บทที่ 4 Chapter 4
“มึงสองตัวนี่ไม่ต่างจากเพื่อนรักของพวกมึงเลยว่ะ จวนตัวเข้าหน่อยแหกปากร้องหาพ่อกันใหญ่ กูถามจริงเหอะ มึงคิดเรอะว่าพ่อมึงจะช่วยเหลือพวกมึงได้น่ะ”
“ไอ้ต้น มึงทำอะไรกับมัน”
“เปล๊า กูไม่ได้ทำว่ะ คนจัดคือเจ้านายกู ก็สาสมกับที่มันบังอาจแตะผู้หญิงของเขานั่นแหละ ทีนี้ก็ถึงคิวมึงสองตัว กูควรจะทำอะไรกับพวกมึงดีว้า...”
ชลวัสหรี่ตา ส่งเสียงยียวน ขณะยกขาขึ้นไขว่ห้าง กระดิกปลายเท้าที่อยู่ในรองเท้าแบรนด์ดังระดับโลกรุ่นลิมิเต็ด
“ไม่นะ อย่าทำอะไรพวกกูเลย พวกกูไม่ได้แตะเมียเจ้านายมึงนะโว้ย”
“ใช่ ๆ พวกกูสัญญาจะไม่ข้องแวะกับพวกมึงเลยตลอดชีวิต”
“น้อยไป”
“แต่ แต่พวกกูไม่ได้ทำอะไรผิด”
“คนที่สมคบคิดกันปล้นเงินจากกาสิโนพวกกูไม่ผิดก็แปลกแล้ว แล้วไอ้หน้าตัวเมียหน้าไหนที่มันพากันหลอกเมียนายกูขึ้นรถไปด้วยน่ะหา!”
“มะ มึงรู้ได้ไง”
“ไอ้ต้นมันคิดว่ามันฉลาด พวกมึงเลยพลอยได้ใจ แต่ช่างเถอะ หนี้พวกนั้นไอ้ต้นมันรับสภาพไปแล้ว บอกตามว่ะเห็นสภาพพวกมึงแล้ว เสียเวลากูฉิบหาย รู้มั้ยไอ้ต้นมันไม่ร้องวอนขอชีวิตเหมือนพวกมึงเลย นี่ถ้ามือไม่ถูกมัดพวกมึงคงกราบตีนกูแล้วมั้ง”
“เราผิดไปแล้ว อย่าทำอะไรพวกเราเลย”
ถึงต้องกราบตีนคนตรงหน้าถ้าทำให้พวกมันรอด มันก็ยอม
ชายหนุ่มทั้งสองทิ้งความผยองหยิ่งวิงวอน
ชลวัสส่ายหน้าด้วยความเบื่อระอา เขาคิดว่าจะได้เล่นสนุกเต็มที่สักหน่อย พวกมันกลับกลัวตายขี้ขึ้นหัวไปก่อนแล้ว กวาดตามองไปรอบห้อง คนของเขาต่างพากันหัวเราะเบา ๆ ด้วยความสมเพช
“กูมาเพื่อคิดบัญชีพวกมึงจะให้ปล่อยเฉย ๆ คงไม่เวิร์ก” ขณะกระดิกเท้าครุ่นคิดว่าจะทำอะไรดี คนของเขาเอ่ยขึ้น
“ลูกพี่ในห้องนอนมันมีเด็กสาวคนหนึ่ง ตอนเราเข้ามามันกำลังตั้งกล้องเตรียมจะไลฟ์โชว์”
“หืม... ไลฟ์เซ็กซ์”
“ถูกเผง มันออนไลน์ไปแล้วแต่ยังไม่ทันเริ่มพวกเราเข้ามาก่อน”
“อ่าฮะ ห้องไหน” ชลวัสดีดตัวลุกจากโซฟา ลูกน้องก้าวเร็ว ๆ ไปเปิดประตูให้ เนื่องจากยูนิตนี้มีห้องนอนสามห้อง
สิ่งที่เขาเห็นคือ กล้องบนขาตั้งสองตัวที่เซตไว้แล้ว บนเตียงกว้าง ร่างอวบอิ่มของสาวคนหนึ่งถูกมัดมือไพล่หลัง มัดขาและมัดปาก เสียงที่ดังออกมาจึงอู้อี้แผ่วเบา ผมยาวรุ่ยร่ายยุ่งเหยิงปิดใบหน้าที่นอนตะแคง เธอไม่ได้นอนนิ่งแต่ดิ้นบิดไปมา เขานิ่วหน้า เข้าไปดึงร่างนั้นให้หันมามอง
“อื้อ อื้อ...”
เขาแก้ผ้าที่มัดปากออกให้
“ชะ ช่วยหนู...ด้วย”
เด็กสาวตาโต ส่งเสียง ส่งสายตาอ้อนวอนให้ช่วย หากบางสิ่งบางอย่างบอกเขาว่ามันไม่ปกติ
“เธอโดนยา”
“น่าจะใช่นะลูกพี่ เอาไงดี”
เห็นสภาพหน้าตาแดงก่ำ ตัวสั่นเทาสะท้านนั่นแล้ว ชลวัสที่คุ้นชินกับเรื่องพวกนี้ก็ตาวาวโรจน์แข็งกร้าว ช้อนร่างนุ่มขึ้นจากเตียง พาออกมานอกห้อง หยุดตรงหน้ามารสังคมสองตัว
“มึงสองตัวชอบเรื่องพวกนี้นักใช่มั้ย กูจะจัดให้สาสมใจพวกมึงไม่มีวันลืมแน่”
เอิร์ทกับแดนมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ
“แต่ กูจะให้มึงเป็นนายเอกว่ะ”
“ฮะ! มะ ไม่นะโว้ย ไอ้ชล ไอ้เหี้ย!”
ลูกน้องชลวัสหัวเราะครืน ขณะที่ลูกพี่ออกคำสั่ง
“จัดให้มันสักห้าคนหน่อย คัดที่ล่ำ ๆ ถึก ๆ หรือพวกมึงสนใจจะเล่นเองก็เอาเลย”
“โอ้วววว น่าสน แต่ขอบายดีกว่าลูกพี่ ฮ่า ๆ”
“ไม่นะ! ไอ้เหี้ยชล! อย่าทำบ้า ๆ นะโว้ย”
ชลวัสไม่สนเสียงโวยวายพวกนั้น เดินดุ่มออกจากห้องโดยมีคนของเขาช่วยเปิดประตูและเรียกลิฟต์ให้ บนตึกแห่งนี้มีห้องส่วนตัวของเขาห้องหนึ่ง
“ตามหมอให้ด้วย”
นั่นคือคำสั่งก่อนประตูลิฟต์จะปิดพาเขากับสาวน้อยที่เริ่มดิ้นวุ่นวายขึ้นไปถึงชั้นที่ต้องการ เปิดประตูด้วยความทุลักทุเล ที่สุดก็สามารถโยนร่างนุ่มนิ่มนั้นลงในอ่างอาบน้ำ กดหัวเธอไว้ขณะเปิดก๊อกปล่อยน้ำลงอ่างและคว้าฝักบัวมาเปิดน้ำเย็น ๆ ฉีดรดราด พลางบ่นเสียงขรมขรึมติดรำคาญ
“โตกว่านี้หน่อยก็ไม่ได้ ไอ้ชลจะได้สนองอยากให้ไม่ต้องวุ่นวายตามหมอตามแมว เฮ้อ...วุ่นฉิบ!”
พัลลภาขยับไปนั่งซุกตัวติดผนังห้องขัง ซบหน้าที่มีน้ำตาหลั่งรินไม่หยุดกับหัวเข่า เธอซาสะอื้น แต่ไม่สามารถหยุดน้ำตาที่มาจากความร้าวรานใจได้ นึกตัดพ้อโชคชะตาที่ใจร้ายกับเธอมากเหลือเกิน พรากบุคคลที่รักเธอไปแล้วยังดับอนาคตของเธออีก ป่านนี้ใครต่อใครคงรู้กันไปทั่วหมดแล้ว อนาคตที่เพิ่งเริ่มต้นในรั้วมหาวิทยาลัยได้ไม่กี่เดือนดับวูบลง คงไม่มีเพื่อนคนไหนอยากคบกับฆาตกรเช่นเธออีกแล้ว แม้แต่ผู้ชายท่าทางร้ายกาจคนนั้นยังเมินหน้าหนีเลย
ผู้ชายที่บังเอิญเคยช่วยเธอไว้จากคนชั่วช้าอย่างดนัยวิชและอาทิตย์
วันนั้นแม่เพ็ญฉายใช้ให้เธอเอาเอกสารสำคัญไปให้ดนัยวิชที่คอนโดหรูของเพื่อนเขา เธอไม่อยากไปแต่แม่เพ็ญย้ำว่ามันสำคัญมากและไม่ไว้ใจให้ใครอื่นถือไป เธอเลยต้องจำใจทำตามคำสั่งแม้จะไม่อยากเข้าใกล้ผู้ชายคนนั้น นับแต่ที่เธอย้ายเข้ามาอยู่บ้านเลิศพงศ์พิเชษฐ์ในฐานะหลานสาวคนเดียวของเพ็ญฉายที่เธอเรียกว่าแม่ แดนมักกลั่นแกล้งหาเรื่องคุกคามกะลิ้มกะเหลี่ย ไม่แตะด้วยมือก็คุกคามเธอด้วยคำพูด ทำให้เธอต้องระมัดระวังและไม่อยากอยู่ใกล้ทายาทคนเดียวของเลิศพงศ์พิเชษฐ์
