บทที่ 10 เวลาผ่าน คนก็เปลี่ยน
ดาวเรืองขมวดคิ้วสีหน้าไม่พอใจ บุตรสาวชักเอาแต่ใจไม่รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่แล้ว ทำไมโตมาถึงดื้อนัก เรื่องในอดีตน่าจะลืมๆ มันไปเสียบ้าง ไปเอานิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นมาจากไหนกันนะ
“ทำไมพูดจาแบบนี้ ลูกโตแล้วนะ หัดมีเหตุผลหน่อยมิ คมเขามีน้ำใจลูกไม่ควรปฏิเสธแบบนี้”
“แล้วทำไมแม่ต้องให้เขาพามิไปโรงพยาบาลด้วยล่ะคะ คนขับรถที่บ้านก็มี มิให้ลุงเก่งไปส่งก็ได้!”หล่อนพยายามหาเหตุผลมาแย้งมารดา
“ลุงแกแก่แล้ว มิขาเจ็บอยู่จะให้แกพยุงมิยังไง” หล่อนอธิบายให้ลูกฟัง
“ไม่เห็นต้องพยุง ในเมื่อมีบุรุษพยาบาลคอยเข็นรถให้มิอยู่แล้ว”
“พ่อคมเขาขับรถชนมิไม่ใช่เหรอ ทำไมมิไม่ให้เขารับผิดชอบล่ะลูก”
“ไม่ได้ชนสักหน่อย มิแค่ตกใจเลยล้มลงไปเอง!”
คมฉณัฐเริ่มอึดอัดเพราะเขาเป็นสาเหตุให้หล่อนกับมารดาต้องขัดแย้ง ความจริงแค่อยากมีเวลาพูดคุยกันให้มากขึ้นเท่านั้น พอเห็นแบบนี้แล้วรู้สึกผิดลึกๆ
“ไปกับพ่อคมซะมิ อย่าให้แม่ต้องโมโหนะ!” คนเป็นแม่เริ่มเสียงแข็ง
“แต่แม่คะมิไม่อยากไป แม่ก็น่าจะรู้เหตุผลว่าทำไม!”
“ไปกับพี่คมซะมิ อย่าเรื่องมาก แม่ไม่ชอบเห็นมิไม่มีเหตุผลแบบนี้เลย”
“ทำไมแม่ต้องบังคับมิด้วยล่ะคะ” หญิงสาวเม้มริมฝีปากสีหน้าไม่พอใจ
“อย่ามาทำนิสัยเด็กๆ เรื่องมันนานมาแล้วอย่าเรื่องมาก อยากทำให้ที่บ้านมีปัญหาหรือไง ที่ครอบครัวเราอยู่สุขสบายแบบนี้เพราะพ่อคมคอยช่วยเหลือ ลูกรู้บ้างหรือเปล่าเงินที่ลูกใช้เรียนที่เมืองนอกนั้นก็เงินของพ่อคมไม่ใช่น้อย!”
“อะไรนะแม่!” มิลันดารู้สึกหน้าชา เมื่อได้ยินเรื่องนี้ หล่อนไม่เคยรู้มาก่อนเลย
หล่อนรู้สึกโกรธ เพราะอะไรถึงได้ปิดบังเรื่องนี้กับหล่อน หมายความว่าตลอดเวลาหล่อนใช้เงินของเขาในการเล่าเรียนอย่างนั้นหรือ
“ไปกับพ่อคมซะ อย่าให้แม่ต้องสั่งเป็นครั้งที่สอง!”
“ก็ได้ค่ะแม่ มิจะไป แม่จะได้สมใจ” หญิงสาวประชดแล้วเขย่งเท้าออกนอกบ้านไปที่รถของคมฉณัฐ
เขายกมือไหว้มารดาหล่อนแล้วเร่งฝีเท้าตามไป พอเห็นร่างบางเขย่งเท้าอย่างยากเย็นเลยเข้าประคอง แต่อีกฝ่ายกลับสะบัดด้วยความโมโห
“ไม่ต้อง ฉันเดินเองได้!” หล่อนตวาดเขา
หล่อนมาถึงรถจนได้ หญิงสาวนั่งประจำที่นั่งด้านข้างคนขับ เจ้าของรถเปิดประตูกำพวกมาลัยแน่น แล้วเคลื่อนออก ตอนนี้มันเป็นโอกาสดีที่เขาจะพูดคุยกับมิลันดา
“น้องมิ พี่อยากขอโทษเรื่องในอดีตที่พี่เคยทำไม่ดีเอาไว้” น้ำเสียงเขานุ่มนวล แฝงด้วยความปรารถนาให้อีกฝ่ายยินยอมอภัย เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว แต่ ณ ตอนนี้ โอกาสในการปรับความเข้าใจมันมาถึงแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มิลืมไปหมดแล้ว” หญิงสาวประชดแล้วหันมองทางอื่นไม่อยากสบตากับคู่สนทนา
“น้องมิอย่าทำแบบนี้ได้ไหม พี่ขอโทษ พี่ยอมรับผิดแล้วครับ”
“ไม่ต้องมาขอโทษหรอกค่ะ ถ้าจะผิดก็ผิดที่ฉันมันโง่เอง” หญิงสาวประชด
เอี๊ยด!
เขาเบรกรถกะทันหันด้วยความไม่พอใจ ไม่นึกว่าเด็กสาวที่เคยว่าง่ายจะดื้อดึงถึงเพียงนี้ หากไม่คุยให้เข้าใจ คงอกแตกตายแน่วันนี้
“พี่ว่าเราคงต้องคุยกันให้รู้เรื่อง” น้ำเสียงคนตัวใหญ่เริ่มแข็งขึ้น
หล่อนตวัดสายตามองสีหน้าบึ้งตึง จะเอายังไงกันหล่อนกันแน่ ทำไมต้องพยายามขุดเรื่องเก่ามาพูดไม่จบไม่สิ้น มันเหมือนเอาน้ำเกลือมาราดแผลเก่า หล่อนไม่อยากนึกถึงคำพูดเขาในวันนั้นอีกแล้ว
“แต่ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณอีกแล้ว” หล่อนปฏิเสธ ไม่จำเป็นต้องปรับความเข้าใจอะไรกันอีก ในเมื่อคำพูดในวันนั้น หล่อนยังจดจำได้ดีมันชัดเจน จนหัวใจปวดร้าวไปหมด
“น้องมิเปลี่ยนไปมากนะครับ เมื่อก่อนน้องมิว่าง่ายและไม่เคยแสดงท่าทางแบบนี้กับพี่เลย แต่ตอนนี้น้องมิทำเหมือนกับพี่เป็นตัวเชื้อโรค” ชายหนุ่มเริ่มตัดพ้อ
“แล้วทำไมฉันต้องเป็นเหมือนเดิมด้วย ในเมื่อฉันคนเดิมมันน่าเบื่อ น่ารำคาญ ในเมื่อคุณไม่ต้องการจะยุ่งกับฉัน ฉันก็กำลังพยายามที่จะไม่ยุ่งกับคุณอยู่นี่ไง!”
“น้องมิกำลังเข้าใจผิด พี่ไม่เคยคิดว่าน้องมิน่ารำคาญเลยสักครั้ง”
“พอเถอะฉันไม่อยากจะพูดอะไรกับคุณแล้ว” หล่อนอยากไปให้ถึงโรงพยาบาลโดยเร็ว อยากตัดปัญหาทุกอย่างออกไป ไม่ต้องรื้อฟื้นต่างคนต่างอยู่คงจะดีมาก
“มิลันดา ทำไมถึงได้ดื้อนัก ขอโทษก็แล้ว อ้อนวอนก็แล้ว ยังจะเอาอะไรอีก!” คมฉณัฐเสียงดัง สีหน้าหนักใจ ทำไมหล่อนเปลี่ยนไปมากขนาดนี้
“ไม่ได้จะเอาอะไร แค่คุณอย่ามายุ่งกับฉันก็พอ เราสองคนต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องมายุ่งหรือสนใจกัน แค่นี้คุณทำได้ไหมล่ะ!”
ไม่อยากให้เขาเข้ามาข้องเกี่ยวในชีวิตไปมากกว่านี้อีกแล้ว แค่นี้หัวใจหล่อนก็หวั่นไหวจนจวนเจียนจะคลั่ง ยิ่งเห็นเขาห่วงใยใส่ใจเหมือนเมื่อก่อน ยิ่งทำให้แผลที่มันกำลังสมานกำลังจะอักเสบใหม่อีกครั้ง
“ทำไม พี่ไม่เข้าใจ เรื่องมันก็ผ่านไปนานแล้ วทำไมน้องมิต้องเจ้าคิดเจ้าแค้นพี่แบบนี้!” เขาถามน้ำเสียงเจือด้วยความน้อยใจ หล่อนเกลียดเขามากขนาดนั้นเลยหรือ
“ถ้าอย่างนั้นคุณต้องการให้ฉันทำอะไร!”
“เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม พี่อยากให้มิพูดคุยกับพี่เหมือนเดิม”
“อย่างนั้นเหรอ แล้วฉันต้องหลงรักคุณเหมือนเดิมด้วยหรือเปล่าคุณถึงจะพอใจ!” หญิงสาวประชดเขาเสียงแข็ง
ชายหนุ่มขบกรามแน่น คำพูดแต่ล่ะคำที่หล่อนเอ่ยออกมาช่างยอกย้อนถือดีเสียเหลือเกิน มิลันดาแสนน่ารักหายไปไหนเสียแล้ว
“ถ้าหลงรักพี่อีกครั้งได้ก็ทำสิ เพราะพี่ต้องการให้เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน!” คนถูกถามย้อนทันควัน
มิลันดาชะงัก ใบหน้าของหญิงสาวกำลังแดงซ่าน หล่อนไม่ได้อายแต่หล่อนโกรธ ยังไงเขาก็ยังเห็นหล่อนเป็นของเล่นอยู่ดี
“คุณมันไม่มีหัวใจเลยสักนิด!” หล่อนตัดพ้อเขาเสียงสั่น เอื้อมมือไปเปิดประตูรถหมายจะหนีไปจากคนไร้หัวใจเช่นเขา
คมฉณัฐรั้งเรียวแขนคู่สนทนา แต่อีกฝ่ายสะบัดไม่ยินยอม คนตัวใหญ่เลยจับเรียวแขนสองข้างไว้แล้วดึงจนร่างบางเซเข้ามาหา ใบหน้าสองคนห่างเพียงแค่คืบ มิลันดารับรู้ถึงลมหายใจอุ่นร้อน หัวใจกำลังเต้นโครมครามเพราะความหวั่นไหว ดวงตาไหวระริกพยายามตั้งสติ หล่อนกัดฟันข่มอารมณ์หวาวไหวภายในแล้วใช้มือผลักดันแผงอกให้อีกฝ่ายออกห่าง
“ปล่อยฉันนะ!” หล่อนร้องบอก พยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นพันธนาการ
