บทที่ 5 โซ่สายใยหวนใจรักตอนที่5
21.00 น.
ณัฐนิชาเตรียมตัวเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงมานั่งหน้าจอโน้ตบุ๊คเลื่อนดูไอเดียต่างๆก่อนนอนนิดหน่อยจู่ๆก็มีรูปภาพรูปหนึ่งทำที่เธอเห็นแล้วต้องรีบปิดโน๊ตบุ๊คทันทีเพราะไม่มีอารมณ์ที่จะหาไอเดียอะไรต่อหญิงสาวหน้าเจื่อนขึ้นมาเล็กน้อยภาพที่เธอเห็นเมื่อครู่มันเป็นภาพร็อคเก็ตสีเงินที่เหมือนกับของเธออย่างมากมันทำเธอนึกถึงวันที่เธอได้ทำมันหายไป
เมื่อสามปีก่อนตอนที่เลี้ยงฉลองกับพวกป๋อมแป๋มเธอก็โดนท้าให้ดื่มน้ำเมาไปเป็นจำนวนมากทั้งที่เธอไม่เคยดื่มมาก่อนเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ไหวก็เลยพยายามที่จะพาตัวเองมาที่ห้องพักที่ลูกค้าเป็นคนจัดห้องไว้ให้ทีมของพวกเธอ
แต่ในขณะที่เธอกำลังเดินสะเปะสะปะไปมาเพื่อที่จะกลับห้องพักนั้นจู่ๆก็มีผู้ชายมาลากเธอเข้าไปทำมิดีมิร้ายในห้องมืดเธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใครหน้าตาของเขาเธอก็จำไม่ได้เพราะวันนั้นเธอเมาจนแทบไม่มีสติและไม่มีแรงแม้แต่จะต่อต้านคนที่กำลังทำร้ายเธอ
เมื่อเรื่องเลวร้ายจบลงตอนนี้เธอก็รีบคว้าสิ่งที่มันปิดบังร่างกายเธอได้มาคลุมที่ตัวพยายามมองหาคีย์การ์ดห้องของเธอเมื่อเจอแล้วเธอก็ไม่คิดแม้แต่จะมองคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงที่ทำร้ายเธอแม้แต่นิดเดียวเธอรีบออกมาจากห้องบ้านั่นแล้วกลับไปที่ห้องของตัวเองอย่างเร็วที่สุดที่เธอโมโหตัวเองมากๆก็คือเธอดันขึ้นมาผิดชั้นทำให้เกิดเรื่องร้ายขึ้น
เรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้นจนถึงวันนี้เธอก็ยังไม่คิดที่จะบอกใครส่วนใครจะถามว่าใครเป็นพ่อของเจ้าสองแสบเธอก็จะเลี่ยงที่จะตอบตลอดเวลาแม้กระทั่งน้องสาวและเพื่อนของเธอที่ถามจนไม่อยากจะถามจนทุกวันนี้ก็หยุดถามไปเอง
วันต่อมา
ท่าอากาศยานภูเก็ต
หลังจากที่สองสาวพร้อมสองแสบนั่งเครื่องมาจากเชียงใหม่ในช่วงเกือบเที่ยงก็ถึงภูเก็ตในช่วงบ่ายนิดๆตอนนี้ทั้งสองแสบนอนหลับกันไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อลงเครื่องได้ป๋อมแป๋มก็เป็นคนอุ้มใยไหมส่วนณัฐนิชานั้นก็อุ้มลูกชายของเธอเดินมารอจุดนัดพบที่เมฆานั้นบอกกับป๋อมแป๋มเอาไว้
“โชคดีของเรานะที่เจ้าสองแสบไม่ร้องเลย...นี่ขนาดขึ้นเครื่องครั้งแรกนะเนี่ย”
ป๋อมแป๋มยืนกระซิบกับเพื่อนสาวของเธอด้วยอาการโล่งใจที่การขึ้นเครื่องครั้งแรกของสองแสบนั้นเป็นไปได้ด้วยดี
“ตอนแรกฉันก็แอบหวั่นใจอยู่เหมือนกัน...”
ณัฐนิชาเองคราแรกก็กังวลเหมือนกันแต่เมื่อทุกอย่างมันผ่านไปด้วยดีก็นับว่าการมาครั้งนี้เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการมาทำงานแล้วหละ
“คุณป๋อมแป๋ม..”
ธาดาคนสนิทของเมฆาเข้ามาทักทายหญิงสาวทั้งสอง
“อ้าวคุณเวสวัสดีค่ะ”
ป๋อมแป๋มหันมาทางเสียงเรียกเห็นว่าเป็นชายหนุ่มก็รีบสวัสดีทักทายเพราะเธอก็ไม่ได้เจอชายหนุ่มนานแล้วเหมือนกัน
“เชิญทางนี้เลยครับรถรออยู่ด้านหน้า”
ธาดารีบช่วยสองสาวยกกระเป๋าขึ้นรถแล้วพาขึ้นรถตู้คันหรูดิ่งตรงไปที่คฤหาสน์ทันที
คฤหาสน์เพตราพิทักษ์
เมื่อรถแล่นเข้ามาในตัวคฤหาสน์ณัฐนิชาถึงกับละสายตาที่จะมองรอบๆตั้งแต่ทางเข้ามาไม่ได้เพราะมันช่างใหญ่โตสวยงามจนไม่น่าละสายตาตั้งแต่ปากทางเข้าเป็นสวนหย่อมขนาดกว้างที่จัดได้อย่างสวยงามร่มรื่นสบายตาเมื่อรถแล่นเข้ามาจนสุดคฤหาสน์หลังใหญ่ตระหง่านก็ปรากฏแก่สายตาของเธอด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเธอ
จึงหันไปหาป๋อมแป๋มที่นั่งข้างๆแต่ดูท่าเพื่อนของเธอนั้นดูจะตื่นเต้นกว่าเธอเสียอีกเล่นมองแทบจะทะลุกระจกรถเสียขนาดนั้นจนเธอเองต้องสะกิดให้ป๋อมแป๋มเลิกทำท่าทางแบบนั้นเสียที
ธาดาขับรถเลยคฤหาสน์หลังใหญ่มาด้านหลังเพื่อไปที่เรือนรับรองชายหนุ่มจอดรถได้หญิงสาวทั้งสองก็อุ้มเจ้าสองแสบที่กำลังหลับเพลินลงมาจากรถพร้อมเดินตามชายหนุ่มที่กำลังยกกระเป๋าพวกเธอเข้าไปในบ้าน
“คุณเมฆไปที่เกาะก่อนแล้วครับวันนี้คุณทั้งสองเดินทางมาไกลคุณเมฆบอกว่าให้พวกคุณพักที่เรือนรับรองที่นี่ก่อนพรุ่งนี้เช้าค่อยไปที่เกาะพร้อมผมนะครับ...ขาดเหลืออะไรบอกผมได้เลยนะครับผมอยู่บ้านข้างๆ...พักผ่อนกันตามสบายนะครับ”
เมื่อธาดาดูแลเรื่องที่พักให้หญิงสาวและเด็กๆเรียบร้อยแล้วก็เสร็จหน้าที่ของเขาชายหนุ่มบอกกับทั้งสองว่าหากขาดเหลืออะไรให้ไปเรียกเขาได้ก่อนจะหันหน้าไปทางบ้านที่เขาพักให้ทั้งสองรู้ว่าเขาอยู่ข้างๆ
“ขอบคุณนะคะ”
หลังจากที่ธาดาเดินออกไปแล้วป๋อมแป๋มกับณัฐนิชาก็พาเด็กๆมานอนในห้องที่ด้านในจัดเป็นฟูกปูเอาไว้ให้ลูกของเธออย่างดีทั้งสองจึงวางเด็กๆลงแล้วเดินออกมาคุยกันด้านนอก
“ที่นี่ร่มรื่นมากเลยนะ”
ป๋อมแป๋มเดินออกมาชมบรรยากาศด้านนอกเธออดเอ่ยปากชมไม่ได้ว่าที่นี่สวยงามและร่มรื่นมากจริงๆดูออกเลยว่าคนที่อยู่ที่นี่ต้องเป็นคนที่รักธรรมชาติอย่างมากเพราะต้นไม้ใหญ่ค่อนข้างเยอะ
“ลูกค้าเรานี่ดูแลเราดีจริงๆนะรู้ว่ามีเด็กๆมาด้วยก็จัดเตรียมที่พักให้อย่างดี”
ณัฐนิชายืนกอดอกอยู่ข้างๆกับป๋อมแป๋มเธอไม่คิดว่าลูกค้าที่ติดต่อให้ป๋อมแป๋มมาดูงานจะดูแลเทคแคร์ดีขนาดนี้
“ฉันบอกแล้วว่าลูกค้าเราคนนี้เพอเฟคที่สุดที่ฉันเคยเจอมาแล้วหละ”
ป๋อมแป๋มหันมายิ้มพร้อมใช้ไหล่ชนเพื่อนสาวเธอเล็กน้อยให้รู้ว่าที่เธอพูดมันไม่ผิด
“ขาดเหลืออะไรกันหรือเปล่าจ๊ะ”
มัทนาเห็นรถที่ธาดาไปรับแขกมาที่เรือนรับรองเรียบร้อยแล้วเธอก็เดินออกมาต้อนรับแขกด้วยตัวเองเพราะกลัวว่าจะขาดเหลืออะไรแล้วเธอจะเป็นเจ้าบ้านที่บริการแขกไม่ดี
“คุณมัทสวัสดีค่ะ”
“สวัสดีค่ะ”
ทั้งสองสาวกล่าวทักทายหญิงวัยห้าสิบกว่าด้วยท่าทีที่นอบน้อมและเป็นมิตร
“นี่นิชาเป็นคนออกแบบงานค่ะ”
ป๋อมแป๋มถือโอกาสแนะนำตัวเพื่อนรักกับลูกค้าที่จ้างพวกเธอมาทำงานให้ได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการเสียที
“หนูเองเหรอพึ่งเห็นตัวจริงก็วันนี้ฉันชื่นชมผลงานหนูมากเลยนะจ้ะ”
มัทนาหันไปยิ้มให้กับณัฐนิชาเธอคิดว่าคนที่ออกแบบฝีมือดีที่เธอชื่นชมผลงานจะอายุเยอะกว่านี้เสียอีกแต่เมื่อเห็นว่าตัวจริงเธอยังสาวยังสวยอยู่ก็เลยอดชื่นชมไม่ได้
“ขอบคุณค่ะคุณมัท”
ณัฐนิชาจะรู้สึกมีพลังในการทำงานทุกครั้งเมื่อมีคนชมในผลงานของเธอมันทำให้เธอรู้สึกว่าการจะสร้างผลงานมาแต่ละชิ้นที่เหนื่อยยากนั้นผลตอบแทนมันคุ้มค่า
