บทที่ 4 4

“มันเก่งแต่งานเลขาค่ะ งานอื่นได้แต่ติดตามเท่านั้น” เลขาสาวย้อนบอสหนุ่มพร้อมกับรอยยิ้มอย่างรู้เท่าทัน

“น่าจะหัดเอาไว้นะ อีกหน่อยจะได้เป็นคุณนายคอยออกรอบกับสามี”

“อย่าพูดถึงเรื่องอนาคตเลยค่ะบอส มันยังไม่รู้เลยว่ามันจะไปไกลถึงตอนนั้นหรือเปล่า” เธอตอบแบบสบาย ๆ ไร้ความกังวล

“คุณมันเป็นผู้หญิงเก่งนะ คุณสิทธิโชคเขาโชคดีที่มีคนรักอย่างคุณมัน ถ้าเขาทิ้งคุณมันผมก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรดีแล้ว”

“มันอาจจะเป็นฝ่ายทิ้งคุณโชคก่อนก็ได้ค่ะบอส” เลขาสาวตอบพร้อมกับรอยยิ้ม

“นั่นสินะ ผมก็ลืมคิดไป” บอสหนุ่มหยอกกลับเลขา มองไปที่ริมถนนมืด ๆ แล้วก็นึกถึงหญิงสาวตัวเล็กนุ่มนิ่มที่เสียสละหลังให้เขาขี่ “เออคุณมัน ผมมีเรื่องจะให้จัดการหน่อย”

“เรื่องอะไรคะบอส”

“ผมอยากได้ประวัติของพนักงานพาร์ตไทม์ที่ชื่อสุภัครพี สนิทศรีศิลป์ เธอทำงานอยู่ที่โรงแรมเรานี่แหละ จัดการให้ผมหน่อยนะ”

“ได้ค่ะ ด่วนไหมคะบอส” หญิงสาวจดรายละเอียดลงในสมุดบันทึก และถามถึงความสำคัญเพื่อที่จะจัดอันดับการทำงาน “เอ๊ะ!”

“อะไรเหรอคุณมัน”

“นามสกุลไงคะ บอสไม่คุ้นบ้างเหรอคะ”

เขาคุ้นสิ ถึงได้ขอประวัติ แต่ก็ไม่พูดออกไปเพราะอยากทดสอบสมองของเลขาตัวเอง “ทำไมเหรอคุณมัน”

“ก็บอสเคยให้มันช่วยตามหาผู้หญิงที่ชื่อ.. เดี๋ยวนะคะ” เลขาสาวเปิดหาในสมุดบันทึกที่จัดไว้เป็นหมวดหมู่อย่างมีระเบียบ “ระพี สนิทศรีศิลป์ค่ะ บอสบอกให้มันตามหาที่อยู่ของเธอเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว จำได้ไหมคะ”

“ผมก็ว่าคุ้น ๆ นะคุณมัน แต่นึกไม่ออกจนคุณมันพูดนี่แหละ ถ้าอย่างนั้นผมขอเป็นเรื่องด่วนที่สุดก็แล้วกัน” หลังจากตามหามานานแรมปี บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสของเขา เธอคนนี้อาจจะเป็นกุญแจตัวสำคัญก็ได้.. สุภัครพี รพี.. รอหน่อยนะครับคุณลุง ผมอาจจะมีของขวัญวันเกิดสุดพิเศษ มอบให้คุณลุงในวันเกิดครบรอบ 65 ปีก็ได้

“ครีม ปีใหม่มีโปรแกรมไปไหนหรือเปล่า”

“ถ้าที่โรงแรมไม่โทรตามก็ไม่มีนะ จีนมีอะไรหรือเปล่า” สุภัครพีที่อยู่ในชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยตอบเพื่อน

“ไปเที่ยวกับที่บ้านเราไหม พวกเราจะไปทะเล จองที่พักเอาไว้แล้ว”

“จีนไปเที่ยวเถอะ เราคงไปไม่ได้หรอก เผื่อที่โรงแรมโทรมา ช่วงเทศกาลแบบนี้เงินดีด้วยสิ”

“ทำแต่งาน พักบ้างสิ”

“จีนก็รู้ว่าเราพักไม่ได้” พ่อเธอยิ่งนับวันก็ยิ่งร่างกายเสื่อมโทรม แต่ก็ไม่ยอมเลิกกินเหล้าสักที แล้วไหนจะค่ากินค่าอยู่ ค่าเทอมค่าเล่าเรียน ยังโชคดีที่กู้รัฐได้ ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่มีโอกาสมาถึงจุดนี้

“กะแล้วว่าต้องได้ยินประโยคนี้ ถ้าอย่างนั้นเอานี่ไป” อารยาวางกระเป๋าที่หิ้วลงมาจากรถให้เพื่อน

“ขอบใจจ้ะ” สุภัครพีกล่าวโดยไม่ต้องเปิดกระเป๋าดูก็รู้ว่ามันคือหนังสือการ์ตูน หนังสือนิยาย เพราะที่บ้านเพื่อนเป็นสำนักพิมพ์และยังมีโรงพิมพ์เป็นของตัวเอง เวลาที่มีหนังสือปกใหม่เข้ามา เธอก็จะเอาเล่มตัวอย่างหรือเล่มปรู๊ฟมาให้อ่านฟรีตลอด “ขอบใจมากนะ พรุ่งนี้เราเอากระเป๋ามาคืนให้นะ”

อารยารู้ว่าเพื่อนประหยัดมาก เงินทุกบาทที่หามาได้ต้องใช้สอยอย่างรอบคอบ แม้แต่ของฟุ่มเฟือยเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็แทบจะไม่ได้ซื้อ เธอจึงมักจะแบ่งปันสิ่งที่ตัวเองมีให้เพื่อนด้วย อย่างพี่สาวของเธอที่ทำงานอยู่ในบริษัทเครื่องสำอางชั้นนำ เมื่อได้สินค้าทดลองใช้มา เธอก็มักจะนำมาแบ่งปันให้เพื่อนคนนี้ได้ใช้เสมอ

“อือ อีกประมาณหนึ่งอาทิตย์ภาคต่อของทรูเลิฟจะออกมาแล้วนะ ได้อ่านที่ให้ไปหรือยัง”

“อ่านแต่แบบเล่มเดียวจบ แบบที่เป็นเล่มต่อยังไม่ค่อยได้อ่านหรอก อ่านแล้วอารมณ์มันค้างน่ะ”

“จีนก็ไม่อ่านเหมือนกัน เมื่อก่อนอ่านนะ อ่านแล้วเสียอารมณ์เป็นบ้า บางทีค้างตอนเลิฟซีน หงุดหงิดมากขอบอก”

“ปั่นหัวเพื่อนครีมอีกแล้วนะคุณหนูจีน” พันวาที่เพิ่งเดินเข้ามาสมทบเหน็บเพื่อนสาวลูกเจ้าของธุรกิจที่มีนิสัยก๋ากั่น ปากคอเราะรายผิดกับคุณหนูทั่วไป

“ปั่นอะไรยะคุณวา ฉันยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ”

“เธอก็รู้ว่าเพื่อนเราคนนี้ไร้เดียงสาแค่ไหน ยังจะพูดเรื่องเลิฟซีนให้นางฟังอีก เดี๋ยวนางก็ตัวแดงหรอก” เป็นที่รู้กันในกลุ่มว่าเวลาเพื่อนสาวคนนี้อายทีไร ตัวจะแดงเถือกทั้งตัว ไม่ใช่แดงเฉพาะใบหน้าเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขา

“ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย วาก็ว่าครีมแรงจัง”

“จริงเหรอ” พันวามองเพื่อนด้วยสายตามีแผน “เมื่อคืนนะ ฉันดูหนังเกาหลีเรื่องหนึ่ง พระเอกเป็นเกย์มีอะไรกับองครักษ์ของตัวเอง โอ้โห พี่แกเลียตั้งแต่หัวนมยันไปถึงตรงนั้นเลยนะครีม วาใจสั่นหวิวเลย โคตรอยากเป็นองครักษ์เลย” ตัวคนพูดก็ทำท่าสั่นสะท้าน ใบหน้าชวนเคลิบเคลิ้ม “อยากให้พระเอกจัดให้สักดอก”

“พอเถอะวา พูดอะไรก็ไม่รู้” สุภัครพีหน้าแดงก่ำ ร้อนวาบไปทั่วทั้งกายด้วยความเขินอายต่อคำพูดของเพื่อน

“นั่นไง ๆ แดงแล้วเห็นหรือเปล่า คิก ๆ ๆ” อารยายกแขนของสุภัครพี ชี้ชวนให้พันวาดูพร้อมกับกลั้วหัวเราะด้วยความขบขัน

พันวาหัวเราะลั่น รีบเม้มปากเมื่อเพื่อนร่วมสถาบันที่นั่งอยู่รอบ ๆ หันมามอง “คราวหน้าเวลาอยู่ในบ้าน แก้ผ้าให้ดูหน่อยนะ อยากจะดูว่าแดงไปถึงไหน”

“วาพูดอะไรก็ไม่รู้ ไม่คุยด้วยแล้ว” สุภัครพียกมือกุมแก้มทั้งสองข้างแล้วตบเบา ๆ เพื่อให้รู้สึกเจ็บ จะได้หายอาย

“ครีมไม่เคยมีแฟนเลยเหรอ” พันวาถาม

“ไม่เคยหรอก เราไม่มีเวลาชอบใครหรอก”

“จะยี่สิบแล้วนะ ยังไม่เคยมีแฟนเลยเหรอ รู้ไหมว่าจีนเลิกกับแฟนไป..ห้าคนแล้ว” อารยาคิดสักครู่ก่อนตอบ

บทก่อนหน้า
บทถัดไป