บทที่ 7 เวลาผ่าน คนก็เปลี่ยน

มิลันดาเม้มริมฝีปากร่างกายสั่นเทา หล่อนไม่อยากให้เขาเห็น ต้องหนีให้เร็วที่สุด แต่ทว่าหนุ่มข้างบ้านกลับหยุดเช็ดผมแล้วหันมาพอดี ดวงตาสบกัน คมฉณัฐขมวดคิ้วมองสาวข้างบ้านด้วยความงุนงง

“ใครกัน หน้าตาสะสวย แต่ทำไมถึงดูคุ้นตานัก” เขาคิดในใจ

มิลันดารีบปิดหน้าต่างรูดม่านเพื่อไม่ให้เขาเห็น ร่างบางยืนพิงกำแพงจับหน้าอกตนเองเพื่อควบคุมอาการเต้นของหัวใจ มันทำเหมือนจะโผล่ออกมานอกร่าง ทำไมเขาจะต้องอยู่ในสภาพเช่นนั้นด้วย สงบสติอารมณ์พักใหญ่ จึงเดินไปจัดการข้าวของของตนเองต่อ

ไม่อยากคิดมาก เวลาผ่านไปนานแล้ว ป่านนี้เขาคงมีแฟน หรือไม่ก็สาวสวยรายล้อมมากมาย แม่เล่าว่าพี่คมรวยแถมยังเนื้อหอมอีก คงไม่อยู่เป็นโสดจนอายุล่วงเลยเข้าสามสิบหรอก มิลันดาจัดของเสร็จเลยถือโอกาสอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เดินลงชั้นล่างอยากเปิดหูเปิดตากับอะไรๆ ที่มันเปลี่ยนแปลง

“มิ... จัดของเสร็จแล้วหรือลูก” ดาวเรืองถามบุตรสาวเมื่อเห็นบุตรสาวกำลังเดินลงมาจากชั้นบน

“ค่ะแม่” หญิงสาวตอบ

พิภัทรแวะมาที่บ้านเพราะรู้ว่ามิลันดากลับมาจากอังกฤษแล้ว หล่อนจำได้เลยยกมือไหว้เพื่อนพ่อแล้วยิ้มบางๆ

“หนูมิใช่ไหมเนี่ย” แขกของบ้านถาม สีหน้าตกใจ

“ใช่ค่ะ มิเองค่ะ”

“ดูสิโตเป็นสาวแล้ว สวยขึ้นเป็นกองจนแทบจำไม่ได้เลย”

“ไม่หรอกค่ะ ชมมิเกินไปแล้ว” หญิงสาวแก้ตัว

“แบบนี้มีหนุ่มตามจีบเยอะเลยล่ะสิ” พิภัทรเริ่มแซว

บุตรสาวเพื่อนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ร่างเคยอวบอิ่มสมัยยังเด็กวัยรุ่นกลายเป็นเพรียวระหงส์ดูสมส่วน แถมท่าทางโตเป็นผู้ใหญ่ แว่วมาว่าจบการศึกษาเกียรตินิยม อดภูมิใจแทนเพื่อนไม่ได้เลย

“ไม่มีใครกล้ามายุ่งกับมิหรอกค่ะคุณลุง”

“ทำไมล่ะหนูมิ หลานลุงออกจะสวย” พิภัทรชมไม่ขาดปาก

“คุณเลิกแซวมิเถอะค่ะ”

“ลุงไม่ได้แซวหนูเลย ลุงแค่บอกตามที่เห็นแค่นั้นเองจ้ะ”

“มิเข้าใจแล้วค่ะคุณลุง มิขอตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวตัดบทเพราะไม่อยากถูกแซวอีก

ร่างบางสาวเท้าออกนอกตัวบ้าน ปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาสนทนากันดีกว่า

“สงสัยหนูมิจะงอนข้าแล้ว” เขาหันไปบอกเพื่อน

“ยัยมิไม่อยากให้แกชมหรอก เพราะลูกชายแกไงล่ะทำให้ยัยมิคิดว่าตัวเองไม่มีอะไรดี จนป่านนี้แล้วดูสิ ข้าก็ไม่รู้จะบอกลูกยังไง” ชัยเดชบอกเพื่อน

“เพราะไอ้คมคนเดียว มันเลยทำให้หนูมิเป็นแบบนี้ ไปดูมันเดี๋ยวนี้สิควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าไม่รู้มันจะเอาใครแต่งงานกับมัน ฉันเห็นแล้วกลุ้มใจ” พิภัทรบ่น

“ปล่อยเขาไปเถอะค่ะคุณพิภัทร ยังไงพ่อคมเขาก็เป็นผู้ชายไม่มีอะไรเสียหายหรอกค่ะ” ดาวเรืองออกความคิดเห็น

“แต่ผมอยากให้มันแต่งงานแต่งการไปเสียที ไม่ใช่มาทำตัวเป็นพ่อปลาไหลลอยไปลอยมาไปวันๆ”

“ทำไมถึงอยากให้ลูกชายแต่งงานนักไอ้ภัทร ทีแกยังแต่งตอนเกือบแก่เลย”

“มันก็อายุปาเข้าไปสามสิบแล้วนะ จะให้มันทำตัวแบบนี้ต่อไปคงไม่ไหว” พิภัทรแย้งเพื่อน

“แกจะไปสั่งให้ลูกแต่งงานได้ไงไอ้ภัทร เดี๋ยวนี้มีแต่เจ้าคมมันจะสั่งแกเสียมากกว่า มันทำงานจนรวยออกขนาดนั้น” คนเป็นเพื่อนขัดคอ

“แต่ข้าคิดอะไรดีๆ ออกวะ” พิภัทรยิ้มเจ้าเล่ห์

“อะไรวะ!” ชัยเดชถาม

“หนูมิไง หนูมิยังว่างหรือเปล่า ฉันขอนะอย่างได้เป็นลูกสะใภ้” เขาบอกแล้วหัวเราะลั่น

“ไม่ได้หรอกค่ะ ยัยมิแกโกรธพ่อคมจนห้ามไม่ให้ฉันกับคุณเดชพูดชื่อพ่อคมเลยล่ะค่ะ คงฝังใจเรื่องเมื่อก่อนมากเลย คงไม่มีวันยอมแต่งงานกับพ่อคมแน่ๆ” ดาวเรืองรีบแย้ง

“แบบนี้ก็แย่น่ะสิ” คนอยากได้ลูกสะใภ้เสียงอ่อย

เขาอดโมโหบุตรชายไม่ได้พอเห็นมิลันดาในตอนนี้ ผู้หญิงเพียบพร้อมขนาดนี้หาไม่ได้ง่ายๆ แบบนี้จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อหนูมิปักใจกับลูกชายเขาขนาดนี้ ดูท่าเรื่องในอดีตมันจะทำให้เกิดเรื่องยุ่งเข้าไปใหญ่ เอาเป็นว่าคิดตามคำโบราณเอาไว้แล้วกัน คู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกัน ถ้าคมมันเห็นมิลันดาตอนนี้อาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ใครจะรู้

มิลันดาเดินทอดน่องตามถนนของหมู่บ้าน คำแซวคุณลุงยังคงดังก้อง พอคิดแล้วอดนึกถึงเรื่องในอดีตไม่ได้ หากหล่อนสวยจริงพี่คมคงไม่ปฏิเสธแบบนั้นหรอก ใครจะไปสู้คนอย่างคุณกานต์สินีได้

วันนี้หล่อนนุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้นอวดเรียวขาขาวเนียน สวมเสื้อแขนกุดสีขาว เพราะอยู่ต่างประเทศมานานเลยทำให้ไม่คุ้นกับอากาศเมืองไทยเท่าใดนัก อากาศเมืองไทยร้อนอบอ้าวกว่าที่คิด มิลันดาไม่ได้สนใจกับสายตาหลายคู่ซึ่งมองมาทางหล่อน

“คุณมิออกมาทำอะไรคะ” สาวใช้ในบ้านทักขณะสวนทางกัน

“ออกมาเดินเล่นจ้ะป้า พอดีอยากออกมาเปิดหูเปิดตาบ้างไม่ได้อยู่เมืองไทยมานาน” มิลันดาตอบ

“งั้นป้าไปก่อน เดินเล่นให้สนุกนะคะ”

“ค่ะป้า”

มองรอบๆ แล้วคิดถึงบรรยากาศเก่า พอนึกได้เลยตรงไปยังร้านขนมครกเจ้าประจำสมัยเรียนมัธยม หล่อนหยุดยืนหน้าร้าน

“ป้าจุ๋มสบายดีไหมคะ”

คนขายเงยหน้าขึ้นมองขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ

“คุณรู้จักฉันด้วยเหรอคะ”

“จำมิไม่ได้เหรอคะ มิที่เคยซื้อขนมครกป้ากินประจำ” หล่อนย้อนความถึงอดีต

ป้าจุ๋มเริ่มนึก แล้วอ้าปาก ดวงตาเบิกค้างด้วยความตกใจ

“คะ...คุณมิเหรอคะ”

“ใช่แล้วค่ะป้า มิเอง”

“ตายแล้ว ไม่อยากเชื่อเลย ป้าจำคุณมิไม่ได้เลยทำไมเปลี่ยนไปขนาดนี้ล่ะเนี่ย ดูสิโตเป็นสาว สวยขึ้นเป็นกองเลย!”

“ชมเกินไปแล้วค่ะคุณป้า”

“ป้าไม่ได้ชมเกินไปเลยค่ะ จำได้เมื่อก่อนคุณมิอวบกว่านี้เยอะเลย ไม่คิดว่าเจออีกทีจะสวยอย่างกับนางฟ้า”

มิลันดาหัวเราะแผ่ว หรือหล่อนเปลี่ยนไปมากจริงๆ อาจเพราะไม่กลับมาเมืองไทยเลย คงทำให้คนที่เคยรู้จักจดจำเด็กสาวผมเปีย ถือกระเป๋าไปโรงเรียนทุกวันกระมัง

บทก่อนหน้า
บทถัดไป