึ่งไม่มีทางที่เขาจะเข้าห้องคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะอยู่ที่นี่มาสักระยะก็ไม่มีปัญหาแบบนี้ และคอนโดนี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยเพราะมันเป็นคอนโดของเพื่อนอาหมอ
ตึก! ตึก!
แต่หูฉันกลับได้ยินเสียงฝีเท้าใครบางคนเดินอยู่นอกห้อง ก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอน
“ฉันไม่ได้ฝันไปแน่ ๆ” ร่างบางรีบดีดตัวลุกจากเตียงเดินไปเปิดไฟ ก่อนจะหาอะไรที่พอจะป้องกันตัวติดมือออกไปด้วย
แกร๊ก!!!!!
สองเท้าค่อย ๆ เปิดประตู กวาดสายตามองซ้ายขวาแต่ไม่มีอะไร สงสัยคงคิดมากไปเอง
“เหมียว!!!”
“ออเดรย์!! แอบเข้ามาในห้องพี่ข้าวอีกแล้วนะ!!” ฉันเดินไปอุ้มเจ้าออเดรย์แมวน้อยขี้อ้อน
“พี่ฟ้าคงไม่อยู่อีกละสิ ถึงแอบหนีมาห้องพี่แบบนี้” เวลาพี่ฟ้า พยาบาลสาวสวยที่อยู่ข้างห้องไม่อยู่ ออเดรย์จะชอบปีนระเบียงห้องมาหา และวันนี้ก็คงลืมปิดประตูระเบียงอีกตามเคย เจ้าออเดรย์ถึงเข้ามาในห้องได้
“รู้มั้ยทำพี่ข้าวตกใจแทบแย่”
“เหมียว! เหมียว!” เจ้าออเดรย์ทำหน้าหงอย คงอยากจะบอกว่าขอโทษ
“ไปนอนที่เดิมแล้วกันนะ” ฉันอุ้มออเดรย์ไปที่ห้องรับแขกก่อนจะวางมันลงที่เบาะนอนที่ซื้อมาไว้ให้มันนั่นแหละ เพราะชอบพาเจ้าเหมียวน้อยมาเล่นที่ห้องบ่อย ๆ
“นอนนะ ตอนเช้าพี่ข้าวจะไปส่งที่ห้อง” ฉันลูบหัวและส่งยิ้มให้มันก่อนจะเดินเข้าห้องนอน
“ห้าทุ่มแล้วเหรอเนี่ย” พอมองดูนาฬิกาก่อนจะเดินเข้าห้อง คือพรุ่งนี้มีกิจกรรมแต่เช้าด้วย ต้องรีบนอนแล้วล่ะ
“ว้าย!!!!” แต่ต้องร้องเสียงหลงเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปแล้วมีใครก็ไม่รู้กระชากแขนจนตัวลอย ก่อนเขาจะเหวี่ยงร่างเล็กลงเตียงอย่างแรง
“คะ..คุณ!!” ฉันตกใจรีบถอยกรูดหนีจนหลังติดขอบเตียง
“คุณเป็นใคร แล้วเข้ามาในห้องฉันได้ไง” ฉันถามเขาและลุกขึ้นจะวิ่งออกไปนอกห้อง แต่เขาจับขาฉันแล้วออกแรงลากให้อยู่ใต้ร่างเขาทันที
“จะไปไหน?” เขาเลิกคิ้วจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง เขาน่ากลัวมาก แววตาเย็นยะเยือกคู่นั้นมันทำให้ฉันกลัวมากจริง ๆ
“ไม่อยากรู้แล้ว?” เขาจ้องตาเขม็ง สายตาคมเข้มมองฉันไม่ละสายตาทำเอาฉันกลัวจนตัวสั่น
“อยู่เฉย ๆ” เขาจับแขนกดไว้ทั้งสองข้างเพราะฉันดิ้นพยายามจะลุกออกจากตรงนี้
“.......” เขามองมาที่หน้าอกแล้วยิ้มอย่างพอใจ เพราะวันนี้ฉันใส่เสื้อสายเดี่ยวกางเกงนอนขาสั้น
“ปล่อยนะ! ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต!!” ฉันดิ้นพยายามให้หลุดจากพันธนาการเพราะตอนนี้เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ ใกล้จนลมหายใจอุ่นเป่ารดใบหน้า ลมหายใจร้อนผ่าวที่ถูกพ่นออกมามันยิ่งสร้างความหวาดกลัวเข้าไปอีก
“หยุด!!! ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” เขาปล่อยมือฉันข้างหนึ่งก่อนจะเอามือมาบีบปาก
“ฮื่อ...ปะ ปล่อย” ฉันเอามือทุบไหล่เขา พูดเสียงอู้อี้ เขาเงียบไม่พูดอะไรเอาแต่จ้องหน้าเขม็งก่อนจะออกแรงบีบปากอย่างแรง
“ฮื่อ ๆๆๆ” ฉันดิ้นไม่หยุด เอามือทุบหลังเขาเมื่อเขาประกบปากจูบดูดเม้มริมฝีปากอย่างแรงพร้อมกับสอดดันลิ้นเข้ามาในโพรงปาก
งับ!!!
“โอ๊ย!! ยัยเด็กบ้า เธอกล้ากัดฉันเหรอ” ฉันกัดปากเขาอย่างแรงก่อนจะผลักเขาจนเซแล้วรีบลุกวิ่งไปที่ประตู
“มานี่!!” แต่เขาไวกว่าคว้าแขนก่อนจะดึงเข้าไปกอด
“หึ...กล้ามากนะ” เขาล็อกตัวฉันแน่นจนฉันขยับตัวไม่ได้ หายใจแทบไม่ออก
“ปล่อยนะ!!” ฉันพยายามดิ้นแต่ยิ่งดิ้นเขายิ่งรัดแน่น
“เธอจะรับผิดชอบยังไง!” สายตาเย็นยะเยือกจ้องหน้า ก่อนเขาจะเอานิ้วปาดริมฝีปากเขาที่มีเลือดไหลซึมออกมา
