บทที่ 3 Chapter 3

“แม่บอกฮาร์ทหลายครั้งแล้วนะลูกว่า ฮาร์ทมีพ่อเหมือนเด็กคนอื่น เหมือนทุกคน แต่ตอนนี้พ่อของฮาร์ทอยู่บนสวรรค์ อยู่คนละที่กับเราสองคน ต่อไปนี้ฮาร์ทต้องอดทนให้มากกว่านี้นะลูก อย่าทำร้ายเพื่อน เพราะถ้าลูกใจร้อน ไม่อดทนแล้วเกิดชกเพื่อนอีก แม่ไม่มีเงินจ่ายค่าเสียหายและค่าทำขวัญแล้วนะลูก” เพชรหอมบอกลูกชายด้วยน้ำเสียงที่ไม่แสดงถึงความไม่พอใจหรือโกรธ หล่อนสอนลูกด้วยเหตุผล “ถ้าฮาร์ทไม่อดทน เราอาจไม่มีที่อยู่ เงินกินก็จะไม่มี เพราะแม่ต้องเอาเงินเก็บมาจ่ายให้เพื่อนของฮาร์ท แล้วถ้าเผื่อเงินเก็บของแม่หมด ฮาร์ทก็จะไม่ได้เรียนหนังสือ ฮาร์ทอยากให้มันเป็นอย่างนั้นไหมลูก”

“ฮะแม่ ผมจะไม่ชกเพื่อนอีกแล้วฮะ” เด็กชายรับคำ “แม่อย่าโกรธผมนะฮะ ผมขอโทษฮะ”

“เพื่อเป็นการลงโทษ แม่จะหักค่าขนมฮาร์ทวันละห้าบาทเป็นเวลาสองเดือน และงดฮาร์ทออกไปห้างหรือซื้อของเล่น ตกลงไหมครับ” ครั้นหล่อนจะไม่ลงโทษก็ไม่ได้ เพชรหอมกำลังสอนให้ลูกชายรู้ว่า คนทำผิดต้องได้รับโทษ ไม่มากก็น้อย

“ฮะแม่” เด็กชายยินยอมถูกลงโทษ

“กลับบ้านกันดีกว่านะครับ เย็นนี้แม่จะทอดปลานิลให้ฮาร์ทกินดีไหมลูก”

ยศนัยยิ้มกว้าง ดีใจจะได้ทานอาหารจานโปรด เด็กชายพยักหน้า ก่อนจะพากันเดินออกจากโรงเรียนเพื่อกลับห้องพักห้องเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่นของสองแม่ลูก

หลังจากที่เพชรหอมอุ้มท้องยศนัยกลับมาเมืองไทย หล่อนได้มาขออาศัยอยู่กับอาสาวที่ตอนนั้นยังไม่ได้แต่งงานมีครอบครัว ซึ่งยุพดีก็ไม่ซักถามเรื่องพ่อของเด็กในท้อง เพชรหอมไม่ได้อยู่นิ่งเฉย ช่วยเหลือยุพดีที่มีกิจการอู่รถยนต์ โดยทำหน้าที่บัญชี จนกระทั่งคลอดบุตร ชีวิตของหล่อนก็ต้องเปลี่ยนไปอีกครั้ง เมื่อยุพดีแต่งงานกับยงยุทธที่มีนิสัยขี้เหนียว ไม่เอาญาติพี่น้อง เพชรหอมที่ไม่ต้องการให้ยุพดีลำบากใจ หล่อนจึงย้ายออกมาจากบ้านยุพดีที่ให้เงินมาสำรองใช้จ่ายสองหมื่นบาท

เงินจำนวนนี้บวกกับเงินเก็บที่ได้รายเดือน เพชรหอมนำไปจ่ายเป็นค่าล่วงหน้า ค่าเช่าห้องเกือบเก้าพัน ส่วนที่เหลือหล่อนไว้ใช้สำรองจ่ายในค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงค่าจ้างเลี้ยงยศนัย เพราะหล่อนต้องหางานทำเพื่อความอยู่รอด เป็นความโชคดีที่หล่อนเก่งเรื่องภาษา พูดได้ถึงสี่ภาษาคือ จีน ญี่ปุ่น อิตาลีและภาษาสากล ทำให้โรงแรมมิราเคิลรับเพชรหอมเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานต้อนรับที่ว่างอยู่ทันที และยึดงานนี้จนถึงทุกวันนี้ รายได้สมน้ำสมเนื้อ พอเลี้ยงตัวสองคนแม่ลูก แต่เห็นทีเพชรหอมคงต้องหางานพิเศษ เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ทดแทนเงินที่เสียไป

เกิดมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ใจต้องไม่ย่อท้อ ต้องไม่หมดเรี่ยวแรงก้าวเดิน กำลังใจสำคัญที่ทำให้เพชรหอมมีแรงก้าวเดินต่อไปคือ ยศนัย ลูกชายสุดที่รักที่หล่อนสัญญากับตัวเองว่า จะเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดเท่าที่สองมือแม่คนนี้จะทำได้

ห้องประชุมเล็กกำลังเคร่งเครียดกับแขกวีไอพีที่กำลังเดินทางมาพักในโรงแรมสุดสัปดาห์นี้ หากแขกคนดังกล่าวไม่ใช่จอมเรื่องมากแห่งยุค คนที่กำลังประชุมอยู่คงไม่เครียดเช่นนี้ และการมาของเขาทุกครั้ง ทางโรงแรมจะต้องจัดห้องใหม่ทั้งหมด ตกแต่งตามที่ผู้เข้าพักต้องการ ครั้นจะไม่ทำตามก็ไม่ได้ เนื่องจากนานโอ การ์รัซซีโน่ มาเฟียจอมเผด็จการของอิตาลีจ่ายเงินไม่อั้นกับการปรับเปลี่ยนตามความพอใจของตน ซึ่งเขาไม่ธรรมดา มาแต่ละครั้งเหมาห้องพักทั้งชั้นเพื่อให้ลูกน้องและผู้หญิงที่หิ้วมาด้วยพักอาศัย ผู้หญิงของเขามาไม่ต่ำกว่าห้าคนในการมาแต่ละครั้ง

“ปัญหาเรื่องการปรับเปลี่ยนห้องไม่เท่าไหร่ เพราะยังไงคุณนานโอก็เป็นออกค่าใช้จ่าย แต่เรื่องล่ามนี่สิคะ อรคิดหนักมากเพราะคุณนานโอไม่เอาล่ามคนเดิม และไม่เอาล่ามคนก่อนหน้านี้ด้วย เขาต้องการล่ามคนใหม่ที่มีความคล่องตัว พูดอ่านและเขียนได้ทั้งภาษาอิตาเลี่ยน ภาษาสากลและภาษาจีน เพราะเขาต้องติดต่อธุรกิจกับคนจีน และสหรัฐ เขาจึงอยากได้ล่ามที่มีความสามารถพูดได้ตามที่เขาต้องการ”

บังอรผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์พูดกลางที่ประชุม นานโอเป็นมาเฟียหัวโบราณ เขาไม่ฝึกหัดพูดภาษาอื่น เพราะคิดว่า ไม่มีความจำเป็น หากไปต่างบ้านต่างเมืองจึงเรียกใช้บริการล่ามเป็นตัวกลางการสื่อสาร

“มันหายากนักเหรอ ล่ามที่พูดได้หลายภาษาเนี่ย” นันทิพาเจ้านายบังอรพูดขึ้น

“ก็หายากค่ะ เพราะน้อยนักที่จะพูดได้พร้อมกันสามภาษา บางคนพูดได้สากลกับจีนได้ แต่พูดอิตาเลี่ยนไม่ได้ บางคนพูดอิตาเลี่ยนกับภาษาสากลได้แต่พูดจีนไม่ได้ มันต้องขาดอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ” บังอรอธิบายเพิ่มเติม

“เอ...พี่นันกับพี่อรลืมคนหนึ่งไปหรือเปล่าคะ”

ช้องนางเลขาผู้จัดการแผนกแม่บ้านที่ร่วมประชุมแทนรัศมี ผู้จัดการแผนกแม่บ้านที่ลากิจไปพักผ่อนต่างจังหวัดเอ่ยขึ้นกลางห้องประชุม ซึ่งคำพูดของหล่อนเรียกความสนใจให้กับทุกคนในห้อง

“ลืมใครกุ้ง” บังอรรีบถาม

“ลืมเพ้นท์ไงคะ เพ้นท์พนักงานแผนกต้อนรับที่พูดได้หลายภาษา แล้วเป็นภาษาที่ตอบโจทย์คุณนานโอด้วยค่ะ”

เหมือนแสงสว่างปลายอุโมงค์ นันทิพา บังอรและอีกสามคนที่อยู่ในห้องประชุมพากันโล่งใจ ที่สามารถหาล่ามตรงความต้องการของนานโอได้

“งั้นอรรีบไปบอกเพ้นท์เลยนะว่า ให้เตรียมตัวเป็นล่ามคุณนานโอ ค่าจ้างที่คุณนานโอเสนอให้คือวันละหนึ่งหมื่นห้าพันบาท”

ทุกคนในห้องต่างตกใจกับราคาค่าตัวของล่ามที่ได้สูงเทียบเท่าเงินเดือนพวกหล่อนทั้งเดือน

“ทำไมให้เยอะจังพี่นันตั้งหมื่นห้า” บังอรถามอย่างสงสัย

บทก่อนหน้า
บทถัดไป