บทที่ 6 จำเป็นก็ต้องทำ

หลังจากเสร็จธุระแล้ว บอสตี้ก็รีบไปหาไอวาที่ห้อง เป็นประจวบเหมาะที่เธอเพิ่งจะไลฟ์เสร็จพอดี เธอจึงยังไม่ได้อ่านข้อความที่บอสตี้ส่งมาให้

“เจ๊...ทำไมมาไม่นัดก่อน” เมื่อเปิดประตูรับบอสตี้เข้ามาในห้องแล้ว ไอวาก็เอ่ยถามอย่างงุนงง

“นี่แสดงว่าแกไม่ได้อ่านข้อความที่ฉันส่งมาใช่ไหมเนี่ย”

“ก็ใช่น่ะสิ เจ๊บอกให้ฉันขยันไลฟ์ไม่ใช่หรือไง ฉันก็เพิ่งไลฟ์เสร็จเนี่ย ไหนจะรีวิวสินค้าอีก ว่างที่ไหนกันล่ะ”

“ก็ดีแล้ว แต่ฉันมีข่าวดีจะมาบอกแก” บอสตี้พูดขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มบางๆ ที่ประดับอยู่บนใบหน้า น้ำเสียงของเขาไม่ได้แฝงความตำหนิ หรือความกังวลใจเหมือนเมื่อครู่ อารมณ์ที่ดูผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ไอวาเงยหน้าขึ้นมองอย่างงงๆ ผู้จัดการของเธอที่ปกติมักจะดุหรือประชดประชัน กลับพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีแบบนี้ มันผิดปกติอยู่ไม่น้อย

เขาคงกำลังอารมณ์ดีมากทีเดียว ถึงไม่แม้แต่จะเอ่ยถึงความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ จากไลฟ์สดเมื่อครู่ ซึ่งถ้าเป็นวันอื่น บอสตี้คงร่ายยาวไม่หยุด

“อะไร? ได้สปอนเซอร์แล้วเหรอ” ไอวาถามกลับทันที ด้วยความหวังว่าอารมณ์ดีของอีกฝ่ายจะมาจากเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อเธอจริงๆ

“ยิ่งกว่าได้สปอนฯ อีกค่ะ!” บอสตี้ยิ้มกว้างขึ้น สีหน้าของเขาเหมือนคนที่เพิ่งขุดเจอสมบัติกองโตใต้ดิน เสียงของเขามีน้ำหนักของความมั่นใจเจืออยู่ในความตื่นเต้น

ไอวาขมวดคิ้วเล็กน้อย หรี่ตาลงขณะมองหน้าบอสตี้ด้วยความระแวง ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากได้ข่าวดี แต่เวลาบอสตี้ยิ้มแบบนี้ มันมักจะพ่วงมาด้วยเรื่องที่มีอะไรซับซ้อนกว่าที่เขายอมเล่าเสมอ

“ก็พูดมา จะมาพูดกั๊กๆ ให้อยากรู้ทำไม? คนก็รอฟังอยู่เนี่ย” ไอวาพูดเสียงขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงเจือความหงุดหงิด เธอพยายามอดทนมาทั้งวัน ไหนจะต้องฝืนยิ้มในไลฟ์สด ไหนจะต้องตอบคอมเมนต์แปลกๆ ของแฟนคลับ แล้วตอนนี้ยังต้องมานั่งรอฟังข่าวแบบครึ่งๆ กลางๆ อีก ใครมันจะไม่อารมณ์ขึ้นบ้างล่ะ

บอสตี้ยกมือขึ้นเหมือนจะขอเวลาตั้งหลัก ยิ้มอีกครั้งเหมือนกำลังเล่นเกมเฉลยคำใบ้ที่เขาเป็นคนกำกับเอง ก่อนจะเริ่มเฉลย

“เอาข่าวดีแรกก่อนนะ ฉันไปรู้มาว่าคุณเจเดน คนที่เราเคยกลัวว่าจะล็อกมงให้ยายนางเอกตัวเต็ง เขาไม่ได้อยากให้ยายนั่นชนะเลยด้วยซ้ำ”

“หือ?” ไอวาเลิกคิ้ว หรี่ตาอีกครั้ง

“แล้วไง? ถึงเขาไม่อยากให้พราวชนะ มันก็ไม่ได้แปลว่าพราวจะไม่ชนะเองได้ซะหน่อย เจ๊นั่นแหละที่พูดเองไม่ใช่เหรอ ว่าถึงจะตัดเรื่องล็อกออกไป ยายพราวก็ยังเต็งกว่าเราอยู่ดี” น้ำเสียงของไอวาไม่ได้แข็งกระด้าง แต่ก็แฝงความจริงจังไว้เต็มเปี่ยม เธอไม่ใช่คนที่จะดีใจง่ายๆ กับข่าวที่ยังไม่ชัดเจน และเธอก็จำได้ดีว่าบอสตี้เคยเตือนเองว่า “พราวฟ้ามีของมากกว่าเธอ”

“นั่นมันก็ใช่...” บอสตี้พยักหน้าเบาๆ รับในสิ่งที่ไอวาว่ามา แล้วหรี่ตาลงนิดหนึ่ง เหมือนกำลังจะปล่อยไพ่ใบสำคัญ

“ถึงมีข่าวดีอีกเรื่องนี่ไง” คำพูดของเขาทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไป ไอวาหยุดเถียง เธอหันกลับมานั่งตัวตรงเล็กน้อย แววตาเริ่มมีประกายของความสนใจชัดเจนขึ้น

เธอไม่พูดแทรกอีก รอฟังอย่างใจเย็น ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เปลี่ยนเกมได้จริง...เธอก็พร้อมจะฟังทุกคำ

“เขาไม่ต้องการให้ยายพราวชนะ เพราะเขาตามจีบยายพราวอยู่ ถ้าแม่นั่นไม่มง ก็ต้องเสียหน้ามาก นางเอกระดับนั้นมาตุ้บทั้งที่เป็นเต็งจ๋า ทีนี้โอกาสที่เขาจะจีบนางติดก็จะมีมากขึ้น” ไอวาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าเรื่องที่บอสตี้กำลังเล่าให้เธอฟัง มันเกี่ยวอะไรกับเธอ

“แล้ว?”

“โอ๊ย!!! แล้วคุณเจเดนเขาก็อยากได้ใครสักคน ที่พอจะงัดกับแม่นางเอกนั่นได้ไงยะ แล้วแกก็เป็นตัวเต็งที่คนเคาะเอาไว้ว่าจะได้จับมือเป็นรอง”

“นี่เจ๊จะให้ฉัน...” ไอวาเริ่มเข้าใจอะไรๆ มากขึ้นแล้ว แต่เธอก็ไม่อยากจะคิดว่า บอสตี้จะให้เธอทำแบบนั้นหรอก

“วินาทีนี้แกมีทางเลือกเดียว ถ้าแกอยากได้มงก็ต้องทำ ฉันหาทางออกให้แกแล้ว แกจะเอาหรือไม่เอาก็เลือกเองก็แล้วกัน ฉันก็ทำได้แค่นี้”

ไอวานิ่งเงียบไป มือที่เคยเท้าสะเอวอยู่กลับล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง สายตาเธอเหม่อออกไปทางหน้าต่าง มองเห็นเพียงแสงไฟจากตึกสูงฝั่งตรงข้าม ในหัวมีแต่เสียงสะท้อนของตัวเอง

“มงกุฎเหรอ…แกอยากได้มันจนต้องยอมแลกทุกอย่างเลยเหรอ”

เธอนิ่งเงียบไป และพยายามถามตัวเองในใจ ว่าจะยอมแลกได้ขนาดนั้นเชียวเหรอ แต่เธอก็ทุ่มเท และไล่ตามความฝันมาตลอด ทำงานไม่เลือกเรทราคา ไลฟ์สด ขายของ รีวิวทุกอย่างที่มีคนจ้างมา เธอยืนโพสต์หน้ากล้องด้วยรอยยิ้ม จนบางครั้งก็ลืมไปว่าตัวเองเคยอยากเป็นอะไรกันแน่

แล้วนี่คือโอกาสที่จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยน แต่มันก็ต้องแลก...ด้วยศักดิ์ศรี?

“ฉันต้องทำอะไรบ้างล่ะ” เธอถามเสียงเรียบ แม้ในใจจะวูบไหวเหมือนกำลังเดินเข้าไปในที่มืด

“ก็ไม่ต้องทำอะไร รอคุณเจเดนเขาติดต่อมา เขาให้แกไปกินข้าวพูดคุยกับเขาก่อน”

“แล้วแบบนี้คนจะไม่คิดหรือไง ว่าฉัน...เอาตัวเข้าแลก”

“คนเขาคิดว่าคุณเจเดนจะดันยายพราวกันทั้งนั้นแหละ แล้วคนระดับคุณเจเดน เขาไม่มีทางปล่อยให้ใครรู้หรอก ว่าใช้แผนแบบนี้เอาชนะผู้หญิงที่เขาตามจีบ”

“ตามจีบอีกคน แต่มากินอีกคนเนี่ยเหรอ”

“โอ๊ย!!! เขาก็กินเป็นพิธีเท่านั้นแหละ แกจะเอาประโยชน์จากเขา มันก็ต้องมีอะไรไปแลก เขายอมแลกด้วยก็ดีแค่ไหนแล้ว” บอสตี้พูดอย่างหงุดหงิด ไอวาถอนหายใจเบาๆ เหมือนยอมรับความจริง เพราะรู้ดี ว่าในเกมนี้ เธอไม่มีทางสู้พราวฟ้าได้ด้วยความสามารถเพียงอย่างเดียว

“อืม...จะเอายังไงก็บอกแล้วกัน”

“เป็นอันว่าตกลงใช่ไหม ฉันจะได้ใจชื้นขึ้นมาบ้าง”

ไอวาพยักหน้ารับแทนคำตอบ แม้ในใจยังมีคำถามเต็มไปหมด แต่เธอเลือกแล้ว เลือกที่จะเดินต่อไปข้างหน้า เพราะกลับหลังมันไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว

หลังจากที่บอสตี้กลับไปแล้ว ไอวาทบทวนกับตัวเองซ้ำๆ ว่าข้อเสนอที่บอสตี้หามาให้นั้น มันจะคุ้มแน่หรือ แต่แล้วเธอก็นิ่งเงียบไป สายตาของเธอเหม่อมองทีวีที่ยังเปิดอยู่ เสียงข่าวบันเทิงดังแทรกเข้ามา

“พราวฟ้า เผยลุคใหม่ในงานแถลงข่าวละครเรื่องล่าสุด สวยสะกดจนสื่อมวลชนตะลึง!”

ภาพของพราวฟ้าบนจอคือผู้หญิงที่แทบไม่มีที่ติ ใบหน้าเป๊ะทุกองศา ผิวขาวอมชมพู ชุดเดรสหรูที่เหมือนสั่งตัดมาเพื่อเธอ และรอยยิ้มมั่นใจที่ทำให้กล้องทุกตัวต้องหันมา

“ขนาดแค่เดินผ่านยังสวยเหมือนอยู่ในโฆษณาน้ำหอมเลยนะพี่ ดูสิ...นี่แหละมงแน่ๆ ปีนี้” เสียงของเมคอัพอาร์ทิสต์ที่เพิ่งแชร์คลิปลงไอจีดังขึ้นจากห้องข้างๆ ไอวากัดริมฝีปากตัวเองแน่น ลมหายใจสั้นลงโดยไม่รู้ตัว

“แกจะเอาหรือไม่เอาก็เลือกเองก็แล้วกัน ฉันก็ทำได้แค่นี้” เสียงของบอสตี้ดึงเธอกลับมาสู่ความจริง

ความจริงที่ว่าเธอไม่มีวันเปล่งประกายเหมือนพราวฟ้าได้ถ้าไม่มีแรงส่ง

“ถ้าไม่ทำ...ก็ไม่มีวันก้าวพ้นเงาของพราวฟ้าแน่” เธอหลับตา แล้วนึกถึงความฝันของตัวเองอีกครั้ง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป