บทที่ 9 มวยถูกคู่
เคลถึงกับเงียบกริบกับประโยคนี้ที่สาวเจ้าเน้นคำซะเขาเกือบหลุดขำ พลางเท้าสะเอวเตรียมทำศึกหนัก โดยการยียวนกวนประสาทกลับไป
" ต่อยปากผมซะเลือดกลบ นี่ยังไม่สนิทกันอีกเรอะ! "
เชยคางขึ้นท้าทายจะเอาเรื่อง ในขณะขิมเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน
" แล้วใครใช้ให้คุณปากมอมก่อนล่ะคะ ช่วยไม่ได้ "
ลอยหน้าหน้าลอยตาถาม ทำเอาเคลถึงกับอึ้ง
" นี่คุณว่าผมเป็นหมาเหรอ "
" คุณพูดเองนะ "
" ขิม!"
" บอกแล้วไงอย่าเรียกชื่อ! ถ้าไม่สนิทน่ะ..."
" งั้นเดี๋ยวผมทำให้สนิทเอง "
จบคำพูดของเคลแค่นั้น ข้อมือเล็กของขิมก็ถูกกระชากทันที ความแรงของมันทำคนที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับถลาเข้าไปชนแผงอก ก่อนจะ...
" อ๊ะ.. อุ๊บ!! O.O "
ค้างกลางอากาศ เพราะปากเธอถูกปิด
"..."
" อื้อออ! "
กว่าจะตั้งสติได้ เวลาก็วิ่งไปมากกว่าสิบวิแล้ว มือเล็กๆคู่นั้นถึง จะรัวกำปั้นใส่
ปึงๆๆ
" อึก!!"
ชนิดที่ว่า สุดแรงและไม่มีอั้น ทว่า ..กลับดิ้นไม่หลุด เพราะแรงชายมันมากกว่าเยอะ แถมตะปบหน้าเธอไว้อีกด้วย จนกระทั่งเคลดูดดื่มแบบสาแก่ใจ ถึงจะปล่อยเป็นอิสระ
" แฮ่กๆๆ"
ถึงขั้นสาวเจ้าถอยหลังมายืนหอบเหมือนวิ่งมาไกลเป็นร้อยเมตร ชี้หน้าคนตรงข้ามที่ยืนเลียปากตัวเอง ด้วยความโมโหสุดขีด
" กะ..แก.."
" หืม..เอาแค่คุณก็พอ อย่าถึงกับใช้คำหยาบกันเลย รึจะเรียกพี่ก็ได้นะ ดูสนิทดี " ในขณะเคลไม่ได้สะท้กสะท้านอะไรสักนิด
" ออกไปจากร้านเดี๋ยวนี้เลยนะ!"
แถมยังเดินเข้าไปใกล้อีก เล่นเอาขิมถึงกับถอยหลังกรูด
" นี่คุณกล้าไล่ผมเหรอ "
" ยิ่งกว่ากล้าซะอีก "
ผั้ว!!!
ชกหน้าเคลเต็มเป้า จนหน้าเขาหัน ก่อนตัวเองจะสะบัดมือเพราะต่อยผิดท่า
" อึก! บ้าเอ๊ย! "
กัดฟันข่มความเจ็บไว้ ทำเอาเคลถึงกับลืมโกรธ ถลาเข้าไปจับมือ
" ขิม เป็นอะไรมากรึเปล่า ไหนผมดู "
" ปล่อย อย่ามายุ่งกับฉัน " ทำท่าจะผลักอก แต่ทว่า
" อ๊ากกก!"
" มือพลิก..ไปหาหมอเถอะ"
" ไม่โว้ยยย ปล่อย!"
ในขณะที่ตัวเองเจ็บแทบแย่ แต่เธอกลับเลือกที่จะดื้อ เพราะความโกรธที่เคลถือวิสาสะทำกันเมื่อกี้นี้แท้ๆ ทว่า ดูเหมือนเคลเองก็ไม่ยอมเช่นกัน หยิบกระดาษโน๊ตขึ้นมาเขียนหยิกๆ รวดเดียวจบ พลางวางมันไว้บนโต๊ะ ก่อนจะพุ่งเข้ามาอุ้มขิมพาดบ่า
" นี่ทำอะไรน่ะ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ ฉันต้องเฝ้าร้านให้เค้าาาา"
" เดี๋ยวผมสั่งลูกน้องให้มาเฝ้าให้ คุณน่ะไปโรงบาลก่อนเหอะ!"
" ม่ายยยย"
...โรงพยาบาล...
สรุปพยาบาลจับทำแผลทั้งคู่ ข่าวลือขนาดย่อมความเสียหายไม่ไกลมาก แถมระยะเผาขน
...พวกเขาเข้าใจกันว่าผัวเมียทะเลาะกัน ...
นั่นเพราะฝ่ายหญิงเจ็บที่มือ ต้องใช้ผ้าก็อตพันไว้สักพัก ส่วนฝ่ายชายบวมเป่งที่มุมปาก ซึ่งใครเห็นใครก็รู้..
เมียเขาหึงโหดแค่ไหน ทว่า..
" มองอะไรคะคุณหมอ "
เสียงสาวเจ้าของเรื่องกัดฟันถามขึ้น หลังจากสังเกตุเห็นหมอลอบมองเธออยู่นาน แถมหลายครั้งซะจนทนไม่ไหว ในขณะคนถูกถามยิ้มเขิน หลังจากถูกจับได้ ก่อนจะแซวเสียงหวาน
" คู่รักสมัยนี้ รุนแรงจังเลยนะคะ "
" อึก.."
ทำเอาคนฟังถึงกับสะอึก ความเคอะเขินกลับกลายเป็นขิมซะเอง อ้าปากค้างอยู่บนเตียง ในท่านั่งเกว่งเท้า
" คู่รักอะไรกันล่ะหมอ "
ก่อนเจ้าตัวจะถามกลับเสียงฉุน ดึงมือออก
" เสร็จแล้วใช่ไหมคะ ขอบคุณค่ะ "
พลางกระโดดลงจากเตียง หยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย แล้วก้าวฉับๆออกไปอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทำเอาพยาบาลบวกหมอทำหน้างงกันเป็นแถบ
แอด...
ผลักประตูสปริงออก เดินผ่านใครคนนึง ที่ไม่ทันได้สังเกตุ นั่นเลยทำขิมต้องหยุดชะงัก เพราะเขามาดักหน้าไว้
" ใจคอจะไม่รอผมเลยรึไง ใจร้ายจริง"
ก่อนจะหน้าบึ้งมากกว่าเดิม ฉุนกึกกับตัวต้นเหตุนี้
" ทำไมต้องรอคะ "
พลางเชิ่ดจมูกถาม ทำคนตัวสูงที่ยืนขวางอยู่ ..ชอบชะมัด
" มาด้วยกัน ก็ต้องกลับด้วยกันสิ "
ยิ่งแหย่เข้าไปใหญ่ เพื่อที่เธอจะได้ทำมันบ่อยๆ
" ไม่เห็นจำเป็นตรงไหน ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันซักหน่อย "
" แล้วอยากอยู่ไหมล่ะ"
ทว่า เหมือนยิ่งไปทำให้เธอหัวเสียมากกว่าซะงั้น เพราะหลังจากที่เคลพูดจบ เธอก็ถกแขนเสื้อตัวเองขึ้นทันที
" อีกข้างยังได้อยู่นะ!" พร้อมทำท่านักเลง " จะเอาอีกไหมล้ะ! อยู่โรงพยาบาลพอดี รอบนี้จะได้หามขึ้นเตียงไปเลย "
ซึ่งนั่นทำให้เคลถึงกับขำลั่น มองคนตัวเล็กพอๆกับผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก
"ฮ่าๆๆ "
" ขำอะไร?"
ในขณะเจ้าตัวหน้าไม่รับแขก ก่อนชะงักกลางคันเพราะประโยคนี้ ที่เคลเท้าสะเอวท้า
" ก็เอาเซ่..ผมจะได้จูบคุณต่อหน้าคนทั้งโรงพยาบาลเหมือนกันไง "
" นี่! ไอ้บ้า!.."
" จุ๊ๆๆ ไม่เอาเซ่ อย่าเป็นเด็กก้าวร้าว เขามองกันใหญ่แล้ว "
เคลแทรก ทำสาวเจ้าขัดใจ กัดฟันกรอดมองคนตรงหน้าตาเป็นมัน
" ช่างเขาสิ เกี่ยวอะไรกับหนู ..ถอยไปนะ"
" ไปไหน.."
" ไปที่ชอบๆมั้ง " เธอประชด
" งั้นที่ยืนอยู่ก็ถูกแล้ว "
" นี่..คุณเคล คุณว่างนักเหรอ ถึงได้มีเวลามาคอยกวนประสาทชาวบ้านเขาน่ะ "
" สำหรับคุณ..ผมว่างตลอด " ก่อนจะทลึงตาใส่อีกที หลังเคลพูดคำนี้
" อย่ามาเล่นลิ้นกับหนูนะ "
" ตอนนี้เปล่านี่ เล่นล่าสุดตอนเก้าโมง "
" อะไร? "
" จูบไง "
" กรี๊ดดด ไอ้บ้า!!! "
อันที่จริงบทสนทนาต่อปากต่อคำกันระหว่างเขากับเธอ ก็ดังพอจะทำให้คนงงกันอยู่แล้วนะนี่ขิมถึงขั้นร้องลั่นเข้าไปอีก หนีไม่พ้นพยาบาลต้องมาห้ามปราม ยิ่งทำสาวเจ้าไม่พอใจ
" ไม่เสียงดังนะคะ..."
" อุ๊บ! "
บวกกับท่าทางกลั้นขำของเคล ทำอย่างกับเธอคือตลก ก็ยิ่งซ้ำเติมทำเธอเสียหน้า ขมวดคิ้วบึ้งตึง ก่อนจะเบี่ยงตัวเดินหนีไปอีกทาง ด้วยความอาย
" อ่าวขิม เดี๋ยวสิ! รอผมด้วย"
" ไม่ต้องตามมาแล้วนะ "
ต่างกับเคลโดยสิ้นเชิง ที่ตอนนี้กลั้นหัวเราะไว้ แทบไม่อยู่ กับท่าทางของเธอ ที่ก้าวฉับๆ อย่างกับรีบไปไล่ควายที่ไหน
ตึกๆๆๆ
"เดี๋ยวก่อนสิขิม"
" อะไรอีกเล่า!"
บทสรุปหลังจากหลุดพ้นพื้นที่ต้องห้ามมาอยู่หน้าโรงพยาบาล เคลก็ทำการกระชากอีกรอบทันที นั่นคือนิสัยของเขาเลยล่ะ ที่ไม่ว่าจะด้วยเหตุการณ์ใด หากเขารู้ตัวว่าเป็นฝ่ายต้องสูญเสีย สิ่งที่ควรคือเขาจะต้องคว้าไว้
...เพราะนั่น หมายถึงการตอกย้ำบทเรียนที่แสนจะเจ็บปวดสุดๆคราวก่อน ประมาณว่า ถ้าวันนั้นเขาเหลือเวลาเผื่อไว้สักนิด เธอคนนั้นก็คงไม่ทิ้งไป...
" กลับด้วยกัน "
" ไม่ค่ะ หนูกลับเองได้ "
" อย่าดื้อจะได้ไหม แค่คุณขึ้นรถผม ผมไปส่ง คุณก็ไม่ต้องลำบากไปโบกรถให้เหนื่อยแล้ว ที่นี่กรุงเทพนะคุณ ไม่เหมาะกับคนเพิ่งมาอยู่ใหม่หรอก "
เคลอธิบายซะยาวเหยียด ในขณะขิมกลับกอดอกปั้นหน้าตึง
" แล้วทำไมหนูต้องเชื่อคุณด้วยล่ะคะ "
" ขิม.."
" บอกว่าอย่าเรียกชื่อเล่นหนูไง เราไม่สนิทกัน "
" อะไรหนักหนา มันก็แค่ชื่อเองนี่หว่า อีกอย่างถ้าไม่ให้ผมเรียกขิม แล้วจะให้ผมเรียกว่าอะไร " เคลย้อนถาม แต่ทว่า..
" ก็ไม่ต้องเรียกอะไรเลย "
" หมายความว่า.."
" คือ ไม่ต้องเจอกันเลย "
ทำเคลถึงกับเงียบชะงักไป เงียบอยู่อึดใจหนึ่ง แล้วถาม
" รังเกียจกันขนาดนั้นเรอะ"
" เปล่าค่ะ แค่ไม่อยากรู้จัก หนูรู้สึกว่า คุณสร้างความน่ารำคาญให้หนูมากเกินไปแล้ว "
" นี่.."
" หยุดตามกันสักทีเถอะ!"
"..."
" หนูรู้ล่ะ ที่หนูเจอคุณน่ะ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ คุณพยายามตามหนู"
" แล้วเพราะอะไรล่ะ..."
" อะ..เอ่อ.."
ใส่อารมณ์ซะเต็มที่ ก่อนจะมาตายกับคำถามนี้ ที่อยู่ๆ เคลก็โพล่งขึ้นมา ซึ่งมันยากที่จะเข้าใจ
" คะ? "
" เพราะอะไรล่ะ ผมถึงตามตื้ออยู่แบบนี้ "
เคลทวนใหม่สีหน้าจริงจัง ในขณะขิมนั้นยืนนิ่ง อ้ำอึ้งไปไม่ถูก แต่เพราะความอคติ ทำให้เธอตอบคำนี้ขึ้นมา ที่ทำคนฟังถึงกับอึ้ง
" ไม่รู้สิ หรอกฟันกันละมั้ง?"
" หืม นี่คุณคิดลบขนาดนั้นเลยเหรอ คุณไม่คิดที่จะมองให้บวกบ้างเลยรึไง "
" อาทิเช่น?"
เลิกคิ้วถาม พลางมากัดปากตัวเองอีกรอบกับคำนี้ ที่เคลโพล่งออกมาหน้าตาย เขาเหมือนไม่ทันคิดมันเลยด้วยซ้ำ สวนทางคำถามขิม ชนิดที่ว่า ไม่ทันจะได้เว้นวรรคเลย
" ผมชอบคุณ"
หลังจากเธอเงียบ เดาได้ว่า คนฟังอาจจะกำลังซึ้งอยู่ก็ได้ รึไม่..ก็อึ้งกิมกี่ที่ตนเองนั้นมีผู้ใหญ่มาจีบ ทว่า กลับต้องมาพังด้วยเสียงนี้ ที่อยู่ดีๆ อุปสรรคทางดาวเทียมก็โพล่งมาแทรกกลางระหว่างคนสองคน ติ้ด ติ้ด ติ้ด ~
...โทรศัพท์...
" ฮัลโหล"
ก่อนที่เคลกดรับทันควันโดยไม่คิดจะมองชื่อ เพราะหวังจะรีบคุยให้เสร็จ แล้วรีบวาง
แต่ว่า..
( พี่เคล หนูเองค่ะพรีม..)
เสียงนี้กลับทำเคลยืนนิ่ง ก้มลงมองขิมที่เดาได้ว่า ตอนนี้เธอก็คงจะได้ยินมันด้วย เพราะลำโพงค่อนข้างจะดังพอที่เสียงนั้นจะเล็ดลอดออกมา
" ครับ...ว่าไง.."
( เย็นนี้ว่างไหมคะ ไปทานข้าวกัน )
เพียงแต่เธอฟังไม่ได้ศัพท์ก็เท่านั้น ว่าเป็นใคร ยกเว้นก็แต่เพศ ที่ยังไงก็ต้องรู้
...ก็แหม บีบวาจาซะหวานหยดขนาดนั้น...
ลำบากเคลที่จะต้องตื้อกันใหม่อีกรอบในภายหลัง เพราะอยู่ดีๆ
" ฮึ่ย !"
ปึก!
อกเคลถูกผลักเต็มแรงด้วยมือของขิม ส่วนตัวเองก็เดินจากไป
" เดี๋ยว!!! อย่าเพิ่งไป"
" ..."
" พรีมเดี๋ยวพี่โทรกลับนะ "
( คะ?)
ติ้ด!
" ขิม รอผมก่อน คุณบาดเจ็บอยู่นะ!"
" ไปเลยค่ะๆ "
ตัดสายพรีมทิ้ง ทำท่าจะวิ่งตาม ทว่า..กลับไม่ทัน ขิมกระโจนขึ้นรถแท็กซี่ไปซะก่อน บรึ้นนนน!
" โถ่เว้ย!!"
ปล่อยเคลเตะอากาศอยู่ข้างหลังคนเดียวตามลำพัง
ความรู้สึก.. บอกเลยตอนนี้ขิมกำลังสับสน สายตาทอดมองไปยังข้างทางระหว่างนั่งอยู่ในรถ เธอไม่ได้พิศวาสอะไรกับตรงนั้นหรอก แค่มีอะไรบางอย่างที่ทึบอยู่ตรงสมอง แล้วหาทางออกไม่ได้
ขิมแทบจะทึ้งผมตัวเองออกมาให้แท็กซี่เขาเล่น แค่ไอ้ตรงแขนขาที่มันเปื่อย มันถลอกนี่ยังไม่พอใช่มั้ย? ทำไมชอบหาเรื่องมาเพิ่มให้เธออยู่เรื่อย..ไม่เข้าใจ เธอถามโชคชะตา
“ ให้ตายเถอะ นี่อีเว้นท์ฉันเยอะจนลืมอกหักไปเลยรึเนี่ย..”
พึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงประชด พร้อมแบ้ปากกรอกตา
“ เอ่อ..น้องลงตรงไหนครับ “
ก่อนเหลือบไปมองคนขับรถ แล้วบอกสถานที่ที่จะลง นั่นคงไม่พ้นร้านของสปอร์ต ซึ่งแน่นอนตอนนี้เขาคงงงอยู่ ขิมนั่งถอนหายใจทิ้งได้สักพัก ไม่นานรถก็แล่นมาถึง ล้วงหากระเป๋าสตังค์เตรียมจะจ่ายเงิน ทว่า..
“ อ๊ะ! กระเป๋าฉันล่ะ “ ตกใจหนักเมื่อหาเท่าไหร่ ก็หาไม่เจอ
“ ว่าไงน้อง “
“ แปปนะคะพี่”
ยิ้มเจื่อนๆส่งไปให้แท็กซี่ ที่หันหน้ามาถาม หลังจอดเทียบท่าแล้ว ขิมตบกระเป๋ากางเกงตัวเองสนั่น ลืมเจ็บมือไปชั่วขณะ ก่อนจะโล่งอก ไปที ที่พอจะมีเศษตังค์อยู่บ้าง
“ นี่ค่ะพี่ พอดีเลย “
“ ขอบคุณครับ “
เปิดประตูลงจากรถด้วยความหมดแรง ก่อนจะเดินคอตกเข้าไปในร้าน
กริ๊ง!
..แน่นอนสิ สปอร์ตต้องมองอยู่ เขาไม่พูดอะไรเลย นอกจากเลิกคิ้วขึ้นเชิงถามเท่านั้น
“ โอเครึยัง? “
ซึ่งเป็นคำถามที่ทำเธองง
“ เรื่องอะไรคะ “
“ แฟนมารับไปหาหมอไม่ใช่เหรอ “
“ เอ๋...” ก่อนจะหน้าตาตื่น “ แฟนที่ไหนคะพี่ “
“ ก็นี่ไง โน๊ต..”
รับกระดาษแผ่นเล็กจากมือคนตรงข้ามมาดูให้เต็มตา ที่ทำขิมยืนอึ้งอย่างจริงจัง ไม่คิดว่าเคลจะเป็นคนร้ายกาจขนาดนี้
‘ ขออนุญาตพาแฟนไปหาหมอนะครับ ‘
“ พี่ดูจากกล้องวงจรปิด ก็พอจะรู้แล้วล่ะ ขิมเจ็บหนัก ชกเข้าไปได้ยังไงหน้าผู้ชายกระดูกทั้งนั้น..”
ประโยคหลังสปอร์ตพึมพำ เล่นเอาสาวเจ้าถึงกับสะดุ้ง เธอไม่ได้ตกใจที่สปอร์ตพูดถึงเรื่องมือบวมปูด แต่นึกไปถึงกล้องวงจรปิดต่างหากที่ก่อนหน้านี้เขาไปดูมา
...งั้นก็แปลว่า ตอนเธอถูกจูบ เขาก็เห็นน่ะสิ....
ตายแล้ว!!!
“ เอ่อ..พี่สปอร์ตคะ “
“ ทีหลังถ้าจะทะเลาะกัน รบกวนไปทะเลาะกันที่อื่นนะครับ “
ทำท่าจะอธิบาย แต่ทว่า กลับถูกคนตรงหน้าแทรกด้วยประโยคนี้ ซึ่ง..ทำขิมจุกในอกไม่เบา เพราะมันเป็นประโยคที่แกมสั่งแกมตำหนิ
“ ขอโทษค่ะ...”
นั่นเลยทำให้เธอต้องก้มหน้ายอมรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่อยากจะต่อปากต่อคำกับใครแล้ว แค่เรื่องกระเป๋าตั้งค์หายเมื่อกี้ ก็ทำเธอหมดแรงแทบจะเดินไม่ถึงหอ
...พอทีเถอะ...
“ ขิม กลับไปพักผ่อนก่อนก็ได้นะครับ พรุ่งนี้ค่อยมาทำงาน เจ็บอยู่อ่า “
“ แต่ว่า...”
“ เดี๋ยวพี่ไปส่ง รอแปปนึง “
ก่อนคนอาสาจะเดินไปคว้ากุญแจกับหมวกกันน็อคมา ไม่รอถามขิมเพราะรู้นิสัยเธอดี เธอไม่เคยเห็นด้วยกับใครหรอก
“ คะ..ค่ะ....”
ประมาณห้านาทีขิมก็ถึงหอ นั่นเพราะระยะเวลา ระหว่างที่ทำงานของเธอกับมหาลัยมันใกล้กันนิดเดียว ขิมลงจากรถบิ๊กไบค์คันขื่อ ก่อนจะยื่นหมวกสีดำเต็มใบส่งคืน
“ ขอบคุณนะคะ “
ในขณะเจ้าของมันรับไปถือไว้ด้วยสีหน้าที่กึ่งไม่พอใจ สปอร์ตขรึมไปหลังจากนั้น แต่ยังไม่วายที่จะเอื้อมมือมาวางบนหัวขิม
“ หายไวๆนะ “
พูดประโยคสั้นๆเพียงแค่นั้น แล้วก็บึ่งรถออกไปเลย ปล่อยให้ขิมยืนงง
“ เฮ้อ...”
ถอนหายใจออกมาเฮือกนึง พลางหมุนตัวเดิน กลับบ้าง
...ไม่ถึงอาทิตย์ ไม่ทันที่มหาลัยจะเปิด เธอซวยขนาดนี้เลยเหรอ
