บทที่ 3 ตอนที่ 3
“ขอบคุณค่ะ... โชคดีนะคะ”
อรทัยสวมกอดอดีตสามี แม้หลายๆ อย่างระหว่างเธอกับอาทิตย์จะ ‘เข้า’ กันไม่ได้... ไปกันไม่รอดอย่างที่เห็น แต่ผู้ชายคนนี้ก็เป็นคนดี เขามีข้อดีหลายๆ อย่าง... อย่างน้อยก็เป็นผู้ชายใจกว้างและใจดี เป็นสุภาพบุรุษเสมอต้นเสมอปลาย ตั้งแต่อยู่กินกันมาปีกว่าๆ อาทิตย์ไม่เคยลงไม้ลงมือกับอรทัยเลยสักครั้ง
สัปดาห์ต่อมา
ใกล้ค่ำของวันหนึ่ง ในระหว่างที่อรทัยกำลังเตรียมตัวจะออกไปดูร้านอาหารย่านชานเมือง จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกเข้าดังมาจากโทรศัพท์มือถือของเธอ
อรทัยกดรับโทรศัพท์ในทันทีที่เห็นว่าเป็นเบอร์ของมอร์แกน
“สวัสดีค่ะ... คุณนั่นเอง”
เสียงใสกรอกไปตามสาย ช่างน่าแปลกที่เธอรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ในทันทีที่ได้ยินเสียงเซ็กซี่ของเขา อรทัยจับความเร่าร้อนในกระแสเสียงนั้นได้
“ว่างไหมครับวันนี้ ผมตัดสินใจแล้วว่าจะขายบ้านให้คุณ ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้คุณเข้ามาดู... เผื่อว่าเราจะได้คุยกันในรายละเอียด”
คำพูดที่ได้ยินทำให้หญิงสาวยกหลังมือขึ้นมองนาฬิกา
“ดะ.. ได้ค่ะ... แล้วเจอกันนะคะ”
เธอตอบกลับไปเพียงสั้นๆ โดยแทบไม่ต้องคิด ก่อนวางสายของเขาแล้วโทรไปสั่งงานว่าวันนี้เธอจะไม่เข้าไปที่ร้านอาหาร
ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงกว่าๆ อรทัยก็เดินทางมาถึงบ้านของมอร์แกนซึ่งอยู่ย่านชานเมือง
เธอจอดรถเบนซ์สีเปลือกมังคุดเอาไว้หน้าบ้านไม้ชั้นเดียว ลงจากรถแล้วก้าวย่ำมาตามถนนโรยกรวดซึ่งทอดยาวจากประตูรั้วสีขาวไปสู่ตัวบ้าน ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินดินเหมาะเจาะ แว่วเสียงน้ำรินไหลมาจากลำธารน้อยๆ ที่ทอดผ่านบริเวณหลังบ้าน
“มอร์แกนคะ... ”
เธอร้องเรียก เมื่อชะโงกใบหน้าผ่านประตูเข้าไปมองแล้วพบว่าเจ้าของบ้านไม่ได้อยู่ข้างใน เหลียวมองซ้ายมองขวาอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนตัดสินใจเดินเลาะไปทางหลังบ้าน
“มอร์แกน”
อรทัยเรียกพลางกวาดสายตาแลสำรวจไปรอบๆ พลันสายตาก็ปะทะเข้ากับร่างสูงใหญ่ของเจ้าของบ้าน ตอนนั้นมอร์แกนนุ่งกางเกงขาก๊วยเพียงตัวเดียว ร่างกายท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า อวดความกำยำล่ำสันของกล้ามเนื้อตึงเต็มไปทั้งร่าง แผงอกกว้างรกไปด้วยแพขนสีน้ำตาลเข้มดกหนา
“ขอโทษทีครับ... มัวแต่ปลูกต้นไม้เพลินจนไม่ได้ยินเสียงรถตอนคุณมาถึง”
เขาวางมือจากเสียมซึ่งกำลังขุดดินปลูกต้นไม้ หันมาส่งยิ้มกว้างให้อรทัย
“ไหนๆ ก็บุกมาถึงหลังบ้านผมแล้ว งั้นถือโอกาสต้อนรับคุณตรงนี้เลยนะครับ”
เขาเชื้อเชิญหล่อนไปที่เก้าอี้ซึ่งทำจากไม้สีน้ำตาลเก่าซีด หากดูคลาสสิคเข้ากับต้นไม้รอบๆ สวนหลังบ้าน อากาศในตอนใกล้ค่ำช่วยทำให้บรรยากาศรอบกายดูร่มรื่นเหมาะที่จะนั่งสนทนากัน
“เชิญนั่งครับ... ”
ร่างสูงใหญ่ผายมือเชื้อเชิญ อรทัยทรุดร่างบอบบางลงนั่งคนละฝั่งของโต๊ะกลม มอน์แกนนั่งไขว่ห้าง เอื้อมหยิบเบียร์กระป๋องที่แช่อยู่ในกระติกน้ำแข็งออกมาเปิด
“เบียร์ครับ... ดื่มได้ไหม ถ้าไม่ได้เดี๋ยวผมจะเข้าไปเอาน้ำเย็นมาให้”
เขายื่นเบียร์กระป๋องให้เธอ
“ได้ค่ะ”
อรทัยไม่ใช่คนเรื่องมาก เธอชอบท่าทางสบายๆ และเป็นกันเองของมอร์แกน เขาดูเป็นคนเรียบง่าย ท่าทางไม่เรื่องมากเลยสักนิด ทำให้รู้สึกแปลกใจว่าทำไมมอร์แกนกับดาริกาจึงเข้ากันไม่ได้
“ผมเสียใจด้วยนะครับ... ”
เขาจ้องมองใบหน้าสะสวยของเธอ สุ้มเสียงเศร้าลงไปอย่างเห็นได้ชัด
เบื้องทิศตะวันตกพระอาทิตย์กำลังลอยเรี่ยต่ำจวนเจียนจะตกดิน ลำแสงสุดท้ายของแดดสีทองประกายในตอนใกล้ค่ำตกกระทบเสี้ยวหน้าคมคร้ามของมอร์แกน ทำให้ยิ่งเห็นในความหล่อเหลา
“เสียใจเรื่องอะไรคะ”
อรทัยขมวดคิ้ว
“ก็เรื่องที่คุณกับสามีต้องแยกทางกัน”
มอร์แกนหมายถึงเรื่องหย่า
“อ๋อ... ค่ะ เช่นกันนะคะ ขอแสดงความเสียใจด้วยที่คุณกับดาริกาต้องหย่ากัน”
“ช่างบังเอิญเหลือเกิน... ว่ามั๊ย ที่เราทั้งสองคู่ต้องมา ‘หย่า’ ในวันเดียวกัน”
มอร์แกนนึกถึงวันที่เจอกันที่อำเภอเมื่อสัปดาห์ก่อน
“นั่นน่ะสิคะ... ช่างเป็นเรื่องบังเอิญแท้ๆ”
อรทัยยกเบียร์ขึ้นกระดกดื่ม ตอนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับอาทิตย์เธอไม่เคยมีโอกาสได้แตะต้องเหล้าเบียร์ เพราะว่าอาทิตย์ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับสิ่งมึนเมาทุกชนิด ทำให้สไตล์การใช้ชีวิตของเธอต้องปรับเปลี่ยนไปในทิศทางเดียวกันกับเขา ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
“เสียใจด้วยอีกครั้งนะคะ... ที่คุณกับดาริกาต้องแยกทางกัน”
อรทัยกล่าวเบาๆ มอร์แกนคว้าเบียร์ที่แช่อยู่ในกระติกน้ำแข็งออกมาเปิดแล้วยื่นให้อรทัย หล่อนรับมาดื่มหลังจากเบียร์กระป๋องแรกหมดลงภายในระยะเวลาอันสั้น
“ผมเองก็พยายามประคับประคองอย่างที่สุด... ชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนอย่างที่เราเข้าใจ อันที่จริงผมกับดาริกามีปัญหากันมานานแล้วครับ คุณอยากรู้มั้ยว่าเรามีปัญหาอะไรกัน... ถ้าอยากรู้ผมจะเล่าให้ฟัง”
