บทที่ 8 เวลาผ่าน คนก็เปลี่ยน

ถ้างั้นมิจะรับคำขอบคุณแล้วกันนะคะป้า เดี๋ยวมิขอตัวก่อนนะคะ อยากไปดูร้านหนังสือที่เมื่อก่อนมิเคยไปเช่าอ่านประจำ”

“ได้จ้ะ แล้วอย่าลืมมาอุดหนุนขนมป้าเหมือนเดิมนะคะ”

“จ้าป้า”

หล่อนเดินออกจากร้านขนมครกเจ้าอร่อย เพื่อเป้าหมายต่อไป

คมฉณัฐขับรถออกมาจากบ้านเพื่อไปทำงาน ยังไม่หายคาใจกับสาวข้างบ้าน รู้สึกคุ้นหน้าแต่จำไม่ได้ว่าหล่อนเป็นใคร หล่อนสวยสะดุดตาเชียวล่ะ จังหวะเบรกเบาๆ เอกสารเบาะด้านข้างกลับตกลงไปที่พื้น ชายหนุ่มรีบก้มเก็บวางที่เดิม เงยหน้าขึ้นมา

เอี๊ยด!

เขาเบรกรถกะทันหัน มิลันดาล้มลงกับพื้นทันทีด้วยความตกใจ รถไม่ได้ชน เพียงแต่หล่อนตกใจจนทำให้ล้มลง หล่อนพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นแต่ข้อเท้าดันมาบาดเจ็บเสียก่อนทำให้ลุกยืนไม่ได้ คมฉณัฐรีบเปิดประตูออกมาดู ดูเหมือนเขาชนคนเข้าแล้ว ร่างสูงตรงเข้าพยุงคนเจ็บ เมื่อมิลันดาเงยหน้าสบเข้า หล่อนพยายามลุกแล้วเขย่งเท้าหนีทันที

“คุณ! เดี๋ยวก่อน คุณจะรีบไปไหน!” คมฉณัฐตะโกนไล่หลัง

หล่อนไม่ฟังเสียงอีกแล้ว เวลานี้ไม่ขอเกี่ยวข้องกับเขาดีกว่า กลัวใจตัวเอง แค่เห็นหน้าไม่กี่นาทีหัวใจยังเต้นแปลก ตอนนี้แผลกำลังสมาน อย่าให้มันฉีกขาดเพราะโดนซ้ำเลย

ชายหนุ่มหัวเสียเพราะถูกสาวนิรนามวิ่งหนี แล้วแบบนี้จะทำอย่างไร สายตาชาวบ้านมองมา ไม่อยากเป็นขี้ปากชาวบ้านแถวนี้ คมฉณัฐรีบวิ่งตามไปทันที เสียงฝีเท้าของเขาทำให้มิลันดาหันมอง หล่อนรีบเร่งเขย่งมากขึ้นแต่ช้ากว่าอีกคน เอวบางถูกรวบไว้

“ว้าย!” หญิงสาวร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อตนเองตกอยู่ในอ้อมแขนคนที่หล่อนไม่อยากพบหน้ามาตลอด

“ผมเรียกทำไมคุณไม่หยุด!” คมฉณัฐตำหนิ แล้วจ้องมองใบหน้าของคู่กรณี

คิ้วเข้าขมวด หล่อนคือคนเดียวกันที่เห็นตรงหน้าต่าง เป็นใครกันแน่ถึงอยู่บ้านคุณอาดาวเรืองได้ ผู้หญิงหน้าตาสะสวยแบบนี้ เขาไม่เคยเห็นมาบ้านข้างๆ เลยสักครั้ง

“ผมว่าผมเคยเห็นคุณ” เขาบอก แล้วไม่ยอมละสายตาจากใบหน้าของหญิงสาว

“อย่ามาใช้มุกเก่าๆ เลยค่ะ เราสองคนไม่รู้จักกันมาก่อน” มิลันดาปฏิเสธเสียงแข็ง

“ไม่เป็นไร คุณปฏิเสธผมไม่ว่าอะไรหรอก แต่รู้เอาไว้ว่าผมน่ะจำคนเก่ง”

จำคนเก่งงั้นเหรอ อยากยิ้มเยาะนัก หากจำเก่งป่านนี้คงรู้แล้วว่าหล่อนคือใคร หรือเพราะหล่อนไม่สำคัญพอให้จดจำ

“เรื่องของคุณเถอะค่ะ ทีนี้ปล่อยฉันได้แล้ว”

ชายหนุ่มไม่ฟังอุ้มร่างบางเหนือพื้น

“คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ!” หญิงสาวร้องลั่น

“ผมจะพาคุณไปหาหมอ”ชายหนุ่มบอก

“ไม่ต้อง! คุณพาฉันไปส่งที่บ้านก็พอ แผลแค่นี้ไม่ทำให้ตายได้หรอก”

“ไม่ตาย แต่ก็ทำให้เจ็บ” เขาเถียงแล้วไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะแสดงอาการไม่พอใจแค่ไหน

ร่างบางถูกยัดไว้เบาะหน้าคู่คนขับ หล่อนรู้สึกขัดใจอยากโวยวาย กรีดร้องเสียให้สมใจอยาก ดูเขาสิน่าหมั่นไส้เสียจริงๆ

“ฉันไม่ไปหาหมอเด็ดขาด คุณได้ยินไหม” หล่อนยังยืนยันคำเดิม

“ถ้าไม่ไปหาหมอก็บอกมาบ้านอยู่ไหน”

จะได้รู้สักทีว่าหล่อนใช่คนเดียวกับเมื่อเช้าหรือเปล่า แต่ดูเหมือนหล่อนไม่คิดตอบเอาแต่นั่งเงียบ

“อยู่บ้านคุณชัยเดชใช่หรือเปล่า” เขาเลยถามเอง

มิลันดาหันมองเขาก่อนพยักหน้าช้าๆ เขาต้องรู้อยู่แล้วว่าหล่อนอยู่ที่นั้น คงเห็นหล่อนผ่านหน้าต่าง น่าแปลกไหม รู้ว่าอยู่บ้านพ่อแต่กลับจำไม่ได้ว่าหล่อนเป็นใคร ถูกลืมจริงๆ แล้วสินะเรา น้ำตามันเริ่มเอ่อคลอ อย่าร้องเชียวนะมันน่าสมเพช มิลันดาเตือนตนเอง

หน้างอๆ ตอนนี้มันคุ้นตาจริงๆ หล่อนเป็นใครกันแน่ อยากนึกให้ออกเหลือเกิน ชายหนุ่มหยุดมองใบหน้าจนเผลอลอบสำรวจเรือนร่าง แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อพบว่าหัวใจดันเต้นแรงทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน

รถจอดเทียบหน้าบ้านเขาลงมาเปิดประตูให้ มิลันดาไม่อยากให้เขารู้ว่าหล่อนเป็นใคร รีบเขย่งเท้าหมายจะหนีเข้าบ้านในทันที แต่กลับถูกเขารั้งท่อนแขนไว้

“ผมจะเข้าไปส่ง”

“ไม่ต้อง!” หล่อนรีบปฏิเสธ

“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณต้องปฏิเสธความช่วยเหลือของผมด้วย”

“เพราะฉันไม่ต้องการ ส่งฉันแค่นี้ก็พอแล้ว”

มิลันดาสะบัดท่อนแขนตนเองออก ชายหนุ่มไม่ยอมก้าวออกจากตรงนั้น อยากรู้นักว่าหล่อนคือใคร คงไม่มีใครตอบได้นอกจากคนของบ้านหลังนี้ เขาถามอาดาวเรืองในภายหลังก็ได้

จังหวะนั้นรมย์รวัตรแวะมาหามิลันดาที่บ้าน เขาลงจากรถแท็กซี่สายตาเหลือบเห็นชายหนุ่มท่าทางภูมิฐาน ยืนคุยกับเพื่อนอยู่ หล่อนสบตาเพื่อนแล้วขยิบตาให้เพื่อส่งสัญญาณไม่ให้รมย์รวัตรเรียกชื่อ แต่อีกฝ่ายดันพาสาวเท้ามาหยุดยืนตรงหน้า พอเห็นเท้าเพื่อนบวมเลยสงสัย

“อ้าวมิ เป็นอะไรทำไมขาเป็นอย่างนั้น” รมย์รวัตรทัก

มิลันดาแทบอยากบีบคอเพื่อนตอนนี้เสียให้ได้ คมฉณัฐนิ่งอึ้งไปสักพักเมื่อได้ยินชื่อ เขารีบปรับสีหน้าตนเองให้เป็นปกติ พิศมองใบหน้าหล่อนอีกครั้ง ผู้หญิงคนนี้คือมิลันดา ไม่แปลกที่หล่อนจะตั้งท่ารังเกียจเขา ไม่อยากเชื่อน้องมิเปลี่ยนราวกับคนละคน

อยากจะบ้าตายที่ตาถั่วจำไม่ได้เลยสักนิด จะให้จำได้ได้ยังไงเล่า ในเมื่อรูปร่างเคยอวบในวัยเด็กกลับมีทรวดทรงองเอวน่ามอง แก้มเคยยุ้ยกลายเป็นเรียวและขาวอมชมพูจนเขาไม่อาจละสายตา ดวงตาเรียวสวยนั้นกลับดูสวยยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เขาแทบบ้าตายกว่าเขาจะรู้ตัวว่าได้พลาด มันก็สายเสียแล้ว

“มาได้ยังไงวัตร” มิลันดาจำต้องทักกลับ

เห็นสายตาที่เขามองมายิ่งทำให้เหล่อนประหม่า หล่อนต้องไม่แสดงให้เขาเห็นว่าหล่อนอ่อนแอเด็ดขาด

“มาแท็กซี่นะสิ ถามได้” รมย์รวัตรกวน

“ถามดีๆ ตอบกวนเดี๋ยวเจอ!” มิลันดาบ่นพร้อมยกมือโชว์กำปั้น

หากหล่อนคือน้องมิ เขาอยากบอกหลายเรื่อง จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ลืมเลือนเช่นเดียวกัน ความผิดในอดีตที่ตนได้กระทำไว้ อยากให้มิลันดาอภัย แล้วกลับมาพูดคุยสนิทสนมกันเช่นเดิม

“น้องมิ พี่ขอคุยกับน้องมิหน่อยได้ไหม”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป