บทที่ 5 5
“วาก็เคยเลิกกับคนที่รักกันมากเหมือนกัน คบกันตั้งแต่ขึ้นมอปลาย แต่พอวาเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยได้แค่หกเดือน มันก็บอกเลิกกับวา มันบอกว่ามันยังรักวาอยู่แต่มันไม่ชอบรักทางไกล แต่พอให้เพื่อนที่บ้านนอกสืบให้ ปรากฏว่ามันมีแฟนใหม่อยู่ที่ราชภัฏเดียวกัน แม่งโคตรเจ็บ” พันวานึกถึงอดีตคนรักสมัยที่เรียนอยู่ขอนแก่นด้วยกัน “ความรักสามปีแพ้ความรักหกเดือน”
“ครีมไม่กล้ามีแฟนเพราะครีมคงไม่มีเวลาให้เขาแน่ เพราะต้องทำงานหาเงิน ฉะนั้นไม่มีจะดีกว่า ว่าแต่ทำไมแมวมาช้าจัง”
“เมื่อกี้เห็นคุยกับอาจารย์อยู่นะ แต่มีคนอื่นมาแทนแมวแล้วนั่น” พันวาที่นั่งหันหน้าไปทางที่เขาคนนั้นเดินมาพอดีเอ่ยขึ้น “เธอไม่คิดจะรักพี่เขาบ้างเหรอครีม พี่เขาจีบเธอมาตั้งแต่วันรับน้องเลยนะ”
สุภัครพีหันกลับมามองเพื่อน “พี่กาแฟเขาก็แค่เอ็นดูเราเท่านั้นแหละ”
“เทียวไล้เทียวขื่อแบบนี้เขาไม่เรียกว่าเอ็นดูหรอกนะ เขาเรียกว่าจีบ” อารยากระซิบกระซาบ แล้วส่งยิ้มให้ชายหนุ่มที่เดินมาเกือบจะถึงโต๊ะที่พวกตนนั่ง
“สวัสดีจ้ะสาว ๆ กำลังนินทาพี่อยู่ใช่ไหม” นักศึกษาหนุ่มปีสามทักทายสาว ๆ รุ่นน้องปีหนึ่งทั้งสามคนอย่างอารมณ์ดี แล้วถือวิสาสะนั่งลงตรงที่ว่างข้าง ๆ หญิงสาวที่เขาสนใจมากเป็นพิเศษ “สวัสดีค่ะน้องครีม”
“สวัสดีค่ะพี่กาแฟ วันนี้มีเรียนเหรอคะ”
“เปล่าหรอกค่ะ พี่มีนัดกับอาจารย์ก็เลยแวะมาหาน้องครีมด้วย พี่มีของมาฝากค่ะ ช่วงวันหยุดพี่กลับบ้านมา” พรหมเทพยื่นถุงของฝากให้หญิงสาว
“ครีมเคยบอกแล้วนี่ว่าไม่ต้องซื้อมาฝากครีมแล้ว” ทุกครั้งที่เขากลับบ้านที่จังหวัดสงขลา เขาจะหิ้วของฝากมาให้เธอตลอด และเขาก็กลับบ้านบ่อยมากจนทำให้เธอเกรงใจ
“พี่อยากซื้อนี่นา ครีมก็รับไว้เถอะนะ” หนุ่มหน้าคมลูกชายเจ้าของไร่กาแฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“ครีมเกรงใจที่รับอยู่ฝ่ายเดียว ไม่เคยซื้ออะไรฝากพี่กาแฟบ้างเลย”
“แค่รับของฝากจากพี่ก็พอแล้ว เรื่องนั้นไม่ต้องคิดมากไปหรอก”
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณนะคะ”
“รับของฝากแล้วรีบไปกันเถอะ วันนี้ฉันอยากไปซื้อของใช้สักหน่อย”
“แต่แมวยังไม่มาเลยนะ”
“นั่นไง นางมาแล้ว”
สุภัครพีหันไปมองแล้วจึงหันกลับมากล่าวลาชายหนุ่มรุ่นพี่ เพื่อไปซื้อของใช้ส่วนตัวกับเพื่อน ๆ
ใกล้สิ้นปีเข้ามาแล้ว คนอื่น ๆ ต่างก็มีโปรแกรมไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ และครอบครัว แต่สำหรับสุภัครพีแล้วเธอกลับต้องมานั่งดูแลพ่อที่เอาแต่เมา จมอยู่กับความทุกข์ระทมที่ว่าตัวเองเลี้ยงเมียได้ไม่ดี เมียจึงต้องล้มป่วยจนตายจากไปตั้งแต่ยังสาว
“พ่อกินข้าวหน่อยนะจ๊ะ” เธอบอกกับบิดาหลังจากท่านตื่นนอนในตอนสาย ๆ ของวัน เรียกว่าเป็นช่วงที่ท่านมีสติสมบูรณ์ที่สุดของวัน
“พ่อไม่กินหรอกลูก หนูกินเถอะ”
“แต่พ่อไม่สบายอยู่นะ ถ้าไม่กินข้าวมันจะยิ่งแย่ไปใหญ่นะจ๊ะ”
“พ่อสบายดีนะ ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย” สุภัคแย้งลูกสาว นั่นก็เพราะเขาเมาหนัก จนจำไม่ได้ว่าตัวเองป่วยหนักถึงขนาดอาเจียนเป็นเลือด หมดสติอยู่ริมถนนก็หลายครั้ง ทุกครั้งก็ได้ชาวบ้านในละแวกช่วยพามาส่งเอาไว้ที่ห้องเช่า “ครีม”
“จ๋าพ่อ”
“ขอเงินพ่อสักร้อยสิลูก”
“กินข้าวก่อนนะพ่อนะ ถ้าพ่อกินข้าวแล้วครีมจะให้เงินพ่อนะ” หญิงสาวหว่านล้อมบิดา
“พ่อกินไม่ลงหรอกลูก ร่างกายพ่อมันรับอย่างอื่นไม่ได้แล้วนอกจากเหล้า ให้เงินพ่อเถอะนะลูกนะ” ต่อให้เขากลายเป็นไอ้คนขี้เมา แต่เขาก็ไม่เคยเป็นขี้เมาเจ้าอารมณ์ และไม่เคยแล้งน้ำใจกับเพื่อนบ้าน อะไรที่ช่วยได้ก็จะช่วยเท่าที่สติจะอำนวย จึงไม่มีคนเกลียดขี้หน้าเขา ในบ้านจึงมีของกินของฝากจากคนอื่น ๆ อยู่เสมอ ทำให้พอประหยัดค่ากินไปได้บ้าง
“ดื่มแต่เหล้าร่างกายจะพังเอานะจ๊ะพ่อ อย่างน้อยก็กินข้าวรองท้องสักหน่อยจะดีกว่า”
“อย่าบังคับพ่อเลยนะลูกครีม ขอเงินให้พ่อเถอะนะ” บุรุษผู้เคยอ่อนโยนและขยันทำมาหากินแบมืออ้อนวอนลูกสาว
“ถ้าพ่อไม่กินครีมก็ไม่ให้” เธอข่มใจแข็งใส่บิดา เดินกลับไปกินข้าวที่เตรียมเอาไว้
สุภัคถอนหายใจ เดินคอตกไปนั่งร่วมวงกับลูกสาว แล้วตักข้าวใส่ปากด้วยมือที่สั่นเทาเพราะหิวเหล้าจัด
หญิงสาวมองอาการมือสั่นจนน่ากลัวของบิดา ได้แต่ฝืนกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เป็นขนาดนี้แล้วแต่ก็ยังไม่ยอมหยุดเหล้า ท่านไม่ห่วงเธอที่เป็นลูกเพียงคนเดียวบ้างเลยเหรอ ผิดกับเธอที่เป็นห่วงท่านที่สุดในชีวิต ห่วงจนตัดใจไม่ยอมรับทุนแลกเปลี่ยนที่ทางมหาวิทยาลัยเสนอให้ เธอยอมทิ้งอนาคตเพื่อท่าน แต่ท่านไม่เคยคิดจะสร้างอนาคตให้เธอเลย
แต่ถึงจะเป็นแบบนี้เธอก็ไม่โกรธท่านหรอก เพราะรู้ว่ามันเกิดจากความรักที่ท่านมีต่อมารดา ความรักไม่ใช่ความผิด
“พ่อ!” สุภัครพีอุทานด้วยความตกใจ เมื่อบิดาที่เพิ่งตักข้าวใส่ปากได้แค่สองคำช้อนร่วงลงจากมือ ตัวงอกุมท้องร้องโอดโอย ก่อนจะอาเจียนเลือดสด ๆ ออกมา “พ่อ! พ่อเป็นอะไร พ่อจ๋า” หญิงสาวเข้าไปประคองบิดา น้ำตาไหลด้วยความตกใจและเป็นห่วง
“พ่อไม่เป็นไรหรอกลูก ไม่ต้องตกใจไป” สุภัคเช็ดเลือดที่ปากแล้วปลอบโยนลูกสาวเสียงอ่อนโยน ทนข่มอาการปวดท้องที่เป็นบ่อยมากในระยะหลัง ๆ มานี้ มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาอาเจียนออกมาเป็นเลือด เพียงแต่ว่าครั้งนี้มันมาเกิดต่อหน้าลูกสาวเท่านั้นเอง
“ไปหาหมอกันนะพ่อนะ”
