บทที่ 2 กฎเหล็กของบ้าน

Atom’s talks;

แกร๊ก!

ผมหันไปทางต้นเสียงหลังจากที่ประตูห้องทำงานถูกเปิดออก แล้วคุณธีก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับใครก็ไม่รู้อีกสองคน ซึ่งแต่ละคนก็หน้าตาดีไปคนละแบบ

“ไป! กลับกันได้แล้ว” คุณธีสั่งหลังจากที่เข้ามาในห้องเพื่อเก็บของส่วนตัว

“คือ..จานนี้ผมล้างที่ไหนได้ครับ?”

“มึงวางไว้นั่นแหละ เดี๋ยวกูให้คนมาเก็บเอง” คุณธีบอก

“คะ..ครับ” แม้จะอยากเก็บไปล้างเองเพราะรู้สึกเกรงใจ แต่พอคุณธีสั่งแบบนั้นผมก็เลยต้องทำตาม

“เดี๋ยวก่อนซิวะ! นี่มึงไม่คิดจะแนะนำกูให้น้องมันรู้จักหน่อยรึไง?” ผู้ชายที่หน้าหล่อแบบตี๋ๆ พูดขึ้น ก่อนที่คุณธีจะกรอกตาขึ้นมองบนอย่างไม่ค่อยพอใจ

คุณธีพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมาเฮือกใหญ่ แล้วจึงหันมาทางผม “นี่อะตอมหลานเฮียแทน”

“ส่วนพี่ชื่อซีซ่าร์นะครับ เป็นรุ่นน้องของเฮียแทนเหมือนๆ กับไอ้นี่แหละ”

“สวัสดีครับคุณซีซ่าร์” ผมยกมือไหว้ตามมารยาท ก่อนที่คุณซีซ่าร์จะขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ แล้วคว้ามือผมไปกุมไว้แน่น

ส่วนผมก็ยืนตัวแข็งทื่อเพราะไม่คิดว่าคุณซีซ่าร์จะทำแบบนี้

“พอแล้วไอ้ซีซ่าร์ บีบจนมือน้องมันเคล็ดแล้วมั้ง?” แล้วผู้ชายอีกคนที่ยืนเงียบตั้งแต่ที่เข้ามาในห้องก็พูดขึ้น ทำเอาคุณซีซ่าร์ทำหน้าเซ็งๆ ไม่ต่างกับคุณธีในตอนแรก ก่อนที่จะแนะนำผู้ชายคนนั้นให้ผมรู้จัก

“ส่วนไอ้นี่! มันชื่อธันและก็เป็นรุ่นน้องของเฮียแทนเหมือนๆ พวกพี่นั่นแหละ” คุณธันคนนี้ดูนิ่งๆ ไม่ค่อยพูดเยอะ ถึงจะดูหน้าตาดีเหมือนพระเอกหนังแต่ก็แอบมีความโหดที่ผมไม่กล้าสบตาด้วย ซึ่งผมก็ไม่ลืมยกมือไหว้พี่เขาเหมือนกัน

“ถ้านับญาติกันเสร็จก็กลับ กูง่วง” คุณธันพูด ก่อนจะเดินนำหน้าออกไปจากห้องทำงานของคุณธี

“ของมึงมีอยู่เท่านี้ใช่ไหม?”

“คะ ครับ”

“อืม..แล้วทีหลังมึงก็ไม่ต้องเรียกพวกกูว่าคุณหรอก เรียกว่าพี่ก็ได้ เดี๋ยวเฮียแทนจะหาว่าพวกกูทำเจ้ายศเจ้าอย่างใส่มึง”

“ครับคุณธี เอ๊ย! พี่ธี” ผมรับคำเสร็จก็รีบคว้ากระเป๋าเป้สะพายหลังเดินตามพวกพี่เขาไปที่ลานจอดรถที่มีรถหรูราคาหลายล้านจอดเรียงกันอยู่สามคัน

“เดี๋ยวอะตอมไปกับพี่นะ” พี่ซีซ่าร์พูดแล้วคว้ามือผมเอาไว้ จูงผมให้ไปที่รถของพี่เขา แต่ก่อนที่พี่ซีซ่าร์จะเปิดประตูรถให้ผม พี่ธีก็รีบมาคว้ามือผมเอาไว้

หมับ!

“ไม่ต้อง เดี๋ยวมึงมากับกูดีกว่า”

พี่ธีออกแรงดึงตัวผมจนเซไปซบกับอกแน่นๆ ของพี่เขา ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่สำหรับผมเพราะอยู่ในท่าแบบนี้มันก็เลยเหมือนว่าผมกำลังถูกพี่เขากอดอยู่ยังไงอย่างนั้นเลย

“เลิกเถียงกันได้แล้ว มันจะไปคันไหนก็ถึงบ้านเหมือนกันแหละ ถ้ามีปัญหามากนักเดี๋ยวมึงไปกับกูล่ะกัน”

แล้วก็เป็นพี่ธันที่ดึงตัวผมออกมาจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้ โดยที่พี่ธีกับพี่ซีซ่าร์ก็ไม่กล้าจะพูดอะไรต่อด้วย ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายไปที่รถตัวเอง

“ขอบคุณครับพี่ธัน” ผมขอบคุณพี่ธันก่อนที่จะก้าวขึ้นรถของพี่เขา

“อืม!” พี่ธันพยักหน้าแล้วออกรถ โดยที่มีพี่ซีซ่าร์กับพี่ธีขับรถตามมาติดๆ

หลังจากที่ขับรถมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงรถของพี่ธันก็เลี้ยวเข้ามาในบ้านหลังใหญ่สองชั้น ที่มีบริเวณสนามหญ้ากว้างพอสมควรสำหรับการจัดปาร์ตี้เล็กๆ และมีโรงจอดรถซึ่งเพียงพอสำหรับรถทั้งสามคัน

“ลงได้แล้ว!” พี่ธันบอกผม ก่อนที่ผมจะเปิดประตูรถออกมาแล้วพบว่าตอนนี้ทั้งพี่ซีซ่าร์และพี่ธีก็ขับรถเข้ามาจอดแล้วเหมือนกัน

“เดี๋ยวเข้าไปข้างในกันก่อน พวกกูมีเรื่องต้องตกลงกับมึง” พี่ธีบอกผมแล้วเดินนำหน้าผมไป

“มีอะไรให้พี่ช่วยถือมั้ย?” พี่ซีซ่าร์อาสา ซึ่งผมว่าพี่เขาน่าจะใจดีที่สุดแล้วมั้ง

“ขอบคุณครับ แต่ของผมมีแค่นี้ผมถือเองดีกว่า” ผมยื่นกระเป๋าเป้ใบเดียวที่มีให้พี่เขาดู

“งั้นก็โอเค แล้วรีบๆ ตามเข้ามานะ” พูดจบพี่ซีซ่าร์ก็เดินตามพี่ธีไป เหลือแต่พี่ธันที่ยังเก็บของออกจากรถอยู่ ก่อนที่พี่เขาจะเดินเข้าไปในบ้านโดยที่มีผมเดินตามอยู่ข้างหลังไม่ห่าง

พอเข้ามาในตัวบ้าน ผมถึงกับอ้าปากค้างเพราะเกิดมายังไม่เคยเห็นบ้านหลังไหนที่ทั้งใหญ่และน่าอยู่ขนาดนี้มาก่อน ทุกอย่างถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาดสะอ้านราวกับว่ามีแม่บ้านมาคอยดูแลทำความสะอาดอยู่เสมอ

พี่ธีกับพี่ซีซ่าร์นั่งรออยู่ที่โซฟาแล้ว พี่ธันก็เดินไปนั่งโซฟาข้างๆ พี่ธีนั่นแหละ ส่วนผมหลังจากที่วางเป้ลงแล้วผมก็นั่งลงไปกับพื้นทันที

“เดี๋ยวๆ กูว่ามึงลุกไปนั่งที่โซฟาดีกว่า พวกกูไม่ใช่ท่านขุน มึงไม่ต้องนั่งกับพื้นหรอก” พี่ธีบอกผม ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นไปนั่งโซฟาตามที่พี่เขาบอกอย่างว่าง่าย

“เอาล่ะ..ที่นี่มีกฎอยู่สี่ข้อที่มึงต้องรู้ไว้”

“ข้อแรกห้ามล็อกประตูห้องนอนไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น” พี่ธีบอกผม ถึงจะฟังดูแปลกๆ ที่ห้ามไม่ให้ผมล็อกประตูห้อง แต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่าการที่ให้ใครก็ไม่รู้มาอยู่ในบ้านด้วยมันก็ควรจะต้องสอดส่องได้เป็นธรรมดา

“ข้อสอง เวลาน้องอะตอมจะไปไหนต้องบอกให้พวกพี่รู้ทุกครั้ง” พี่ซีซ่าร์พูด

“ข้อที่สาม ต่อไปนี้พวกกูทั้งหมดคือผู้ปกครองของมึง ถ้ามึงมีเรื่องอะไรก็ต้องบอก ห้ามปิดบังเพราะถ้าจับได้พวกกูอาจจะลงโทษมึงก็ได้” พี่ธันกำชับเรื่องนี้มาก

“ข้อสุดท้าย งานบ้านทุกอย่างจะมีแม่บ้านมาจัดการให้ แต่แม่บ้านจะอยู่ที่นี่ตั้งแต่หกโมงเช้าถึงสี่โมงครึ่งเท่านั้น ส่วนนอกเวลามึงจะต้องเป็นคนดูแลทั้งหมด เข้าใจไหม?” พี่ธีถามหลังจากพูดจบ

“ครับ ผมทำได้ครับ”

“โอเค! งั้นก็แยกย้ายกันไปนอนได้แล้ว ส่วนอะตอมเดี๋ยวตามพี่มาได้เลยนะครับ เดี๋ยวพี่จะพาไปดูห้องของเรา” พี่ซีซ่าร์ยิ้มแล้วลุกขึ้นแล้วดึงมือผมให้ลุกขึ้นเดินตามพี่เค้าไปติดๆ

.....

Cesar Talks;

ผมรีบวิ่งกลับมาที่ห้องควบคุมเพื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ทุกมุมของห้องนอนอะตอม ก่อนจะเห็นว่าทั้งไอ้ธีกับไอ้ธันก็อยู่ในห้องนั้นแล้วด้วย

“ไวจริงๆ เลยนะพวกมึง” ผมด่าพวกมันไป แต่อย่าคิดว่าพวกมันจะรู้สึกสะทกสะท้าน เพราะหน้าพวกมันหนาเกินจะรู้สึก

“มึงจะคิดอะไรเยอะ พวกกูก็แค่จะมาดูว่ามึงจะทำอะไรน้องมันหรือเปล่าก็เท่านั้นเอง” ไอ้ธันมันพูด ก่อนจะกลับไปยืนกอดอกเท่ๆ เหมือนเดิม แต่ผมอยากจะบอกว่าเห็นลุคของมันอย่างนี้ มันนี่แหละตัวดีเลยล่ะ!

“เฮ้ย!! พวกมึงดูนี่!!” เสียงของไอ้ธีที่ดังขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วไปที่จอมอนิเตอร์ยักษ์เมื่อภาพที่อยู่ในนั้นเริ่มมีอะไรที่น่าสนใจขึ้นมาแล้ว

บทก่อนหน้า
บทถัดไป