บทที่ 3 3

“ย่างสิบเจ็ดค่ะ”

“สิบเจ็ดเหรอ” เขาหน้าซีด สิบห้าก็ถือว่าเริ่มแตกเนื้อสาวแล้ว เขาไม่ควรทำอย่างนี้เลย แต่เมื่อทำไปแล้ว มันก็ยากที่จะกลับไปมองว่าเธอเป็นเพียงเด็กหญิงคนหนึ่ง

ในสายตาเขา เธอคือหญิงสาวที่สมบูรณ์อยู่ในวัยเจริญพันธ์แล้ว

และไอ้รูปร่างเล็กๆ ของเธอนี่แหละที่กระตุ้นความหื่นในตัวเขาให้ปั่นป่วน

“มา ฉันจะขัดตัวให้” เขาพยายามพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แม้ความคิดจะผิดปกติก็ตาม

เขาหรี่น้ำให้เบาลงแล้วบีบโฟมราคาแพงลงบนฝ่ามือ ลูบไล้แผ่นหลังและสะโพกให้ มีบางช่วงที่เขารู้สึกว่าร่างกายเธอสะท้านราวกับจะตอบรับสัมผัส

ผิวเธอเนียนลื่น และมือเขาเองก็ชักจะสั่น ทันทีที่เธอหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับเขา หัวใจชายหนุ่มก็แทบจะหยุดเต้น

ความคิดแปลกๆ ลอยเต็มหัวไปหมด ล้วนเป็นจินตนาการหากได้ลูบไล้สัมผัสเธอแบบลึกซึ้งจะเป็นยังไง จนต้องพร่ำเตือนตัวเองว่า

‘ไม่ได้นะเว้ยไอ้ธร เราเพิ่งรู้จักนกได้ไม่ทันถึงครึ่งชั่วโมงเลย’

‘นี่เด็กอายุสิบห้านะ ท่องไว้สิว่าสิบห้า อายุน้อยกว่าเราตั้งสิบเจ็ดปี อย่าได้คิดเกินเลยเชียว’

แม้จิตใจฝ่ายดีจะเตือนแบบนั้น แต่จิตใจฝ่ายชั่วร้ายได้ยุแยงไปอีกแบบ

‘แต่แกจ่ายเงินไปแล้วนะเว้ย เด็กคนนี้ไม่เหลือใครแล้ว ชีวิตเป็นของแก แกจะทำยังไงก็ได้ เลี้ยงดูให้ดี กินอิ่ม ให้ความสบาย และจะทำอะไรๆ เรื่องอย่างว่าก็ไม่น่าจะแปลก สมัยนี้อายุสิบห้าเสียตัวมีเยอะแยะไป โลกไปถึงไหนต่อไหนแล้ว’

ความดีกับความชั่วตีกันให้วุ่นในสมอง ก่อนที่ภวังค์ความคิดจะสะดุดลงเมื่อเธอเอ่ยถาม

“คุณคะ ขัดแขนหนูพอหรือยัง แสบไปหมดแล้วนะ”

กันต์ธรกระพริบตาถี่ๆ บีบสบู่เหลวลงฝ่ามือเพิ่มแล้วลูบใบหน้า ลำคอจนมาถึงเนินอก...หน้าอกเธอนุ่มตึงแน่น เล็กกว่าฝ่ามือเขา แต่กระชับดีเหลือเกิน พอเขาลูบโดน ยอดอกก็ชูชันเป็นไตขึ้นมา

ให้ตายสิ เขาเจอผู้หญิงสวยๆ มามากมาย กลับไม่เคยมีใครเร้าใจปลุกอารมณ์ได้ดีเท่าเธอมาก่อนเลยจริงๆ

“คุณคะ หนูเสียว” ไม่รู้ว่าเธอยังอายุน้อยหรืออ่อนเดียงสากันแน่ถึงได้พูดออกมาตามที่ตัวเองรู้สึก และนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มสิ้นสุดความอดทน

“ชุดฉันเปียกไปหมดซะแล้ว”

“คุณต้องไปงานศพด้วยไม่ใช่หรือคะ”

“เห็นทีต้องอาบน้ำใหม่อีกครั้ง” ดวงตาคู่คมเต็มไปด้วยความหมาย

“งั้นพอหนูอาบเสร็จ คุณก็อาบต่อเลยค่ะ”

“อาบพร้อมกันนี่แหละ ประหยัดเวลา” เขาบอกแบบนั้น ทำเอาเธอตาโตด้วยความตกใจ

“เอ่อ...มันไม่น่าจะเหมาะ”

“ฉันเป็นเจ้าชีวิตเธอนะ” เขาพูดเหมือนทวงบุญคุณ ทำให้เธอเจื่อนจ๋อย

“ค่ะ หนูทราบดีค่ะ”

“ฉันยังถือว่าเธอเป็นน้องสาวเลย เธอก็มองซะว่าฉันเป็นพี่ชายล่ะกัน ไม่เห็นแปลก แค่อาบน้ำด้วยกันเอง” พูดจบก็รีบถอดสูทแขวนไว้ที่ราวเหล็กข้างห้องน้ำ ใช้เวลาไม่นานนัก ร่างกายเขาก็เปลือยเปล่าเฉกเช่นเดียวกับเธอ

พอไม่มีกางเกงชั้นในรัดไว้ ส่วนนั้นก็แข็งขึงโดดเด่นชี้หน้าเธออวดความอหังการที่ทำเอาเธอแทบหยุดหายใจ

ฉันท์ชนกรู้สึกร้อนไปทั้งหน้า ตั้งแต่เกิดมา นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นของสงวนของผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ ทำไมมันถึงได้ใหญ่โตจนดู น่ากลัวอย่างนั้น

ชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้เธอ ความเป็นชายก็กวัดแกว่งตามจังหวะเดินไปด้วย

“เอาล่ะ เธอขัดให้ฉันบ้างสิ” เขาสั่ง

“ค่ะ แต่ เอ้อ...” เธอรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกเอาซะเลยเมื่อได้เห็น ‘สิ่งนั้น’ ใกล้ๆ เต็มสองตา

“เอาน่า ถือซะว่าฉันเป็นพี่ชาย”

เขาก็ขยันย้ำคำว่าพี่ชายซะเหลือเกิน เธอบีบสบู่เหลวลงฝ่ามือตัวเองแล้วทรุดตัวลงนั่งคุกเข่า เงยหน้ามองเขา...โอ้โห พอมองจากต่ำขึ้นที่สูง ไอ้นั่นของเขายิ่งดูใหญ่โตมากขึ้นไปอีก

เธอถูสบู่ที่ขาให้เขา ลูบๆ ขัดๆ แล้วค่อยๆ เลื่อนมือสูงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งถึงอวัยวะความเป็นชายที่แข็งกร้าว เธอจับมันด้วยมืออันสั่นระริก ก่อนจะลูบไล้ฟองสบู่ให้อย่างเบามือ

“อือ...อา” ชายหนุ่มเงยหน้า หลับตา เสียวทุกรูขุมขน กรามแข็งบดแน่นเมื่อความปรารถนาแห่งอารมณ์ทวีสูงขึ้น จนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้

กันต์ธรดึงตัวเด็กสาวให้ยืนขึ้นแล้วเปิดน้ำแรงสุด รีบชะล้างฟองสบู่ออกจากตัวเขาและเธอออกให้ไว ก่อนจะอุ้มเธอพาดบ่าออกจากห้องน้ำ ทั้งๆ ที่เนื้อตัวยังเปล่าเปลือยทั้งคู่

“หนูยังไม่มีเสื้อผ้าเลยค่ะ” เธอเตือนเขา

“เอาไว้ค่อยใส่” เขาบอกเสียงพร่า โยนตัวเธอลงบนเตียงนุ่มจนร่างเล็กกระเด้งกระดอน

“ว้าย ! ” อุทานอย่างตกใจ ตาโตเมื่อเขาตามขึ้นมาคร่อมอยู่เหนือร่างเธอ “คุณจะทำอะไรหนูคะ”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป