บทที่ 8 มายา
" คุณ..เป็นใครน่ะ " เสียงอู้อี้ที่ผ่านการร้องไห้มานานถามขึ้น
ในขณะเจ้าตัวใช้ผ้านวมพันร่างกาย ช้อนตาจากท่ากอดเข่าขึ้นมองเคลด้วยสภาพหัวยุ่ง
"..."
เคลถึงกับเงียบกริบไปไม่ถูก มองสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเขามีส่วนก่อตั้ง ไม่คิดว่ารัลโด้กับเพื่อนอีกสองคนจะทำถึงขนาดนี้ได้ สงสารจับใจ หดหู่จริงๆ
" จะมาทำหนูอีกคน..."
" เปล่าฮะ " รีบแทรกทันควัน ก่อนคนตรงหน้าจะเดาไปไกล
" ผมมา... เอ่อ มาช่วยคุณ.."
ถึงกับเสียงหาย เพราะอีกประโยคคำถามนี้ ที่พรีมเอ่ยมันออกมาพร้อมน้ำตา
" ช่วย...ฮึก ช่วยทำไม "
ก่อนร่างสูงในชุดลำลองดำทั้งชุดจะเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ พรีมทำท่าจะกระเถิบหนี ทว่า..
" ผมขอโทษ.."
เคลกลับเอ่ยคำนี้ พร้อมอุ้งมือใหญ่ที่เข้าไปยื้อต้นแขน ทำเจ้าตัวชะงักกลางคันแล้วหันมามอง
" ขะ ขอโทษทำไม.."
" เอ่อ... คือ.."
" คุณเป็นเพื่อนพวกนั้นเหรอ"
พรีมชิงถาม ปริ่มๆเหมือนจะร้องไห้ ก่อนจะร้องจริงๆก็ตอนเคลตอบ
" ใช่..ครับ "
หน้าสลดไม่ต่างกัน ก่อนจะยื่นมือไปปาดน้ำตาให้ แล้วบังคับหัวเธอเข้ามาซบไหล่
" ขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะ "
" ฮึก..ฮือๆ "
เคลเงียบไปอึดใจหนึ่ง เสมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างเพื่อความแน่ใจ แล้วตัดใจพูดคำนี้ออกมา ที่ทำหัวใจพรีมพองโต
" ต่อไปนี้..ผมจะดูแลคุณเอง "
ทว่า.. ความหมายมันคนละอย่างกัน เคลแค่เอ็นดู ทว่าพรีม
" ฮึก..."
คิดไปไกลแล้ว และเอ่ยคำนี้ออกมา ที่ทำให้พรีมสะอื้นไห้หนักกว่าเดิม
" ใส่เสื้อผ้านะ"
"..."
" บ้านคุณอยู่ไหน เดี๋ยวผมไปส่ง " ก่อนจะผงะจากกัน เป็นอันว่าเข้าใจ
" ..."
" ผมไปรอห้องรับแขกนะ " เคลบอก ก่อนพรีมจะพยักหน้าหงึกหงัก
" ค่ะ.."
...เที่ยงเศษๆ...
รถคันหรูแล่นมาจอดเทียบป้ายมหาลัย ก่อนพรีมจะยกมือไหว้คนขับ เคลถึงกลับขมวดคิ้ว ตัดสินใจถาม ทนไม่ไหวต่อความสงสัยที่เก็บไว้มานาน
" น้องพรีมอยู่หอพักในนี้น่ะรึครับ " ก่อนสาวเจ้าจะพยักหน้าเบาๆแล้วยิ้ม
" ใช่ค่ะ "
นั่นสร้างความสงสัยให้เคลอีกประมาณนึง ...อย่าบอกนะว่ามาจากต่างจังหวัดอีก...
" พรีมมาจากต่างจังหวัดค่ะพี่เคล "
" หืม.."
และก็จริงด้วย เคลถึงกับเปลี่ยนสีหน้าทันทีทันใด เม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะพยักหน้าหนักๆ เป็นอันว่าเข้าใจ ซึ่งอันที่จริง เขาอยากจะสัมภาษณ์เธอต่อมากกว่า ทว่า..ดูจากอารมณ์ของพรีมแล้ว... อย่าเลย...
" มีอะไรให้ช่วยก็โทรหาพี่ได้ตลอดเวลานะครับพรีม อย่าเสียใจนานนักนะ เดี๋ยวหน้าจะโทรมเอา "
ก่อนแกมสั่งแกมแหย่ ในขณะที่พรีมปลดเข็มขัดออก
" ขอบคุณนะคะ " แล้วลงจากรถไป
" เสียงคุ้นจริงวะ .."
ซึ่งนั่นไม่ได้ทำเคลนั้นหายสงสัยเลย เขายังไม่เหยียบคันเร่งออก จนกว่าแผ่นหลังนั่นจะลับตา ส่วนในสมองครุ่นคิด ...ทำไมอยู่ดีๆ เขาเกิดนึกถึงผู้หญิงคนนึงขึ้นมา คนที่มีประวัติคล้ายๆแบบนี้...
" เห้ย ไม่ใช่หรอกมั้ง..แค่เรียนที่เดียวกันน่า "
เหยียบคันเร่งออก หลังจากพึมพำกับตัวเองอยู่นาน เพื่อจะบึ่งไปหาสามคนนั่น
...ฝั่งทางด้านพรีม ...
หลังจากเดินมาถึงห้อง เธอหยุดขาตัวเองพักหนึ่ง ก่อนจะจัดแจงชุดสีแดงตัวเดิมให้เข้าที่ พร้อมทรงผมที่มัดมาลวกๆให้หายยุ่งเหยิง จากนั้นก็ทำการเคาะประตู และแสร้งทำตัวให้ปกติที่สุด
ก็อก ก็อก ก็อก
แอด...
จนกระทั่งบานประตูเปิดออก
" แฮ่... ^^ "
" พรีม!!! แกหายไปไหนมา! "
พร้อมกับหน้าจิ้มลิ้มของเพื่อนสนิทที่โผล่ออกมาแล้วหน้าตาตื่นภายหลัง
" ใจเย็นๆขิม ใจเย็นๆ "
เธอดึงพรีมเข้ามาในห้องพร้อมปิดประตูลงเต็มกำลัง ก่อนจะทำการตรวจเช็คร่างกาย และพ่นคำถามใส่พอๆกับปืนกล
" ไปไหนมา ทำไมถึงกลับเอาป่านนี้ "
ชนิดที่ว่ากระสุนหมดแม็กแล้วก็ยังจะใส่ใหม่
" เดี๋ยวสิ ขอฉันนั่งพักก่อน "
ในที่พรีมแถ ทำทีหาที่นั่ง ถ่วงเวลาไว้ อันที่จริงท้องเธอน่ะหน่วง
" แกเป็นอะไรน่ะ " ซึ่งนั่นทำขิมงงไม่เบา
" เปล่า แค่เดินมาเหนื่อย"
" หืม เดินมาจากไหน "
" หน้ามหาลัยน่ะ "
" มากับใคร ใครมาส่ง "
ก่อนขิมจะพ่นคำถามนี้ จับแขนจับมือด้วยความเป็นห่วง ได้ทีพรีมยิ้มกว้าง ถือโอกาสตรงนั้นพูด
" กับแฟนน่ะ แฟนมาส่ง.. ^^"
ซึ่งทำเอาคนฟังอย่างขิมถึงกับชะงัก ขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปม แล้วถามเสียงหาย
" แฟน... มีตอนไหนวะ..."
" ขออาบน้ำก่อนได้มะ เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟัง.."
จบประโยคปล่อยขิมค้างนั้น เธอก็วิ่งเข้าห้องน้ำทันที
..น่าแปลก เมื่อคืนขิมเจอเรื่องร้ายๆมาขนาดนี้ บ่ายนี้กลับยิ้มได้
... หรือนี่เธอจะทำใจได้แล้ว เลยไม่คิดจะเล่าเรื่องที่ตัวเองพลาดมาให้เพื่อนสนิท..ฟัง...
ให้ตายสิพรีมนี่ " สตรอง " จริงๆ
สิบห้านาทีหลังจากนั้น พรีมออกมาจากห้องน้ำ รอยแดงจ้ำช้ำเลือดที่เกาะตามเนินอกนั้นทำขิมถึงกับตกใจ เธอเผลอลุกขึ้นมาจากท่านอน ดีดตัวยิ่งกว่าสปริงเหล็กในเบาะซะอีก
" พรีม.. นั่นแก.."
" หืม.."
ก่อนเจ้าตัวจะเบิกตากว้างอึดใจนึงตอนก้มลงไปมอง แล้วเห็นมันชัดเจน ลืมตัวไปเสียสนิทกับเรื่องที่เกิดขึ้น จะปิดตอนนี้ก็คงไม่ทัน ลำบากใจเธอต้องควักมารยาร้อยเล่มเกวียนซึ่งแฝงอยู่ในสายเลือดออกมาใช้จนได้
" นี่อย่าบอกนะว่าแกกับแฟน.. "
แสร้งทำหน้าสลดตาละห้อย แล้วเดินเข้าไปหา
" อย่าบอกพ่อกับแม่ฉันนะ..."
" ให้ตายเถอะพรีม! ทำไมถึงได้ไวอย่างนี้ "
ในขณะคนฟังอย่างขิมถึงกับอึ้ง มองหน้าเพื่อนสนิทไม่อยากจะเชื่อ
" คือฉัน... ก็ ..ก็เขาหล่องะ "
เม้มปากมองคนพูดไปไม่ถูก ก่อนนักแสดงระดับห้าดาวควรจะได้โล่อย่างพรีมยังไม่เลิกรา แถต่อเนื่องซะจนขิมเชื่อสนิท
" เออ..ก็แล้วแต่แกเถอะวะ โตๆกันแล้วอ่า "
พูดออกมาเสียงแผ่วพลางพยักหน้าให้ แล้วล้มลงไปนอนที่เดิม
" ขอบใจนะ "
" ไม่ต้องขอบใจฉันหรอก ขอบใจฉันทำไม นั่นมันร่างกายแก ว่าแต่แฟนแกชื่ออะไรเหรอ ว่างๆพามาเจอกันหน่อยสิ "
ทว่า ต้องมาดีดตัวใหม่เพราะประโยคนี้ ที่พรีมเอ่ยออกมาอย่างภาคภูมิใจ
" ชื่อเคลน่ะ "
พรวด!!!
" ..."
" เอ๋..แกเป็นไรน่ะขิม อยู่ๆก็เด้งตัวขึ้นมาเฉย ตกใจหมดเลย "
เบิกตาโตพยายามนึก ก่อนจะเก็บความสงสัยนั้นไว้ แล้วส่ายหน้า
" ปะ เปล่า.. คือฉันแค่จะบอกแกว่าพี่คนนั้นที่แกไปชนเขาวันก่อนในสนามบินน่ะ เขาเป็นลูกเจ้าของร้านที่ฉันจะไปทำงานนะ "
ยิ้มแห้งๆ เหมือนภูมิใจซะเต็มประดาที่ตัวเธอนั้นเปลี่ยนเรื่องคุยได้ พยายามกลบเกลื่อนความตกใจเมื่อกี้ไว้ด้วยการล้มตัวลงไปนอนใหม่
" จริงเหรอ! "
ก่อนจะสะดุ้งอีกที เพราะเสียงดีใจมากเกินไปของพรีม
" โลกกลมจังเลยเนอะ.."
ในขณะหัวขิมตอนนี้เต็มไปด้วยชื่อที่ว่านั้น พลางคิด ถ้าแฟนพรีมเกิดเป็นคนเดียวกันกับที่เธอเจอล่ะก็ เธอไม่อยากจะบอกพรีมเลย ว่าเขาคนนั้นน่ะกำลังขาดขา เพราะเมื่อวานนี้ เขาเพิ่งจะมาชวนเธอไปสมัครอยู่เลย
" คงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง.."
ก่อนเจ้าตัวจะพึมพำ หลังที่พรีมเดินห่างไปแต่งตัวแล้ว
....เช้าอีกวัน....
ขิมตื่นตั้งแต่เจ็ดโมง เพราะต้องเริ่มงานวันแรก น่าแปลกที่วันนี้เธอไม่ได้แหย่ให้พรีมตื่นอย่างเช่นครั้งก่อน แต่กลับรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วย่องออกมาเลย เดินลัดเลาะไปตามถนนไม่ถึงกิโล ขิมก็มาถึงจุดหมาย ร้านของสปอร์ตเปิดตั้งแต่เก้าโมงเป็นต้นไป และปิดอีกทีก็ตอนสี่ทุ่ม บรรยากาศร้าน การตกแต่งร้านบอกเลย สไตล์หัวกะทิอย่างเจ้าของ..เกินคำบรรยาย
...ดีทุกอย่างแม้แต่กลิ่นปรับอากาศที่ออกมาจากแอร์...
" หืม.."
เสียงอุทานที่เกิดขึ้นจากลำคอขิม นั่นมาจากความแปลกใจที่เธอเผลอไปเห็นใครบางคนยืนก้มๆเงยๆอยู่ในนั้น กริ๊ง.. ก่อนจะผลักประตูเข้าไปแล้วยิ้มหวาน ในขณะคนข้างในหันมาตามเสียงกระดิ่ง
" เห้ย..ขิม ทำงานเก้าโมงไม่ใช่เหรอ นี่ยังแปดโมงอยู่เลย มาไวแท้ "
สปอร์ตยิ้มทักทายอย่างดีใจ ยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกา
" พี่สปอร์ตนั่นล่ะ ว่าแต่คนอื่น ทำไมถึงมาเช้า "
" แน่ะ มีย้อนถาม ก็บ้านพี่อยู่นี่ "
" จริงอ้ะ "
ขิมหรี่ตาจับผิด มองกระป๋องแอลกอฮอลล์ที่กองเรียงรายเกลื่อนไปทั่ว
" ไม่ใช่ว่าเมาจนกลับบ้านไม่ถูกหรอกเหรอคะ "
" อ๊ะ! " ถึงขั้นสปอร์ตอุทาน ยกมือเกาหัวอย่างเลี่ยงไม่ได้ " รู้ทันจริงๆ "
" ฮ่าๆๆ งั้นขิมเก็บให้นะคะ "
" เฮ้ย! ไม่ต้องหรอกๆ พี่กินเองพี่เก็บเองได้ "
สปอร์ตรีบโบกมือห้ามทว่า กลับไม่ทัน ขิมปลดสายสะพายเป้ออกจากไหล่ ก่อนจะเดินไปหยิบถุงดำ แล้วทยอยเก็บ
" ไม่เป็นไร..ขิมอยากทำ "
" เอ่อ.."
นั่นเลยสร้างความประทับใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ สปอร์ตมองเพลินซะจนลืมไปเสียสนิทว่าทีแรกตัวเองตั้งใจจะทำอะไร
" เอ้อขิม "
" คะ?"
มานึกออกอีกทีก็ตอนเวลาเลยผ่านไปไกลแล้ว
" เดี๋ยวพี่กลับบ้านก่อนนะ พอดีมีอีกสาขานึงที่พี่ต้องไปเคลียร์น่ะ เมื่อคืนถูกโจรปล้น ขิมอยู่คนเดียวไปก่อนได้ใช่มั้ยครับ "
" ห๊ะ! "
" ไม่ต้องมาห๊ะหรอก ถ้าอยู่ไม่ได้ก็บอก "
" บ้ารึพี่ ไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อย ขิมก็แค่ตกใจตรงคำว่าโจรปล้น "
" อ่อ.. ฮ่าๆๆ "
" แล้วเป็นยังไงบ้างคะ จับคนร้ายได้ไหม "
" ตอนนี้ยังลอยนวล แต่คิดว่าคงไม่ช้า เพราะหลักฐานจากกล้องวงจรปิดเห็นหน้าชัดเจน "
" อ่อ โอเคค่ะ "
" ขิมอยู่คนเดียวได้ใช่ไหมครับ "
" ได้ค่ะ ^^ สบายมาก "
ขิมตอบยิ้มๆ ก่อนจะก้มลงไปเก็บกวาดร้านต่อ
จนกระทั่งเก้าโมงเช้า ถึงเวลาหมุนป้ายเปิด
กริ๊ง
เสียงกระดิ่งดังไล่หลังเธอเข้ามาติดๆ ก่อนสาวเจ้าจะหันไปยิ้มหวานจะต้อนรับ
" สวัสดีค่ะ ^^ " ทว่า ต้องหุบยิ้มลงทันควัน
" หืม ทำงานที่นี่หรอกเหรอนี่ "
" นี่คุณ!"
" เฮ้ย อย่ามองผมแบบนั้นสิ ผมแค่มาหาซื้อไม้ตีกอล์ฟ "
" มองแบบไหนไม่ทราบ " ขิมเชิ่ดปลายจมูกถาม สีหน้าดูไม่ค่อยจะพอใจ
" ก็เหมือนผม เป็นไอ้โรคจิต..น่ะสิ "
ก่อนจะหลุดขำออกมาด้วยประโยคนี้ ที่คนตรงหน้าเดาถูกใจ
" คุณนี่เก่งจังเลยนะคะ สามารถอ่านใจหนูได้ด้วย "
" ขิม.."
แต่แล้วต้องกลับมาทำตาขึงใส่อีกครั้ง พร้อมคำสั่งห้วนๆนี้
" อย่ามาเรียกชื่อเล่นหนูนะ "
" ...."
" คุณไม่ได้สนิทกับหนูขนาดนั้น" มองคนตรงหน้าจะเอาเรื่อง
....ซวยแต่เช้าเลยฉัน....
พร้อมกับความคิดในใจ
