บทที่ 7 น่ากลัว(2)
“พี่เขาจะมาดูแลธุรกิจแทนพ่อสักระยะ เพราะพ่อต้องไปรักษาตัวที่อเมริกา” พ่อดูเครียด ๆ ที่จริงก็พอจะรู้เรื่องที่พ่อไม่สบายอยู่บ้าง แต่ไม่คิดว่าพ่อจะเป็นหนักขนาดนี้
“ในเมื่อข้าวตัดสินใจจะดูแลบริหารงานแทนพ่อ พ่อก็เบาใจ แต่ข้าวยังเด็กและยังเรียนไม่จบ พ่อเลยให้พี่เขามาช่วยดูแลระหว่างที่พ่อไม่อยู่” พ่อยิ้มให้อย่างอบอุ่น
ฉันพูดอะไรไม่ออก ที่พูดออกไปแบบนั้นเพราะแค่อยากเอาชนะผู้หญิงคนนั้นที่ตอนนี้เธอดูอารมณ์ดีแปลก ๆ
พ่อเป็นคนที่ไม่ไว้ใจใครง่าย ๆ คนที่จะมาดูแลงานและสอนคงต้องเป็นคนดีและเก่ง พ่อถึงไว้ใจแบบนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
“ค่ะ พ่อไม่ต้องห่วงข้าวนะคะ” ฉันยิ้มให้พ่อเพื่อให้พ่อสบายใจจะได้ไม่ต้องคิดมาก
“ขอโทษครับที่ผมมาช้า” ฉันนิ่งทันทีที่ได้ยินเสียง มันเหมือนกับเสียงเขาคนนั้น แต่คงคิดมากและกลัวเขามากไปเลยได้ยินเสียงใครก็เป็นเขาไปหมด
“นี่ไงข้าว คนที่จะมาทำงานและสอนข้าว” ฉันหันหน้าและยกมือไหว้แต่ต้องตกใจเบิกตากว้าง
“สวัสดีครับคุณลุง” เขายกมือไหว้พ่อก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากมองหน้าฉัน เขาไม่ได้ตกใจหรือแปลกใจอะไรที่มาเจอฉันที่นี่ เป็นฉันต่างหากที่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
“นั่งก่อนสิลูก ทานอะไรมารึยัง แม่สั่งให้มั้ย”
“ลูกเหรอ?” ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันมองหน้าพ่อกับผู้หญิงคนนั้น แต่ได้แค่คิดในใจเพราะตอนนี้สายตาเย็นชาคู่นั้นจ้องมาที่ฉันไม่ละสายตา ทำเอาฉันถึงกับต้องนั่งตัวแข็งแทบกลั้นหายใจ
“ข้าวเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมหน้าซีด ๆ” พ่อเอ่ยถามเพราะคงเห็นฉันเงียบ
ตอนนี้มันเหมือนคนไม่มีสติ นั่งนิ่งขนาดพวกเขาคุยอะไรกันยังไม่รู้เรื่อง ฉันตัวชาหูอื้อไปหมด รู้แค่ว่าเขาเป็นลูกติดของแม่เลี้ยงและเขากำลังจะเข้ามาบริหารงานแทนพ่อที่ต้องไปรักษาตัว ถึงพ่อจะเซ็นมอบอำนาจให้แล้ว แต่ด้วยอายุฉันที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยต้องให้เขาเป็นคนดูแล
“ขะ..ข้าวรู้สึกไม่สบาย ข้าวขอตัวกลับก่อนนะคะ” ฉันบอกพ่อพร้อมลุกขึ้นทันที
“ให้พี่ไปส่งสิข้าว มันดึกแล้วเป็นผู้หญิงมันอันตราย” แต่ไม่ทันที่จะก้าวเท้าออกไป แม่เลี้ยงฉันก็พูดขึ้นก่อน
“พ่อว่าก็ดีเหมือนกัน คอนโดพี่เขาก็อยู่ทางเดียวกันกับข้าวด้วยนี่” แล้วพ่อก็เห็นดีเห็นงามไปกับแม่เลี้ยงด้วย โดยที่ไม่รู้เลยว่าคนที่อันตรายที่สุดคือเขานั่นแหละ
“ไม่เป็นไรค่ะ ข้าวเกรงใจ อีกอย่างคุณน้าคงอยากคุยกับลูกชาย ข้าวขอตัวนะคะ” ฉันหันไปพูดกับพ่อ ไม่กล้ามองหน้าเขาแต่สายตาเขามันมองมาที่ฉันตลอดจนทำตัวไม่ถูก รู้แค่ว่าต้องออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
“เดี๋ยว!!” ฉันที่กำลังจะก้าวเท้าแต่ต้องหยุดนิ่งเพราะตกใจ ไม่รู้ว่าเขามายืนอยู่ข้าง ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่
“งั้นผมขอตัวกลับเลยแล้วกันครับ” เขาหันไปพูดกับพ่อก่อนสายตาดุ ๆ จะมองมาที่ฉัน
“เดี๋ยวผมไปส่งเธอให้ ดึกแล้วมันอันตราย!!” เขาพูดกับพ่อก่อนจะเน้นคำว่าอันตรายแล้วหันมาทางนี้
“ไม่เป็นไรค่ะ ข้าวกลับเองดีกว่า” ฉันรีบปฏิเสธและเดินออกไปทันที
“..บอกว่าจะไปส่ง!!” เขาจับแขนไว้ก่อนจะพ่นลมหายใจแรง ๆ น้ำเสียงดุดันอย่างไม่สบอารมณ์ออกมา
“ข้าวให้พี่เขาไปส่งดีแล้วลูก พ่อจะได้สบายใจ” พ่อเดินมาหา
“ฝากดูน้องด้วยนะ ลุงไม่อยู่คงต้องฝากเราดูแลน้องด้วย” พ่อพูดและยิ้มให้เขา
“ครับคุณลุง ผมจะดูแลเธอให้เป็นอย่าง..ดี!!” เขาพูดและยิ้มให้พ่อก่อนสายตาเลือดเย็นจะจ้องอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“ไป ฉันจะไปส่ง” เขาพูดเรียบ ๆ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูแล้วเดินออกไป
“......” ฉันยืนนิ่งไม่กล้าขยับ ขาอ่อนแรง สายตาดุดันเย็นยะเยือกจ้องมาและส่งสายตาให้เดินตามเขาไป
ฉันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะกลั้นใจเดินออกจากห้อง เพราะพ่อกำลังมองอยู่และฉันก็ไม่อยากให้พ่อคิดมากและเป็นห่วง ถ้าบอกเรื่องที่เขาทำให้พ่อรู้ อาการพ่ออาจแย่กว่าเดิม
ก่อนสองเท้าจะเดินออกจากห้อง ฉันหันไปมองแม่เลี้ยงที่ยิ้มอย่างพอใจ และตัดสินใจเดินออกจากห้องและเดินตามเขาไป
“จะไปไหน!!” แต่เหมือนเขาจะรู้ว่าฉันคิดจะทำอะไรเมื่อกำลังจะวิ่งไปขึ้นรถแท็กซี่ แต่เขากลับคว้าแขนไว้ก่อนจะลากไปที่รถของเขา
“อย่าคิดทำอะไรที่จะทำให้ตัวเองเจ็บตัว”
“ยังไงเธอก็หนีฉันไม่พ้น” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ พูดสั่งเสียงแข็งก่อนจะปิดประตูรถอย่างแรงแล้วเดินอ้อมไปขึ้นอีกฝั่ง
ฉันมัวแต่นั่งอึ้งกำลังจะเปิดประตูรถแต่เขาเข้ามาก่อน
“พูดไม่รู้เรื่อง?” เขาเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มจ้องหน้าตาเขม็ง
“ข้าวกลับเองได้” ฉันรีบเปิดประตูแต่เขาล็อกไว้
“เรื่องมาก!!” เขาจ้องหน้าอย่างหงุดหงิด ก่อนจะโน้มตัวเอื้อมมือไปดึงเข็มขัดนิรภัย
“......” ฉันนั่งนิ่งแทบไม่หายใจเพราะตอนนี้หน้าเขากับฉันมันใกล้กันมาก จนลมหายใจอุ่นที่เขาพ่นรดจนผมหน้าผากปลิว
“กลัว?” เขาเลิกคิ้วจ้องหน้าถาม ยังจะมาถามอีกไม่รู้รึไงว่าตัวเองน่ากลัวแค่ไหน
“อย่านะ!!” ฉันเอามือขึ้นมาปิดปากตัวเองเพราะเขาทำท่าจะจูบ
ฟอด!!
“หึ….” เขาหอมแก้มอย่างแรง ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากแล้วขับรถออกไปด้วยความเร็วสุดเข็มไมล์
