บทที่ 3 โซ่สายใยหวนใจรักตอนที่3
“งั้นอีกสามวันเราจะไปที่นั่นกันแกก็เตรียมตัวด้วยล่ะส่วนเด็กๆเดี๋ยวฉันช่วยดูเอง”
“แล้วเราไปกันกี่คน”
“ก็มีฉันแล้วก็แกกับเด็กๆ...ไปไม่ต้องเยอะฉันว่าเราสองคนไปดูน่าจะโอเคแล้วค่อยกลับมาสั่งงานตามแบบที่อยากได้กับทีมอีกที”
ป๋อมแป๋มอยู่คุยกับณัฐนิชาพักใหญ่ทั้งเรื่องงานและเรื่องราวในชีวิตประจำวันสัพเพเหระไปเรื่อยตามประสาเพื่อนเธอก็ต้องกลับเพราะมีธุระที่จะต้องไปติดต่ออีกหลายที่
ป๋อมแป๋มเป็นเพื่อนกับณัฐนิชาตั้งแต่เรียนสมัยมหาลัยเธอสองคนเรียนคณะเดียวกันเมื่อเรียนจบก็ยังทำงานที่เดียวกันอีกด้วยเพราะพ่อของป๋อมแป๋มเป็นเจ้าของบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายในพอเรียนจบป๋อมแป๋มก็เลยเข้ามาช่วยงานของพ่อเธอที่บริษัทพร้อมทั้งชวนณัฐนิชาไปทำงานด้วยชีวิตตอนนั้นของเธอกำลังไปได้ดีเรียนจบมีงานที่ดีทำ
แต่เรื่องคืนนั้นเมื่อสามปีก่อนทำให้เธอต้องออกจากงานประจำแต่ยังดีที่ป๋อมแป๋มยังเห็นใจและยื่นมือเข้าช่วยเธอโดยการป้อนงานให้เมื่อนึกถึงอดีตมันแล้วก็ทำให้เธอปวดหัวใจและที่อยู่และมีรอยยิ้มมาได้ทุกวันนี้ก็กำลังใจจากลูกๆของเธอและน้องสาวและเพื่อนที่ดีอย่างป๋อมแป๋ม
ภูเก็ต
คฤหาสน์เพตราพิทักษ์
18.00 น.
“ไงวันนี้ทำไมถึงกลับบ้านได้ฮะตาเมฆ”
ธำมรงค์ที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารกับมัทนาคนเป็นภรรยาเมื่อเห็นลูกชายคนโตเดินเข้ามาก็อดแซวไม่ได้ว่าวันนี้ลูกชายมาหาถึงบ้านทั้งที่ร้อยวันพันปีต้องโทรตามแทบตายกว่าจะกลับมา
“ก็ผมก็ต้องรีบกลับมาตามคำสั่งของคุณแม่ไงครับที่ให้ผมจ้างทีมตกแต่งบ้านที่เกาะเพตรา”
เมฆานั่งลงที่เก้าอี้ของโต๊ะอาหารตรงข้างกับคุณพ่อและคุณแม่ของเขาชายหนุ่มต้องรีบสะสางงานที่กรุงเทพเพื่อกลับมาดูสถานที่ก่อนที่ทีมออกแบบตกแต่งจะมาดูบ้านที่เกาะเพตราตามคำสั่งของคนเป็นแม่ว่าให้เขานั้นกลับมาดูแลเรื่องการตกแต่งบ้านหลังใหญ่บนเกาะส่วนตัวที่พ่อของเขาสัมปทานเอาไว้
“จริงสิแล้วได้คนรับออกแบบแล้วเหรอ”
มัทนาวางช้อนส้อมในมือลงพร้อมหันมาถามลูกชายเธอลืมไปเสียสนิทว่าเธอเป็นคนให้ลูกชายหาทีมตกแต่งแต่ไม่คิดว่าเมฆาจะหาได้ไวขนาดนี้
“ครับอีกประมาณสามวันเดี๋ยวพวกเค้าจะเดินทางมา”
เมฆายกแก้วน้ำเย็นที่แม่บ้านพึ่งวางให้ขึ้นมาดื่มพร้อมบอกกับคนเป็นแม่ถึงเรื่องทีมงานที่จะมาในอีกสามวัน
“แล้วจ้างบริษัทไหนล่ะ”
มัทนาอยากจะรู้ว่าลูกชายของเธอจ้างบริษัทไหนมาทำงานนี้เพราะถ้าเป็นชื่อที่เธอคุ้นหูเธอจะได้เชื่อใจได้หน่อยว่างานมันจะออกมาดี
“ก็เจ้าเดิมที่ออกแบบให้กับบ้านจัดสรรของเราไงครับ”
เมฆาตอบคนเป็นแม่ให้หายกังวลใจเพราะเขารู้ดีว่าแม่ตนก็ชอบการทำงานของทีมงานบริษัทนั้นช่นกัน
“อ๋อ...ฝีมือคนออกแบบเค้าดีมากเลยนะแม่ชอบ”
มัทนาเริ่มหน้าระรื่นที่ได้ทีมงานที่เธอเคยเห็นฝีมือมานักต่อนักแต่ก็ไม่เคยเห็นคนออกแบบเสียทีถึงจะไม่เคยเห็นเธอก็อดชมไม่ได้ว่าคนออกแบบนั้นฝีมือดีมากจริงๆ
“แกเตรียมดิวงานกับทีมนี้ต่อได้เลยตาเมฆพ่อเชื่อว่าแม่แกคงอยากให้แต่งบ้านอีกหลัง”
ธำมรงค์อดที่จะพูดถึงบ้านหลังใหม่ที่ภรรยาเขาเตรียมใว้ให้ลูกชายคนเล็กอีกหลังไม่ได้เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าภรรยาของเขาจะสร้างบ้านทำไมไว้หลายๆหลัง
“นี่คุณแม่แอบสร้างบ้านอีกหลังแล้วเหรอครับ”
เมฆามีสีหน้าฉงนกะทันหันเมื่อรู้จากปากคนเป็นพ่อว่าแม่ของเขานั้นจะสร้างบ้านไม่รู้ว่าจะทำหลายๆหลังไปเพื่ออะไรทั้งที่ก็อยู่แต่ที่นี่เป็นประจำ
“แหม...ก็ที่เกาะเพตราเอาไว้ให้ลูกไงตาเมฆส่วนอีกหลังก็เอาไว้ให้น้องเป็นเรือนหอของพวกลูกๆไง”
ที่มัทนาสร้างบ้านเอาไว้ให้ลูกชายของเธอทั้งสองก็เพื่ออยากจะให้ลูกชายทั้งสองของเธอได้รู้ตัวว่าอายุป่านนี้แล้วก็ควรที่จะมีครอบครัวได้แล้วเพราะเธอนั้นอุตส่าห์เตรียมเรือนหอเอาไว้ให้อย่างดิบดี
“อะไรนะครับ...นี่ถ้าผมรู้ว่าคุณแม่สร้างบ้านที่เกาะเพตราซะใหญ่โตไว้เป็นเรือนหอผม..ผมคงจะขัดคุณแม่ไปตั้งแต่แรกนี่เสร็จแล้วพึ่งจะมาบอก”
เมฆาก็พึ่งรู้จุดประสงค์ในการสร้างบ้านบนเกาะก็วันนี้นี่เองถ้าเขารู้คราแรกก็คงจะขัดแน่เพราะตัวเขานั้นยังไม่คิดถึงเรื่องที่จะมีครอบครัวเลยสักนิด
“แล้วลูกชอบหรือเปล่าล่ะ”
มัทนาดูออกว่าเมฆาลูกชายคนโตของเธอชอบบ้านหลังที่อยู่บนเกาะมากตอนแรกที่เธอไม่ยอมบอกว่าสร้างไปเพื่อเป็นเรือนหอก็เพราะกลัวว่าลูกชายของเธอจะขัดเหมือนตอนนี้นี่แหละ
“ชอบครับแต่ผมว่าเอาไว้ให้ผมพักผ่อนดีกว่าเป็นเรือนหอ..เพราะผมยังไม่เจอคนที่ถูกใจเลย”
เมฆายอมรับว่าตั้งแต่เขาเห็นรูปแบบบ้านก่อนสร้างเขาก็ชอบแล้วแต่ถ้าให้เขาเอาไว้พักผ่อนคงได้ถ้าเป็นเรือนอเห็นว่าคงอีกนาน
“พ่อกับแม่จะหกสิบแล้วเมื่อไรลูกจะมีครอบครัวมีหลานให้พวกเราอุ้มบ้างล่ะ”
มัทนาเห็นว่าลูกชายของเธอมีท่าทีจะไม่สนใจจะมีครอบครัวจริงๆเธอก็ต้องเล่นบทผู้สูงอายุน่าสงสารให้ลูกชายของเธอได้เห็นใจว่าเธอกับสามีนั้นอยากจะได้อุ้มหลานจริงๆ
“จริงอย่างที่แม่แกพูดพ่อก็อยากอุ้มหลานบ้างแล้ว”
ธำมรงค์เองก็เช่นกันเมื่อก่อนหน้านี้เขาเองก็คิดว่าให้เวลาลูกชายของพวกเขาสนุกอีกสักหน่อยเดี๋ยวก็คงได้อุ้มหลานเองแต่เมื่อมองตัวเองที่แก่ลงทุกวันก็อยากจะเห็นลูกชายมีครอบครัวเป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีตอนนี้เขาคิดว่าก็ควรจะต้องเร่งกดดันลูกชายของพวกเขาบ้างเรื่องมีครอบครัวไม่อย่างนั้นคงได้ตายก่อนอุ้มหลานเป็นแน่
“เอาไว้คุณพ่อกับคุณแม่ไปบอกเจ้าไวท์มันละกันครับว่าอยากอุ้มหลาน...ผมคงยัง”
